Peter Pan Syndrome อาการไร้วุฒิภาวะ ในวัยที่ควรมี (ซักทีเถอะ)

โตขนาดนี้ละ
ทำไมยังไม่มีวุฒิภาวะอีกก..

ถ้าใครเคยฟังเพลง Lost Boy ของ Ruth B ที่เล่าเรื่องของความโดดเดี่ยวจากการเป็นผู้ใหญ่ที่อยากจะบินหนีไปกับปีเตอร์ แพน ไปหาทิงเกอร์เบล และกัปตันฮุกที่เกาะ Neverland เพื่อเล่นสนุกอย่างเดียวไปวันๆ ไม่อยากโตซักที นานๆ เข้าความไม่อยากโตนี้ก็จะทำให้ชีวิตในหลายๆ ด้านไม่พัฒนาทั้งที่กาลเวลามันนำพาให้ถึงวัยที่ควรเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว ซึ่งเค้าก็เรียกภาวะอาการแบบนี้ว่า Peter Pan Syndrome  เป๊ะๆ ตามความต้องการของปีเตอร์ที่ไม่อยากโตนั่นแหละ



Peter Pan Syndrome คือคำเรียกพฤติกรรมของคนที่ชอบหนีความรับผิดชอบ หรือหน้าที่ของตัวเอง หันไปหาเซฟโซน และความบันเทิงอื่นๆ ให้ตัวเองมีความสุขมากกว่าจะเอาเวลามานั่งเครียด ไม่อยากทำงานสูงๆ เงินเยอะๆ มีลูกน้องให้ต้องคอยดูแล หรือทำงานอะไรที่ใช้สมองเยอะกว่าเดิมหน่อยก็ไม่เอาแล้ว เลยทำให้คนพวกนี้ต้องไปพึ่งพาคนอื่นเป็นประจำ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือพ่อแม่ มีปัญหาในการจัดการชีวิตตัวเอง จนบางครั้งคนภายนอกมองเข้ามาก็เกิดสงสัยว่า “ไอ้นี่เมื่อไหร่จะโตนะ”

ว่ากันว่า สาเหตุของภาวะนี้มักเกิดจาก
 
  • การเลี้ยงดู มีพ่อแม่ตามใจมากเกินไปตั้งแต่เด็ก ลูกจึงไม่รู้จักแบ่งเบาหน้าที่ทางบ้าน หรือไม่รับผิดชอบตัวเอง เพราะยังไงพ่อแม่ก็จัดการให้อยู่ดี หรือคนที่ดีขึ้นหน่อย ก็ออกมาทำงานเองได้ แต่เมื่อเจอปัญหาอะไรที่บริษัทก็จะขาดวุฒิภาวะ ทำงานไม่ค่อยดี ติดเล่นไปวันๆ 
  • เศรษฐกิจแย่ ยุคนี้มันหางานยากอ่ะเนอะ บางคนมีอายุแล้ว เงินก็ไม่พอใช้ เครียดก็เครียด หนีไปหาอะไรสนุกๆ แบบเด็กๆ ทำดีกว่า
  • นิสัยตัวเองล้วนๆ เวย์นีัสังเกตยากหน่อย เพราะบางคนนิสัยชิลล์ๆ ง่ายๆ อะไรก็ได้ ไม่เครียดกับชีวิตมาก ก็จะสังเกตอะไรแบบนี้ยากกว่า


