ผู้ชายไม่ต้องใช้ของแพง จริงเหรอ?
“ซื้ออะไรก็ซื้อดีๆ แพงๆ ใช้นานๆ ไปเลย”
ว่ากันแบบไม่ต้องอิงสถิติหรือสำรวจอะไรให้มาก อาจจะพูดได้ว่านิสัยการจับจ่ายใช้สอยของผู้ชายกับผู้หญิงค่อนข้างจะต่างกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ผู้ชายส่วนใหญ่มักไม่ค่อยสนใจเรื่องการแต่งตัวหรือตามแฟชั่นมากนัก ไม่ซื้อเสื้อผ้าบ่อยชนิดที่ว่าพอเงินเดือนออกปุ๊บก็อยากช้อปปั๊บ แต่จะซื้อก็ต่อเมื่อของที่ใช้อยู่มันเก่ามากแล้ว และทุกครั้งที่ซื้อก็มักซื้อเยอะๆ ไปเลย จะได้ใช้นานๆ ต้องจ่ายเยอะก็ไม่ว่าขอให้ได้คุณภาพและฟังก์ชั่นที่ครบ ซื้อครั้งเดียวจบเป็นพอ
ถึงแม้ว่าเราจะเห็นการช้อปของผู้ชายส่วนใหญ่ออกมาในแนวนี้ก็ไม่ได้การันตีว่าผู้ชายจะประหยัดเงินได้มากกว่าผู้หญิง เพราะแต่ละคนก็มีเรื่องชอบเรื่องใช้ต่างกันไปไม่เกี่ยวกับเพศ แต่ที่ทำให้ต้องร้องโอ้ว!!... ก็เพราะมีการสำรวจชิ้นหนึ่งที่บอกว่า ผู้ชายจะได้เปรียบเรื่องการใช้เงิน เพราะเขาพบว่า ตลอดชีวิตของผู้ชายไม่ว่าจะซื้อสินค้าอะไรในชีวิตประจำวัน ก็มักมีราคาถูกกว่าของผู้หญิงเสมอ ทั้งๆ ที่เป็นของประเภทเดียวกัน และมีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน
โดย The New York City Department of Consumer Affairs ได้ทำการศึกษาเปรียบเทียบราคาสินค้าของผู้หญิงกับผู้ชายกว่า 800 ชนิด 35 ประเภทสินค้า พบว่า
- เสื้อผ้าเด็กผู้หญิงแพงกว่าของเด็กผู้ชาย 13% เพียงแค่เป็นสีชมพูหรือมีอะไรประดับนิดหน่อยก็แพงกว่าแล้ว
- ของเล่นเด็กผู้หญิงแพงกว่าของเด็กผู้ชาย 11% ทั้งๆ ที่เป็นของแบบเดียวกันเป๊ะ แค่ต่างสีกันเท่านั้น
- เสื้อผ้าผู้หญิงแพงกว่าผู้ชาย 15% นั่นอาจจะเป็นเพราะเสื้อผ้าผู้หญิงมักมีดีเทลหรือความหรูหรามากกว่าของผู้ชาย
- ของใช้ส่วนตัว เช่น แชมพู สบู่ ครีมบำรุงผิว น้ำยาดับกลิ่นกาย ของผู้หญิงก็แพงกว่าของผู้ชายเหมือนกัน อาจเป็นเพราะมีความหลากหลายของรูปแบบ สี กลิ่นมากกว่า รวมถึงแพ็คเกจจิ้งที่ดูดีกว่า
เห็นผลสำรวจแบบนี้ผู้ชายอาจร้องเฮดังๆ... แต่อย่าเพิ่งลิงโลดไป เพราะในความเป็นจริงของสังคมไทยแล้ว... ผู้ชายมักเป็นฝ่ายที่ต้องจ่ายแพงกว่าเสมอ ไม่ว่าจะด้วยหน้าที่ที่ต้องเทคแคร์ผู้หญิงหรือ วัฒนธรรมความคาดหวังที่ว่า ผู้ชายควรเป็นฝ่ายเปย์หรือดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้กับแฟนและคนในครอบครัว สุดท้ายกลายเป็นว่าเงินที่ประหยัดของตัวเองได้ก็ต้องถูกใช้เพื่อเอาใจคนรอบข้างอยู่ดี เฮ้อออ!!.... แบบนี้ ถึงแม้ของใช้ส่วนตัวจะถูกกว่า ก็ไม่ช่วยอะไรเลยสินะ