เธอคือ Artist ด้านการวาด และอินฟลูเอนเซอร์ที่ไม่เคยหยุดฝัน
หลายคนน่าจะเคยเห็นผลงานของเธอคนนี้ “ถงถง-ณภัทร นานาชิน” มาบ้าง ถ้าไม่คุ้นหน้าคุ้นตา ก็อาจจะเห็นเป็นชิ้นงาน อย่างภาพวาดการ์ตูนเหมือนที่เหล่าเซเลปต่างต้องจีบให้เธอครีเอทงานวาดให้เป็นของขวัญ และไม่ใช่เท่านี้นะ! เธอยังเป็นทั้งนางแบบอิสระ ยูทุปเบอร์ บล็อกเกอร์ นักร้อง นักเขียน และอินฟลูเอ็นเซอร์ด้านการใช้ชีวิตอีกด้วย แถมยังเคยติดท๊อปเน็ตไอดอลสุดขยัน สร้างรายได้หลายแสนตั้งแต่อายุ 19 เก่งรอบด้านขนาดนี้ เราเลยพาคุณมาขโมยมายด์เซ็ทดีๆ แนวทางประสบความสำเร็จตามฝันแบบเริ่ดๆ กับเธอคนนี้ไปพร้อมๆ กัน!
จุดเริ่มต้นความฝันมาจาก “กระดาษกับสี”
เธอเล่าว่าตอนเด็ก คุณแม่ชอบให้เธอคลุกคลีกับสีและกระดาษมาก เรียกว่าเป็นกิจกรรมตอนเด็กที่สร้างฝันเธอให้เป็นจริง โดยเธอเริ่มต้นจากการลองพับสีและเป่าสีก่อนจะต่อด้วยการวาดรูป ซึ่งพอทำไปเรื่อยๆ มันกลายเป็นสิ่งที่จุดประกายให้เธอตกหลุมรักในงานศิลปะมากขึ้น เธอตั้งใจฝึกฝนตัวเองเพื่อให้มีความชำนาญมากขึ้น เราเลยไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงสามารถวาดภาพไปด้วยคุยไปด้วยได้ในเวลาเดียวกัน สกิลดีจนเหมือนเรานั่งคุยกันธรรมดาเพราะสมาธิของเธอนั้นดีมาก!
แนวศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ คือการสร้างจุดเด่นในชิ้นงาน
ส่วนตัวเธอคิดว่า สิ่งที่จะสร้างจุดเด่นในชิ้นงานเพิ่มมากขึ้นก็คือ ไอเดียศิลปะ ที่สร้างโดยเจ้าของชิ้นงานนั้นๆ เธอเปรียบมันกับลายมือของแต่ละคน ยิ่งทำให้เราเห็นชัดว่า จินตนาการที่ลึกซึ้งของศิลปินแต่ละคนย่อมไม่มีทางเหมือนกันได้ เหมือนอย่างชิ้นงานแนวศิลปะที่เธอทำอยู่ ซึ่งก็คือลายเส้นและการใช้สี ถือเป็นแนวภาพวาด การประดิษฐ์ลาย และการลงสีที่แตกต่างจากงานของศิลปินท่านอื่นๆ โดยสิ้นเชิง
การสร้างอินสไปเรชั่นจาก “สิ่งรอบตัว” คือหัวใจในการครีเอทผลงาน
“ส่วนตัวมองว่า เวลาหาแรงบันดาลใจในการรังสรรค์งานใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องทำให้ยุ่งยาก เราสามารถหาอินสไปเรชั่นได้จากทุกอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็น ที่ที่เราไปเที่ยว หนังที่ดู หรือเพลงที่ฟัง และหนังสือที่อ่าน ทุกอย่างมันมาจากประสบการณ์ที่เราได้เจอรอบๆ ตัว หล่อหลอมรวมๆ กัน และตกตะกอนเป็นความรู้สึกที่สามารถนำมาออกแบบ หรือวาดมันออกมาได้”
ไม่ต้องมองโลกบวกกับปัญหาตรงหน้า แต่ให้นึกถึง “ความคุ้มค่า” หลังฝ่ามันไปได้
เธอแชร์ความรู้สึกกับเราว่า เวลาชีวิตเจอเรื่องแย่ๆ มันก็ต้องรู้สึกนอยด์เป็นธรรมดา แต่เวลาที่ท้อไปแบบสุดตัว มันยากมากที่จะทำให้มองเห็นทางออกของปัญหา และถ้าจะให้ดีเธอแนะนำว่าทุกคนควรท้อแบบมีสติ “เวลาท้อแล้วไม่ใช่หนีไป ลองดูว่าถ้าชนะมันได้แล้วคุ้มมั้ย? ถ้าคุ้มค่านั่นหมายความว่า ความสำเร็จตรงหน้าที่กำลังจะมาถึงมันยิ่งใหญ่มาก และมันมากพอที่จะทำให้วิกฤตข้างหน้าเป็นโอกาสให้ชีวตของเราได้ เพราะฉะนั้น ต้องตั้งมั่นแล้วผ่านอุปสรรคนั้นไปให้ได้ มองหาความโชคดีจากปัญหาหลังฝ่ามันไปได้จะช่วยให้มีแรงสู้กับทุกเรื่องแย่ในชีวิต”
เดินไปข้างหน้าได้ ต้อง “กล้าเสี่ยงอย่างมีสติ...แล้วทำมันอย่างเต็มที่”
ปกติเราได้ยินคอนเซปต์นี้กับการทำธุรกิจอยู่เสมอ ไม่เคยคิดว่าจะมีคนนำมาใช้กับทุกเรื่องในชีวิตของตัวเองได้ ซึ่งพอถงถงเล่าให้ฟังมันก็ทำให้เชื่อว่าแนวคิดนี้ทำให้กล้าใช้ชีวิตมากขึ้น พร้อมจะเสี่ยงกับสิ่งที่คุ้มค่าอยู่เสมอ “จริงๆ เป็นคนที่มีมุมมองและมายด์เซ็ทในชีวิตเยอะมาก แต่ที่อิงกับในชีวิตตัวเองตอนนี้ก็คือการเป็นคนที่ทำอะไรต้องสุดไว้ก่อน ทำให้เต็มที่ มีสติ และกล้าเสี่ยง...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามันยังไม่ดี สิ่งดีๆ ยังไม่เกิดขึ้น แปลว่ามันยังไม่จบ เราต้องทำมันให้สุดจนกว่าจะถึงเป้าหมาย และท่องไว้เสมอว่า ต้องพึ่งตัวเอง ทำด้วยตัวเองให้ได้ ”
และข้อคิดสุดท้ายจากเธอที่เราต้องบอกต่อคือ...
