แค่พูดว่า ‘ไม่’ ก็ช่วยลดเครียด แถมสุขภาพจิตดีขึ้น!

เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเจอกับสถานการณ์ที่ลังเล เมื่อมีคนขอให้ช่วยอะไรซักอย่างหนึ่ง แต่รู้ตัวอีกทีก็ตอบว่า ‘ได้’ หรือตกลงที่จะช่วยไปแล้ว ทั้งที่จริงอยากจะพูดว่า ‘ไม่’ หรือปฏิเสธออกไปเสียด้วยซ้ำ แต่ด้วยสถานการณ์ในขณะนั้น ความคิดในหัวมันดังก้องเยอะแยะไปหมด ทำให้เกิดอาการลังเล จนเผลอตอบตกลงไปซะงั้น แล้วเหตุผลที่ทำให้เราปฏิเสธไม่ได้ มันมีอะไรอยู่บ้างนะ?



ทำไมเราถึงไม่กล้าพูดว่า ‘ไม่’ ในทันที
บางสถานการณ์นั้นเราก็ไม่สามารถเลี่ยงการพูดว่า ‘ไม่’ หรือตอบปฏิเสธในทันที ด้วยความคิดที่ตีกันไปตีกันมา แต่รู้สึกว่าถ้าตอบว่าไม่อาจเกิดปัญหาขึ้นได้ คลินิกด้านการดูแลสุขภาพจิตในสหรัฐอเมริกาหรือ Synergergy Health ได้ให้เหตุผลไว้ด้วยกัน 4 ข้อ ว่าทำไมเราถึงตอบว่าได้ ทั้งๆ ที่ใจจริงอาจไม่ได้อยากรับปากหรือตอบตกลงเสียด้วยซ้ำ
 
  • หลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่ง เพราะหากตอบว่า ‘ไม่’ อาจทำให้บรรยากาศในตอนนั้นดูครุกรุ่น ตึงเครียด หรือเกิดแรงกดดันเกิดขึ้นได้ จึงมักเลือกตอบว่าได้ เพื่อไม่อยากให้บรรยากาศเหล่านี้เกิดขึ้นรอบๆ ตัว
  • ต้องการให้คนอื่นพึงพอใจ ตอบเพราะรู้สึกว่าได้รับความพึงพอใจจากผู้อื่น ทำให้รู้สึกดี แต่! ควรต้องลดในส่วนนี้ลงเพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ดีกับตัวเอง ในบางครั้งคนอื่นอาจคาดหวังผลที่จะเกิดขึ้นจากเรา จนกลายเป็นความกดดันในตัวเอง และหากเราต้องทำในสิ่งที่ไม่ถนัด สุดท้ายแล้วคุณอาจเป็นผู้ที่ต้องแบกรับความเครียดไว้เองจนทำสิ่งนั้นออกมาได้ไม่ดี
  • กลัวว่าจะพลาดบางสิ่งไป เพราะถ้าตอบว่าไม่ อาจทำให้พลาดในเรื่องนั้นๆ หรือรู้ไม่เท่ากับคนที่ได้ความรับผิดชอบไป กลัวเสียโอกาสหากสิ่งนั้นสร้างประโยชน์ในอนาคต เป็นสิ่งที่ยังไม่มาถึง จึงตอบว่าได้หรือตกลงไปก่อน เพื่อปกป้องความรู้สึกที่จะมานั่งเสียดายทีหลัง แบบว่า… รู้งี้ตกลงรับผิดชอบเองดีกว่า
  • ความบังเอิญ เป็นเรื่องที่ตนเองถนัด ทำสิ่งๆ นี้อยู่แล้ว หรือเป็นความสนใจที่มี จึงทำให้ตอบว่าได้ ในสถานการณ์ที่ตัวเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะทำได้ดีมั้ย รู้ตัวอีกทีก็งานเข้าเสียแล้ว…



