ค่ำไหนนอนนั่น! ขับรถเที่ยวสไตล์ ‘ROAD TRIP’ สุดสโลว์ไลฟ์…งบน้อยก็เที่ยวได้ ฟีลจอยๆ

การได้ไปเที่ยวของแต่ละคน มักมีคำนิยามที่ไม่เหมือนกัน บางคนชอบไปเที่ยวต่างประเทศ บางคนชอบผจญภัยในประเทศ หรือกับบางคนแค่ได้นอนดูทีวีอยู่บ้านก็เหมือนกับการได้ไปเที่ยวแล้ว แต่ถ้าใครอยากเดินทางฟีลปล่อยจอย ปล่อยใจ ลองเที่ยวแบบ ‘Road Trip’ หรือการขับรถเที่ยวระยะไกลสักครั้งในชีวิตดูสิ แล้วชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป! 



เสน่ห์ของการท่องเที่ยวแบบ Road Trip หรือการขับรถเที่ยวระยะไกล กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ด้วยเสน่ห์ที่ไม่เหมือนการท่องเที่ยวรูปแบบอื่น นั่นคือ ความรู้สึกของการผจญภัย อิสระในการเปลี่ยนแปลงแผนการเดินทางได้ตามใจชอบ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่เหมือนการเดินทางกับทัวร์หรือรถสาธารณะ

และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ การท่องเที่ยวแบบ Road Trip ยังถือเป็นการชาร์จพลังให้ตัวเองกลับมาบูสๆ เอเนอร์จีได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยความรู้สึกที่ได้นั่งรถชมวิวสองข้างทาง ได้สัมผัสบรรยากาศที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเมือง ชนบท หรือเส้นทางธรรมชาติ เพราะบางครั้งเรื่องราวระหว่างทางอาจกลายเป็นความทรงจำที่ประทับใจยิ่งกว่าจุดหมายปลายทางเสียอีก และเราเชื่อว่า ทุกการหมุนของล้อรถล้วนนำมาซึ่งเรื่องราวและความประทับใจใหม่ๆ แก่นักเดินทางเสมอ 

How to เตรียมตัวก่อนออกเดินทางแบบ Road Trip ให้ฟินสุดๆ
1. กำหนดงบประมาณให้ชัดเจน
การกำหนดงบประมาณเป็นขั้นตอนสำคัญที่ควรทำก่อนออกเดินทาง โดยควรคำนวณค่าใช้จ่ายหลักๆ ให้ครอบคลุม ได้แก่ ค่าน้ำมันรถ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว และเงินสำรองสำหรับเหตุฉุกเฉิน 

นอกจากนี้ ควรบวกเงินเพิ่มอีก 20-30% จากงบประมาณที่ตั้งไว้ เผื่อกรณีที่มีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด หรือต้องการแวะเที่ยวสถานที่นอกแผน การวางแผนงบประมาณที่ดีจะช่วยให้เราสามารถควบคุมค่าใช้จ่าย และเที่ยวได้อย่างสบายใจตลอดทริป

2. เตรียมรถให้พร้อมลุย!
การเลือกรถให้เหมาะสมกับสถานที่ที่เราจะไป ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเที่ยวแบบ Road Trip เพราะเป็นพาหนะหลักในการเดินทางและผจญภัย เช่น

• นำรถเข้าตรวจสภาพอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนออกเดินทาง
• เช็กแรงดันน้ำมัน ลมยาง แบตเตอรี่ เบรก และเครื่องยนต์
• เตรียมถ่านสำรอง สำหรับรีโมทกุญแจ
• จัดชุดอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น น้ำกลั่น เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ ชุดปฐมพยาบาลและยาประจำตัว สายจัมเปอร์ และอุปกรณ์สะท้อนแสง เป็นต้น

3. วางแผนเส้นทางและที่พักไว้คร่าวๆ
การวางแผนสำหรับ Road Trip ไม่จำเป็นต้องละเอียดจนเกินไป แต่ควรมีการเตรียมตัวในเรื่องพื้นฐานที่สำคัญ เช่น การตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อมใช้งาน การเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินและยาประจำตัว การศึกษาเส้นทางและจุดแวะพักคร่าวๆ ที่อยากไป รวมถึงการจองที่พักล่วงหน้าในบางจุด เพื่อความสบายใจ ที่สำคัญ คือ อย่าลืมโหลดแอปแผนที่แบบออฟไลน์ติดเครื่องไว้ด้วยล่ะ เผื่อพื้นที่นั้นอินเทอร์เน็ตเข้าไม่ถึง

