เลี้ยงลูกให้เป็นฝ่ายพ่ายแพ้บ้างก็ได้

ลูกของใคร ใครก็รัก อันนี้คือเรื่องจริงที่สุด คุณพ่อคุณแม่หลายคน คงมีความคาดหวังที่จะเลี้ยงลูกของเราให้เป็นเด็กดี เรียนเก่ง พร้อมเติบโตไปเป็นเด็กที่มีคุณภาพในสังคม แต่ก็มีพ่อแม่อีกหลายครอบครัว ที่อาจจะเลี้ยงลูกแบบตามใจ วิธีการแบบนี้ อาจจะทำให้ลูกของเราเผชิญกับภาวะฮ่องเต้ซินโดรมได้ในที่สุด



ภาวะฮ่องเต้ซินโดรม คืออะไร?
ฮ่องเต้ซินโดรม หรือ Little Emperor Syndrome เป็นโรคที่เกิดในเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูแบบปกป้อง ตามใจ มากจนเกินไป โดยไม่ปล่อยให้เด็กได้เรียนรู้ที่จะอดทน ผิดหวัง หรือแม้แต่เผชิญความลำบากด้วยตัวเอง และมักจะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางของสังคม ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไขอาจส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตในอนาคต
.
อย่างไรก็ตามภาวะฮ่องเต้ซินโดรม จะเด่นชัดที่สุด คือการแสดงออกของตัวเด็กเอง โดยส่วนใหญ่เด็กมักจะมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง มีความดื้อเงียบ ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางกับทุกสิ่ง ไม่สามารถรอ หรืออดทนรอกับสิ่งต่างๆ ได้นาน ซึ่งแน่นอนว่า การมีพฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้ตัวเด็กเอง มีปัญหากับการเข้าสังคมในอนาคต ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งในแง่มุมของการเรียน การพบปะเพื่อนๆ รวมทั้งการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับบุคคลอื่นๆ ที่ตัวเด็กเองอาจจะมีโอกาสได้พบเจอ หรือทำงานร่วมกับบุคคลเหล่านี้ในอนาคต
.
ฟังถึงตรงนี้แล้ว หลายคนคงมีข้อสงสัยว่า ก็แค่เด็กไม่กี่ขวบเอง จะส่งผลถึงขนาดนั้นเลยเหรอ? ก็ต้องตอบเลยว่า ส่งผลในระยะยาวแน่นอน ในช่วงวัยเด็ก ที่มีอายุตั้งแต่ 5-12 ปี เป็นช่วงที่เด็กกำลังเรียนรู้และจดจำเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต การอบรม เลี้ยงดู และสั่งสอน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากในช่วงเวลานี้ ดังนั้นเรามักจะได้ยินหลายๆ คน มีเรื่องราวที่เล่าให้คนอื่นฟังตอนโต ว่าตอนเด็กเรามีนิสัยอย่างไร หรือพฤติกรรมบางอย่าง แน่นอนว่าถ้าเป็นในด้านที่ดี ย่อมส่งผลดีอยู่แล้ว ในทางตรงกันข้าม หากเป็นเรื่องที่ไม่ดี อาจจะส่งผลเสียในระยะยาวได้เช่นกัน

เรื่องนี้มีทางออก!!! เมื่อเราเลี้ยงลูกด้วยวิธีการที่ถูกต้อง
สิ่งสำคัญของคุณพ่อคุณแม่ทุกบ้าน จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการเลี้ยงลูก คือการสร้างความรู้และความเข้าใจในการอบรมและสั่งสอนเด็กๆ ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ซึ่งทุกอย่างต้องเกิดขึ้นร่วมกันระหว่างพ่อแม่ผู้ปกครองและตัวเด็กเอง
 

• สร้างกติการ่วมกันในบ้าน การเริ่มต้นด้วยการสร้างกติกาและกฎเกณฑ์ต่างๆ ระหว่างพ่อแม่และลูก เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกของเรานั้นได้รู้และเข้าใจในการเคารพกฎเกณฑ์ที่เป็นตัวกำหนดในการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคม อาจจะเริ่มจากเรื่องง่ายๆ อย่างการตื่นนอนและการเข้านอน การกินข้าวให้เป็นเวลา เล่น และพักผ่อนตามระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้
• เวลาเป็นสิ่งสำคัญ พ่อแม่ควรให้ความสำคัญกับการใช้เวลาร่วมกับลูก บางครอบครัวอาจจะทำงานหนักจนละเลยการทำกิจกรรมร่วมกับลูก หรือละเลยช่วงเวลาในการพูดคุยกันไป สิ่งเหล่านี้หากปล่อยเอาไว้เป็นเวลานาน ลูกของเราอาจจะเป็นเผชิญกับภาวะซึมเศร้า และรู้สึกโดดเดี่ยว
• ชื่นชมและลงโทษอย่างเหมาะสม เมื่อลูกของเราทำดีควรได้รับการชื่นชม ในทางกลับกัน หากทำผิด พ่อแม่ควรอบรมและสั่งสอน เพื่อให้ตัวเด็กได้รู้ถึงเหตุและผล ว่าสิ่งไหนควรทำและไม่ควรทำ ซึ่งการลงโทษก็สามารถกำหนดขึ้นมาร่วมกันได้ ทั้งนี้จะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเด็กได้รู้ว่าสิ่งไหนควรทำ และสิ่งไหนคือพฤติกรรมที่ไม่ควรทำ
• ของขวัญเสริมสร้างกำลังใจ สิ่งที่จะทำให้ลูกของเรานั้นให้ความสนใจและเอาใจใส่กับสิ่งที่กำลังจะบอกเขา อาจจะต้องหาตัวช่วยเพื่อให้สิ่งนั้นประสบความสำเร็จ เมื่อไหร่ที่เขาเป็นดีที่น่ารัก พ่อแม่ควรมอบของขวัญให้กับลูกของเรา เพื่อให้เขาได้เห็นถึงความสำคัญและมองว่า สิ่งที่พ่อแม่ได้บอกกล่าวนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญสำหรับเขา

แม้ว่าการดูแลลูกน้อยของเราจะเป็นเรื่องที่ยากและอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องใช้เวลากับเรื่องนี้มากพอสมควร แต่ในอนาคตสิ่งเหล่านี้จะคุ้มค่ามากที่สุด เมื่อเขาโตมาเป็นเด็กที่มีคุณภาพและอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข Health Addict ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ทุกๆ ครอบครัว ❤️❤️❤️