แค่พูดว่า ‘ไม่’ ก็สุขภาพดีขึ้นได้
มาพูดถึงเรื่องของสุขภาพกันบ้าง แต่แค่พูดว่า ‘ไม่’ มันจะช่วยเรื่องสุขภาพได้ยังไงละเนี่ย? เพียงคุณเปลี่ยนเป็นคนที่พูดว่า ‘ไม่’ ออกไปอย่างไม่ต้องลังเล (แต่ยังคงมีความนุ่มนวล) มันจะทำให้คุณกลายเป็นคนที่ไม่ต้องเครียด และจัดการชีวิตในแต่ละวันได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะเราไม่ต้องฝืนทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ หรือไม่สะดวกในขณะนั้น โดยหนึ่งในงานวิจัยจากกลุ่มนักศึกษาปริญญาโทด้านจิตวิทยาการศึกษา มหาลัยชีราซ ประเทศอิหร่าน พวกเขาได้ทำการสำรวจกลุ่มเด็กปริญญาตรีจำนวน 120 คน คละกันจากหลากหลายชั้นเรียน พบว่ากลุ่มนักศึกษาที่กล้าพูดคำว่า ‘ไม่’ เพื่อปฏิเสธในสิ่งที่ตนเองไม่ต้องการทำ หรืออาจไม่สะดวกที่จะทำสิ่งๆ นั้น นักศึกษากลุ่มเหล่านี้กลับมีความเครียดน้อยกว่า เพราะพวกเขาสามารถมีเลือกทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ คำว่า ‘ไม่’ ยังถือเป็นตัวช่วยจัดการความเครียดได้อย่างดี และช่วยทำให้ภายในจิตใจรู้สึกมีความสุขเพิ่มขึ้นอีกด้วย 

3 เทคนิค เสริมมั่นใจเมื่อต้องพูดว่า… ‘ไม่’
 
  • สุภาพไว้ก่อน ตอบไม่หรือปฏิเสธด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่สุภาพ  เพราะการตอบไม่ อย่างแข็งกระด้างหรือตอบโต้ด้วยอารมณ์ที่ร้อนแรง อาจกลายเป็นการสร้างศัตรู และถูกมองว่ามีอะไรปิดบังอยู่หรือไม่ จนอาจกลายเป็นประเด็นในเรื่องอื่นๆ ตามมาภายหลังได้
  • ตรงไปตรงมา เราไม่ควรรู้สึกผิดในการตอบว่าไม่หรือปฏิเสธ เพราะหากเราไม่ถนัดหรือไม่พร้อมจะทำในสิ่งที่ถูกขอให้ช่วยเหลือ ก็ต้องบอกไปตามตรง ไม่งั้นคุณอาจต้องเสียเวลากับงานหรือเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของคุณ และในบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องบอกถึงเหตุผล เพราะการบอกถึงเหตุผลก็มักทำให้มีข้อต่อรองเพิ่มเข้ามา จนคุณก็ยากที่จะปฏิเสธซ้ำอีกครั้ง 
  • อย่าลังเล มั่นใจกับคำพูดที่จะตอบออกไป อย่าใจอ่อนเพราะคำพูดที่ดูอ่อนไหว เพราะหากมีช่องว่างหรือเผลอแสดงท่าทีที่ไม่มั่นใจออกไปอาจถูกต่อรองให้ช่วยในที่สุด หากในบางสถานการณ์สามารถตอบได้ว่าขอคิดดูก่อน ก็อย่าพึ่งไปตอบตกลงซะทีเดียว แต่ให้เวลาตัวเองได้คิดทบทวนก่อน แล้วค่อยตอบกลับไปอีกครั้งก็ยังได้นะ

เพราะทุกคนมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบของตัวเอง หากปฏิเสธไม่เป็นก็อาจทำให้ต้องเสียเวลาพักผ่อน เวลาส่วนตัว หรืออาจทำให้กลายเป็นคนที่เครียดจนไม่มีความสุข เราควรเลือกความสบายใจที่ยังเป็นตัวของเราเอง  “เพราะทุกคนสามารถเป็นคนดีที่มีจิตใจดีได้ แม้ว่าจะพูดปฏิเสธอยู่บ้างในบางครั้ง”
-->