ทฤษฎีความผิดพลาด ที่จะช่วยให้มองโลกในแง่ดีอีกมุม


เคยได้ยินกันไหม Burnt Toast Theory หรือทฤษฎีขนมปังไหม้? จริงๆ แล้วทฤษฎีนี้คืออะไร? ทฤษฎีนี้เน้นแนวคิดที่ว่าความไม่สะดวกเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเจอในชีวิตประจำวัน บางอย่างเกิดขึ้นเพื่อเหตุผลที่ยิ่งใหญ่กว่าหรือมีความหมายมากขึ้น



ลองมองกลับมาในชีวิตประจำวันของเรา 
บางทีการที่เราทำขนมปังไหม้ในตอนเช้าก่อนออกไปทำงาน ก็ส่งผลกระทบอื่นๆ ตามมาอีกด้วย อาจต้องไปทำงานสายกว่าปกติหรือเปล่า ซึ่ง Domino effect เหล่านี้อาจทำให้หลายๆ เหตุการณ์เปลี่ยนไป เช่น เราพลาดรถที่ต้องขึ้นไปทำงานเป็นประจำแล้ววันนั้นรถดันเกิดอุบัติเหตุ หรือแม้กระทั่งไปทำงานสายอาจจะทำให้เราไม่ต้องไปบังเอิญเจอแฟนเก่าบนรถไฟฟ้าก็ได้ 

การที่จักรวาลส่งความไม่สะดวกเล็กน้อยมาให้เรา คือการปกป้องเราจากสิ่งที่อาจทำให้เราเสียหายได้มากกว่า หรือเป็นการผลักดันเราไปในทิศทางใหม่ที่เราไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้องการไป แค่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ก็อาจส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้

เลือกที่จะมองมุมกลับ ปรับมุมมอง ของโลกในมุมบวกอีกมุมนึง 
ทฤษฎีนี้สามารถช่วยลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ หรือความล้มเหลวในชีวิตได้ โดยการมองเห็นศักยภาพในแง่บวกที่เกิดขึ้นจากช่วงเวลานั้น แม้ว่าเหตุการณ์เหล่านั้นจะอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา หลายๆ คนอาจประสบกับอาการระมัดระวังเกินไป (hypervigilance) ซึ่งหมายถึงความรู้สึกที่ตึงเครียดตลอดเวลา กังวลเกี่ยวกับทุกรายละเอียดในชีวิต รู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังกังวล คิดมาก หรือจมอยู่กับเรื่องบางอย่างตลอดเวลา 

Jennifer Warwick (MSc Psych, BACP Registered) อธิบายว่า การระมัดระวังทางอารมณ์นี้อาจเกิดจากความรู้สึกวิตกกังวล บาดแผลจากอดีต ความเครียดสูง และความต้องการแบบ Perfectionist ซึ่งหลายๆ อย่างเหล่านี้อาจรู้สึกเหมือนอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา การหาความสงบจากแนวคิดที่ว่าทุกสิ่งในชีวิตมีเหตุผลเบื้องหลัง แม้ในสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ อาจช่วยให้บางคนปลดปล่อยความรู้สึกเหล่านี้และการตอบสนองโดยอัตโนมัติ ทฤษฎีขนมปังไหม้สามารถถูกมองเป็นคำที่ทันสมัยขึ้นจากคำว่า "Everything happens for a reason หรือ ทุกอย่างเกิดขึ้นเพื่อเหตุผลอะไรบางอย่าง" ในขณะที่บางคนพบว่าแนวคิดนี้ให้ความรู้สึกสบายใจ แต่สำหรับบางคน มันอาจจะไม่ช่วยให้ดีขึ้นก็ได้

แล้วสำหรับเราทฤษฎีขนมปังไหม้นี้ ดีจริงๆ หรอ?
บางคนกังวลว่าทฤษฎีขนมปังไหม้อาจกลายเป็นกระแสของ toxic positivity ที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ ตามที่นักจิตบำบัด (UKCP Accred) Agnieszka Jacewicz อธิบายว่า ความคิดบวกที่เป็นพิษนั้นสามารถเป็นอันตรายได้ “ความคิดบวกที่เป็นพิษ (Toxic positivity)” คือแนวคิดที่ว่าควรจะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีตลอดเวลา แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากหรือเป็นการบาดเจ็บทางจิตใจ มันชี้ให้เห็นว่าอารมณ์เชิงลบ เช่น ความเศร้า โกรธ หรือความหงุดหงิด เป็นสิ่งที่ไม่ดีและควรหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด ปัญหาของความคิดบวกที่เป็นพิษคือมันทำให้เราไม่ยอมรับอารมณ์และประสบการณ์ที่แท้จริงของเรา และอาจทำให้เรารู้สึกผิดเมื่อรู้สึกอะไรที่ไม่ใช่ความคิดบวก นี่อาจทำให้เกิดลูปแห่งการโทษตัวเอง

เมื่อเรากดดันตัวเองมากเกินไป ให้มองโลกแต่แง่ดี
เราก็เสี่ยงที่จะทำให้ประสบการณ์ของตัวเอง และของคนอื่นดูเหมือนไม่สำคัญ เราอาจพบว่าตัวเองหลีกเลี่ยงที่จะรับรู้และยอมรับประสบการณ์ที่ไม่สบายใจหรือเป็นการบาดเจ็บทางจิตใจอย่างเต็มที่ เพราะเราพยายามที่จะมองแค่ด้าน "ดี" ที่อาจจะเกิดขึ้นจากสิ่งเหล่านั้น บางครั้งมันอาจจะเป็นเรื่องที่ดีในการยอมรับว่าเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นจริง และการพยายามหาความหมายหรือเหตุผลอาจไม่ช่วยอะไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ควรพยายามปรับทัศนคติที่เป็นบวกและการเติบโต หากนั่นคือสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเรา

การยอมรับทัศนคติในการเติบโต (growth mindset) คือการเชื่อมั่นในตัวเอง สามารถช่วยให้คุณมีความมั่นใจ มีความยืดหยุ่น และมีแรงบันดาลใจมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งนี้สามารถพัฒนาความสัมพันธ์และประสิทธิภาพในการทำงานของคุณ และอาจนำไปสู่ชีวิตที่มีความสุขและเติมเต็มมากขึ้น อย่างที่ที่ปรึกษา Saleha Choudhury (Diploma in Counselling, MBACP) อธิบายว่า "มันสำคัญที่จะต้องเข้าใจว่า การเชื่อมั่นในตัวเองไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถสร้างขึ้นมาได้ในทันที มันเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา ความพยายาม"

แม้ทฤษฎีขนมปังไหม้จะช่วยให้เรามีความรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์น่าหงุดหงิดเล็กๆ ที่เราอาจไม่ได้คาดคิด แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องมองหาข้อดีเมื่อทุกอย่างมันผิดพลาดจริงๆ การยอมรับว่าบางครั้งสิ่งต่างๆ มันก็แย่ไปเลยก็ไม่เป็นไร แต่ด้วยเวลาและความทุ่มเท เราสามารถพัฒนาได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราจัดการกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในอนาคต การฝึกฝนการยอมรับต่อตัวเองเมื่อเราทำไม่ได้ตามที่คาดหวัง หรือสิ่งที่อยู่เหนือความควบคุมของเรา และบางครั้งเราทำได้แค่ดีที่สุดเท่านั้น
-->