“เป็นเบาหวาน” ต้องงด...หรือแค่ลด(ของ)หวานก็พอนะ?
อึ้งรับปีใหม่ไปแบบงงๆ เมื่อจู่ๆ ผลตรวจสุขภาพประจำปีก็บอกว่าค่าน้ำตาลในเลือดสูงทะลุเพดาน แถมคุณหมอก็ฟันธงมาแบบไม่รีรอว่า “คุณเป็นโรคเบาหวาน” แล้วแบบนี้จะยังตะลอนในทุ่งขนมหวานแสนรักได้อยู่มั้ย หรือต้องโบกมือเซย์กู้ดบายแบบลาขาด อ่ะๆ รีบปาดน้ำตาซะ! เพราะสิ่งที่เราจะบอกคุณ...ไม่ได้แย่อย่างที่คิด
เมนู(ขนม)หวานจัดแบบนี้! เห็นที...ต้องเลิกขาด
เพราะเมนูของหวานนั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายประเภท และระดับความหวานก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งลิสต์ของหวานที่ผู้ป่วยเบาหวาน “ควรงด” ส่วนใหญ่ก็จะตกอยู่ในกลุ่มของขนมไทย อย่าง ทองหยิบ ทองหยอด สังขยา ขนมหม้อแกง รวมถึงเมนูเชื่อมหรือกวน
แต่ถ้า(ขนม)หวานไม่จัด...ก็พอหยวนๆ ได้นะ!
ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าวิถีการกินของผู้ป่วยเบาหวานไม่ได้อดอยากหรือแย่อย่างที่คิด เพราะ พญ.อยุทธินี สิงหโกวินท์ แพทย์หัวหน้าศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ รพ.พญาไท 2 ได้แนะนำว่า ขนมบางชนิดที่ไม่หวานจัด...ผู้ป่วยเบาหวานอาจทานได้บ้างเป็นครั้งคราว เพียงแต่ต้องเปลี่ยนไปงดข้าว ไขมัน หรือผลไม้ในมื้อนั้นๆ แทน เช่น ถ้ากินไอศกรีม 1 ก้อน ก็ให้งดผลไม้และอาหารทอดในมื้อนั้น หรือถ้ากินเค้กไม่มีหน้า 1 อันกลม ก็ให้งดข้าว 1 ทัพพีในมื้อนั้นแทน
แต่ๆ ก็ใช่ว่าจะอดข้าวเพื่อเก็บโควต้ามากินขนมแทนแทบทุกมื้อนะ เพราะหากกินแต่ขนมผู้ป่วยอาจไม่อิ่มหรือหิวบ่อย และก็เผลอเพิ่มลิสต์เมนูอาหารในมื้อนั้นๆ จนทำให้ไม่สามารถควบคุมน้ำตาลในเลือดได้
ขาดหวานเหมือนขาดใจ แบบนี้ใช้อะไรทดแทนได้บ้าง?
สาย(ของ)หวานต้องเคยได้ยินคำว่า “สารให้ความหวาน” หรือ “น้ำตาลเทียม” กันมาบ้าง ซึ่งถ้ายังลังเลว่าเลือกแบบไหนดี แล้วปริมาณเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม เราก็มีคำแนะนำจาก พญ.อยุทธินี สิงหโกวินท์ มาบอกด้วยนะ!
สำหรับน้ำตาลเทียมระดับตัวท็อป อย่าง “แอสปาร์แทม” นั้น ในแอสปาร์แทม 1 ซอง (38 มิลลิกรัม) จะให้ความหวานเท่ากับน้ำตาล 2 ช้อนชา ซึ่ง FDA ของสหรัฐอเมริกาก็ได้มีการทดสอบความปลอดภัย และอนุญาตให้ใช้ได้วันละ 50 มิลลิกรัมต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
ส่วน “ฟรุคโตส” เป็นน้ำตาลผลไม้ ที่มีรสหวานกว่าน้ำตาลทรายเกือบ 2 เท่า จึงใช้ปริมาณน้อยกว่าน้ำตาลทราย ระดับน้ำตาลในเลือดจึงสูงช้ากว่าน้ำตาลทรายนั่นเอง อ่ะ! แต่ถ้าใช้ในปริมาณมากก็จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้เหมือนกันนะ แถมยังให้พลังงานเทียบเท่ากับน้ำตาล เพราะฉะนั้น ผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องความอ้วนไม่เหมาะกับน้ำตาลเทียมชนิดนี้
ถึงชีวิตจะไม่ต้องขาดหวานแบบถาวร แต่ก็คงจัดคอมโบ้เซ็ตตามใจปากไม่ได้อีกต่อไป เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากทำได้แค่สูดกลิ่นของหวานเมนูโปรด ก็ใส่ใจดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่น้ำตาลในเลือดจะสูงปรี๊ด...จนถูกคุณหมอเบาหวานเรียกพบ!!