4. จัดกระเป๋าแบบน้อย แต่ครบถ้วน!
การเที่ยวแบบ Road Trip ควรเลือกพกเฉพาะของที่จำเป็น เพราะพื้นที่ในรถมีจำกัด อีกทั้งยังต้องเผื่อที่ไว้สำหรับของที่อาจซื้อระหว่างทาง จึงควรทำลิสต์รายการสิ่งของก่อนเริ่มแพ็ก แล้วแยกเป็นหมวดหมู่ให้ชัดเจน ทริคเล็กๆ คือ ควรแยกชุดนอนและของใช้ในห้องน้ำออกจากกระเป๋าใหญ่ หรือจัดกระเป๋าเล็กสำหรับของใช้ที่ต้องหยิบใช้บ่อยระหว่างทาง แต่ห้ามลืม! พกแบตเตอรี่สำรอง และขนมขบเคี้ยวหรือน้ำดื่มสำหรับระหว่างเดินทางด้วยล่ะ

5. พกเงินสดติดตัว สำหรับกรณีฉุกเฉิน
แม้ปัจจุบันจะมีการชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างแพร่หลาย แต่การพกเงินสดติดตัวไว้บ้างก็เป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไปยังพื้นที่ห่างไกล ที่อาจมีข้อจำกัดในการรับชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ และที่สำคัญ คือ ควรแบ่งเงินสดเก็บไว้หลายๆ ที่ เพื่อความปลอดภัย และควรคำนวณจำนวนเงินให้เพียงพอตามระยะเวลาการเดินทาง

6. Enjoy ระหว่างทาง
เตรียมตัวและเตรียมใจรับความ Enjoy ที่มาในทุกรูปแบบโดยที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งอาจมีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีผสมปนเปกันไป แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปก็จะกลายเป็นความทรงจำที่สวยงาม ที่สำคัญ คือ อย่าขับรวดเดียวแล้วให้ถึงปลายทางเลย ควรจอดแวะพักชมวิวบ้างหรือสลับให้คนอื่นมาช่วยขับ ก็จะทำให้ไม่เหนื่อยมากและสามารถขับรถได้นานแบบปลอดภัย  

7. Checklist! ของที่ห้ามลืม…พกไว้ใกล้ตัว เมื่อไป Road Trip
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการแพ็กกระเป๋า คือการเก็บของใช้จำเป็นไว้ก้นกระเป๋า ทำให้ต้องเสียเวลารื้อค้นเมื่อต้องการใช้ ควรแยกของใช้จำเป็นใส่กระเป๋าเล็กวางใกล้ตัว เพื่อความสะดวกในการใช้มากขึ้น เช่น

• กระบอกน้ำส่วนตัว เพื่อจิบดื่มได้ตลอดการเดินทาง
• กระเป๋าอุปกรณ์ทำความสะอาด (ทิชชูแห้ง-เปียก l เจลล้างมือ l ถุงขยะ)
• ยาประจำตัวและยาสามัญ
• แว่นกันแดดและครีมกันแดด
• สายชาร์จและแบตสำรอง
• ขนมขบเคี้ยว อาหารสำเร็จรูปต่างๆ
• เงินสด

การเดินทางแบบ Road Trip จึงไม่ใช่แค่การขับรถจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง แต่เป็นการผจญภัยที่เต็มไปด้วยประสบการณ์และความทรงจำที่มีค่า การได้ควบคุมการเดินทางด้วยตัวเอง ได้เลือกเส้นทางและจังหวะการเดินทางตามใจปรารถนา พร้อมแบ่งปันช่วงเวลาพิเศษกับคนที่เรารัก ทำให้ Road Trip กลายเป็นการท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์และน่าประทับใจไม่รู้ลืม

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคุณจะเลือกเดินทางไปที่ไหน ระยะทางใกล้หรือไกล สิ่งสำคัญที่สุด คือ การเปิดใจรับประสบการณ์ใหม่ๆ และปล่อยให้การเดินทางพาคุณไปพบเจอสิ่งที่ไม่คาดคิด เพราะบางครั้งความประทับใจที่ดีที่สุดอาจไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทาง แต่อยู่ที่เรื่องราวและมิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางนั่นเอง