“ผู้ชายมีนม” ความผิดปกติของร่างกายที่ (อาจ) ไม่ใช่เรื่องข้ามเพศ
จะให้เอาหน้าที่ไหนไปบอกใครเขาว่า “แมนๆ คุยกันครัช” ถ้ายังอึ๋มเกินหน้าสาวๆ เขาแบบนี้ ถึงจะมีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารทางวิทยาศาสตร์ The Atlantic และ New York Post บอกว่าผู้หญิงก็ชอบมองหน้าอกหนุ่มๆ เหมือนกัน แถมยิ่งไซส์ใหญ่ก็ยิ่งมองนาน ไม่ได้ต่างจากผู้ชายเลยก็เถอะ แต่ถ้าเล่นใหญ่เกินเบอร์ไปแบบนี้ มันจะเกินปุยมุ้ยถึงจะมีนม (ใหญ่) แต่ผมแมนนะครับ
ผู้ชายมีนม (Gynecomastia) เป็นอาการที่เนื้อเยื่อเต้านมของผู้ชายเกิดการขยายตัว ทำให้เต้านมมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยอาจมีลักษณะเต้านมโตทั้งสองข้างหรือเพียงข้างใดข้างหนึ่ง จนเกิดความรู้สึกเจ็บเต้านมเมื่อสัมผัสโดนและรู้สึกไวต่อสิ่งกระตุ้น แต่มักไม่มีอาการเจ็บที่รุนแรง นอกจากนี้ยังอาจมีอาการคันที่หัวนม หรือหัวนมแข็งร่วมด้วย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้เองใน 3 ช่วงวัย ดังนี้
- วัยแรกเกิด เนื่องจากได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนขณะอยู่ในครรภ์แม่ โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของเด็กผู้ชายวัยแรกเกิดมักมีหน้าอกโต ซึ่งอาการมักหายไปหลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์
- วัยแตกหนุ่ม โดยมากมักเกิดขึ้นในช่วงอายุ 12-14 ปี เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายของผู้ชายมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาการจะหายไปหลังจากช่วงเริ่มแตกหนุ่มประมาณ 6-24 เดือน
- วัยกลางคน สามารถพบได้บ่อยในกลุ่มผู้ชายที่มีอายุระหว่าง 50-80 ปี
ผู้ชายมีนม เป็นผลจากอะไร
โดยปกติร่างกายคนเราไม่ว่าชายหรือหญิงก็จะสามารถพบฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งควบคุมลักษณะความเป็นหญิงและฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน โดยควบคุมลักษณะความเป็นชายได้อยู่แล้ว เพียงแต่จะมีฮอร์โมนของเพศตรงข้ามน้อยกว่า ดังนั้นภาวะผู้ชายมีนมนี้ จึงมักเกิดจากร่างกายมีฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งควบคุมลักษณะความเป็นหญิงไม่สมดุลกับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และควบคุมลักษณะความเป็นชาย พูดง่ายๆ ว่ามีฮอร์โมนเพศหญิงอย่างเอสโตรเจนในร่างกายสูงมากเกินไปหรือไม่สมดุลกับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน จึงทำให้เกิดภาวะ Gynecomastia ขึ้นมานั่นเอง ทั้งนี้ยังอาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่กระตุ้นให้เกิดภาวะนี้ได้ เช่น การใช้ยาบางชนิด ได้แก่ ยาฟิแนสเทอไรด์ที่ใช้รักษาอาการต่อมลูกหมากโต ยารักษาโรคกระเพาะอาหารอย่างยาไซเมทิดีน ยาโปรตอนปั๊มอินฮิบิเตอร์ที่ใช้บรรเทาอาการกรดไหลย้อน ยาคีโตโคนาโซลที่ใช้รักษาเชื้อรา ยาลดความดันโลหิตบางชนิด ยาคลายกังวัลอย่างยาไดอะซีแพม และยาต้านเศร้ากลุ่มไตไซคลิก เช่นเดียวกับโรคและภาวะเจ็บป่วยบางอย่าง ที่อาจเป็นปัจจัยซึ่งส่งผลต่อความสมดุลของฮอร์โมน
แม้ว่าภาวะนี้มักเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและไม่ใช่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงนัก แต่ก็ทำให้ขาดความมั่นใจจนอาจกระทบต่อสุขภาพจิตตามมาได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าอาการไม่หายเอง ควรรีบพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาถึงแนวทางการรักษาที่เหมาะสม