ไม่ใช่แค่ปวดฟัน... ร่างกายคุณจะแย่อย่างไรบ้าง เมื่อขาด “แคลเซียม”

แม้คุณไม่ได้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ แต่ก็ต้องพอรู้บ้างล่ะ ว่า “แคลเซียม” เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการมีสุขภาพกระดูกและฟันที่แข็งแรง ทว่าแร่ธาตุชนิดนี้ยังมีคุณประโยชน์อื่นๆ อีก อาทิ คงระดับความดันเลือดให้อยู่ในระดับปกติ ควบคุมการหลั่งฮอร์โมน และควบคุมให้สัญญาณประสาทส่งอย่างถูกต้อง
 
นับว่าเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อร่างกายโดยรวมเลยล่ะ สำหรับคนที่ไม่ได้ดื่มนมเป็นประจำและมองข้ามความสำคัญของแคลเซียม อาจเป็นการพาร่างกายไปสู่ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำกว่าปกติ หรือ Hypocalcemia แบบไม่รู้ตัวก็ได้นะ

นอกจากอาการที่เรารู้ดีคือ “ฟันผุ” ร่างกายยังส่งสัญญาณเตือนอื่นๆ แบบที่คุณนึกไม่ถึงเลยล่ะว่าเกี่ยวข้องกับการขาดแคลเซียมด้วย
 
1) ปวดฟัน : แคลเซียมในร่างกายส่วนใหญ่จะอยู่ที่กระดูกและฟัน การฟวดฟันจึงเป็นสัญญาณแรกที่ร่างกายกำลังส่งสัญญาณ SOS ฟันจะเหลือง ผุ และเจ็บฟัน อาจร้ายแรงถึงขั้นเป็นโรคปริทันต์เลยล่ะ

2) กลืนลำบาก : อาการนี้อาจดูแปลกสักหน่อย แต่เชื่อเถอะว่าคนที่ร่างกายขาดแคลเซียม ต้องเคยรู้สึกแน่นในคอจนกลืนอาหารลำบาก อาการนี้เกิดจากการหดตัวไม่ดีของกล้ามเนื้อบริเวณคอ หากร้ายแรงจะทำให้กล่องเสียงเกิดการกระตุก และเสียงเปลี่ยนไปจากปกติ
 
3) เล็บเปราะ : เช่นเดียวกับกระดูก การคงความแข็งแรงของเล็บก็ต้องมาจากการได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ แต่ถ้าขาด เล็บจะแห้ง อ่อนแอ เปราะ และแตกได้เพียงแค่ทำกิจกรรมธรรมดาๆ ในชีวิตประจำวัน

4) ผิวแห้ง : ผิวแห้งและยังมีความหมองคล้ำกว่าปกติ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเป็นโรคผิวหนังอย่างสะเก็ดเงินและโรคเรื้อนกวางอีกด้วย

5) มือและเท้าชา : หรือที่เรียกว่า Paresthesia เป็นอาการทางประสาทที่สะท้อนว่าร่างกายขาดแคลเซียมรุนแรง อาจมีความรู้สึกชาหรือซ่าๆ ตามปลายนิ้วมือ นิ้วเท้า และรอบริมฝีปาก กล้ามเนื้อสั่น ความรู้สึกเมื่อสัมผัสสิ่งต่างๆ แปลกไป อาจกระทบความทรงจำและเห็นภาพหลอนได้


6) เป็นตะคริว : มักเกิดที่ต้นขา น่อง ต้นแขน ท้องแขน ซึ่งมักเกิดตอนกลางคืน อาจตามมาด้วยการปวดกล้ามเนื้อขณะเดินหรือเคลื่อนไหว และอาจนำไปสู่การกระตุกของกล้ามเนื้อทั่วร่างกายได้
 
7) ซึมเศร้า : ใครจะนึกว่าแคลเซียมมีคุณสมบัติเสมือนยากล่อมประสาทตามธรรมชาติ ทำให้เรารู้สึกสงบและผ่อนคลายขึ้น หากคุณขาดแคลเซียม ก็อาจทำให้รู้สึกหงุดหงิดและหดหู่ง่ายกว่าปกติ

8) นอนไม่หลับ : รวมถึงหลับไม่สนิทด้วย เพราะแคลเซียมมีส่วนในการสร้างเมลาโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้เกิดความผ่อนคลายและหลับง่ายนั่นเอง 
 
9) อ่อนเพลีย : ผลกระทบของการขาดแคลเซียมจะเกิดกับร่างกายโดยรวม ถ้าคุณมักรู้สึกเหนื่อยล้า ง่วงเหงาหาวนอน ไม่มีแรง หรือเฉื่อยชาจนไม่เป็นอันทำอะไร สิ่งที่ควรทำไม่ใช่การดื่มเครื่องดื่มชูกำลังหรือกาแฟ แต่ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่โดยเน้นที่แคลเซียม
 
10) ป่วยบ่อย : แคลเซียมมีบทบาทสำคัญระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้ดี นั่นทำให้การขาดแคลเซียมทำให้ป่วยบ่อย ทั้งหนาวสั่น เป็นไข้ ไอ หรือจามบ่อยๆ 


วันละ 1,000 มก. กำลังดี
ทั้งนี้ ร่างกายของเราควรได้รับแคลเซียม 1000 มก.ต่อวัน ทางที่ดีควรมาจากอาหาร เช่น คะน้า คะน้าฝรั่ง บร็อกโคลี่ ผักกาดเขียว โดยเน้นอาหารที่มีแคลเซียมสูง อาทิ ไขมันปลา, ชีส, นม, นมถั่วเหลือง, อัลมอนด์ และเมล็ดงา
 
และเพื่อให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น ต้องได้รับ "วิตามินดี" เพียงพอด้วย ซึ่งจะพบในไข่แดง, หอยนางรม, กุ้ง, เห็ด, ข้าวโอ๊ต, ซีเรียล รวมถึงน้ำส้มคั้น
 
ถ้าคุณมีอาการอย่างที่ว่ามา และคิดว่าใช่แน่ๆ ก็ถึงเวลาต้องปรับการกินแล้วล่ะ เพราะการกินยาคงไม่ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงแบบยั่งยืนหรอก



 
-->