อยากถึงฝัน “ต้องหยุดมโน แล้วลงมือทำ เพราะโลกยุคใหม่เปิดโอกาสให้กับทุกคนเสมอ”
ทุกวันนี้ เธอบอกว่าไม่มีสิ่งไหนที่ยังไม่ได้ทำตามฝัน เพราะทุกอย่างที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นนางแบบ ร้องเพลง การทำธุรกิจ เขียนบทความ หรือวาดภาพล้วนเป็นความสุขของเธอทั้งนั้น และอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้คนเห็นงานของเธอก็คือสื่อโซเชียลมีเดียนั่นเอง “พอมีคนเห็นงานเราผ่านไอจีหรือเฟสบุ๊ค ก็มีคนติดต่อให้ไปทำ Arts Solo Exhibition เดี่ยวของตัวเองบ่อยมาก งานแสดงโชว์ทำให้คนรู้จักมากขึ้น ยุคนี้ทุกคนสามารถโชว์ของที่ตัวเองมีง่ายขึ้นกว่าเมื่อก่อน อย่างเวลาเที่ยวที่ไหน ถงก็ไปตามเป้าหมาย แต่ระหว่างทางก็จะใช้สื่อโซเชียลของตัวเอง ต่อยอดการเที่ยวให้ปังด้วยการแชร์ลงหน้าเพจตัวเอง ตอนนี้เอเจนซี่จากหลายประเทศก็ติดต่อไปร่วมงานเพื่อช่วยโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทำให้ได้ไปเห็นที่สวยๆ ที่เคยฝันไว้เกือบหมด”
หนึ่งในผลงานของเธอที่ได้แสดงใน Art Exhibition ในหลวงรัชกาลที่ 9
และเธอยังบอกต่อด้วยว่าการเป็นนักเขียนของเธอนั้นเริ่มมาจากการใช้สื่อโซเชียลของตัวเองเช่นกัน
“ถงอาศัยสื่อออนไลน์เพื่อใช้พื้นที่ในการเป็นนักเขียน พอลองเขียนดู ปรากฏว่าบทความที่เขียนถูกแชร์กันไปถึงล้านรีช ก็เลยต่อยอดทำเพจเรื่องความรักกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองบวกไปเลย คนอ่านเขาก็แชร์กันไปตอนนี้รีชเป็น 10 ล้านแล้ว ก็ดีใจมากๆ ถงเชื่อนะ ใครที่ฝันอยากเอาดีด้านนี้ อยากมีรายการของตัวเอง ก็ลงมือทำไปเลย ทำไปก่อนอย่าได้แค่ฝัน เพราะมียูทูปแชแนลและช่องทางต่างๆ ในการซัพพอร์ตความฝันอยู่ในมือแล้ว ขอแค่มีความกล้าและลงมือทำ ตั้งเป้าหมายให้ตัวเองไปเรื่อยๆ และต้องมั่นใจด้วยนะว่าจะไม่ซัฟเฟอร์จนเกินไป ทำไปเรื่อยๆ ต้องมีความสุขและสนุกกับมันจริงๆ อย่าพึ่งไปคาดหวังมากตอนแรก ทำแบบไม่กดดันตัวเอง แค่นั้นก็พอแล้ว เพราะทุกวันนี้ถงก็ไม่เคยหยุดฝัน ยังวางแผนชีวิตข้างหน้าตลอด แล้วทำมันแบบค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป”
หวังว่าความมุ่งมั่นเอาจริงกับฝันของเธอจะอินสปายให้คุณหันมาถามตัวเองแล้วตั้งเป้าให้ไวขึ้น พร้อมลุยกันอย่างเต็มที่ และถ้าอยากรู้จักกับเธอคนนี้ให้มากขึ้นล่ะก็ ติดตามผลงานของเธอผ่านทาง Instragram: tongtongnapat และ Facebook Page: Snapat ได้เลย