เช็กคนข้างๆ สิ เข้าข่ายเป็น Peter Pan Syndrome แค่ไหน
 
  • หนีปัญหาเก่งเป็นที่หนึ่ง มีโล่ได้โล่ไปครอง เลี่ยงภาระทุกอย่างที่เป็นไปได้ จัดการปัญหาด้วยความเงียบ ไม่ก็เฟดตัวไปหลบหลังคนอื่นอยู่บ่อยๆ
  • ตัวบิดามารดรด้านความสนุก อะไรสนุกเค้าต้องมาก่อน เรื่องงานเอาไว้ทีหลัง ชอบเที่ยว ชอบเจอคนใหม่ๆ ไม่ค่อยอยากมีความสัมพันธ์จริงจัง ชอบมีความรักแบบง่ายๆ
  • งานบ้านไม่ยอมจัด งานถนัดคือหนีเก่งงานบ้านมีเป็นร้อย ทำน้อยถึงไม่ทำเลย จะว่าซกมกก็ไม่เชิง ชอบปล่อยเสื้อผ้ากองไว้ตรงนั้น จานชามไม่ยอมล้าง เพราะเบื่อไม่อยากทำ อยากออกไปเล่นสนุกๆ มากกว่า
  • ไม่วางแผนอนาคต เงินออมหลังเกษียณคืออะไร ไม่รู้จัก ไว้ค่อยพูดถึงนะ เงินทั้งหมดที่หามาได้ก็เอาไปลงกับอะไรสนุกๆ ซะหมด ชอบรวยทางลัด ปุ๊ปปั๊ปเงินต้องมา เผลอๆ อาจขอพ่อแม่เพิ่มอีก YOLO น่ะ ยูโน้วว?
  • ทำงานไม่มีคุณภาพ ทำแบบส่งๆ ขอไปที ไหนลองหันไปมองเพื่อนร่วมงานผู้แสนดีซักหน่อย งานที่ทำอยู่ดีจริงไหม ทำเสร็จแล้วตัวปล่อยจอย แต่เพื่อนปล่อยนอยด์งี้ก็ไม่ไหว ต้องให้คนมาจัดการกับปัญหาที่ทิ้งไว้ให้ทุกที


คนที่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นอาการนี้หรือมีคนใกล้ตัวเป็นก็ต้องแนะนำหาวิธีรับมือและปรับตัวยังไงถึงจะเวิร์ก
 
  • ตั้งเป้าหมาย  เช่น ถ้าเรารู้สึกใช้จ่ายเกินตัว ทำชีวิตติดปัญหาขัดสน ลองตั้งเป้าหมายแบ่งเงินเก็บซักหน่อย ห้ามเอาออกมาใช้เด็ดขาด ส่วนที่เหลือถ้าใช้จ่ายหนี้หมดแล้ว ก็ตามใจเลย
  • หาแรงบันดาลใจ ทุกคนมีด้านมืดของตัวเองทั้งนั้น บางครั้งเรื่องราวของคนอื่น อาจเป็นหนทางสว่างของคนที่เจอปัญหาอยู่ก็ได้ คิดกับตัวเองเยอะๆ ว่าอยากเป็นอะไร? อยากเปลี่ยนแปลงอะไร?
  • เปลี่ยนแปลงตัวเองทีละนิด เริ่มจากเรื่องจิ๋วๆ อย่างเอาผ้าไปซักซักตะกร้าหนึ่ง ถ้ามีผ้ากองเยอะมาก อาทิตย์หน้าก็เพิ่มเป็นสอง ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าผ้าที่กองพะเนินจะซักจนหมด และเอาวิธีนี้ไปปรับใช้กับด้านอื่นๆ ด้วย

อ่านไปอ่านมาก็แอบสงสัยว่า "เอ๊ะ... นี่มันก็อาการของคนปกติไม่ใช่เหรอ แปลกยังไง?" จริงๆ แล้วภาวะนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรมาก ตราบใดที่ไม่ทำให้ชีวิตตัวเองหรือคนอื่นพัง! บางทีคนแบบนี้ก็เป็นสีสันชีวิตได้อยู่เหมือนกัน การปรับตัวให้เป็นผู้ใหญ่อาจจะไม่ง่าย แต่เชื่อเถอะว่าถึงเวลาที่ต้องจริงจังกับชีวิต มันจะกลายเป็น 'ตัวแปร' สำคัญที่ช่วยให้เราเริ่มต้นทำสิ่งดีๆ เพื่ออนาคตของตัวเอง!
-->