ไม่ต้อง 60+ ก็วัยทองได้ เช็กสัญญาณเตือนวัยทองก่อนวัยที่สาวๆ ต้องรู้
วัยทองหรอ… ยังไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ อีกหลายปีกว่าจะมาถึง ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าอาการวัยทองต่างๆ จะเริ่มมีฤทธิ์เดชก็ในวัยที่ใกล้หมดประจำเดือน เพราะฮอร์โมนเพศอย่างเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนเริ่มลดระดับการผลิตลง ซึ่งปกติก็เฉลี่ยหลังอายุ 50 ปีขึ้นไป แต่! ก็ไม่ใช่เสมอไปเพราะสาวๆ อาจจะเจอ “วัยทองก่อนวัย” ได้ตั้งแต่อายุ 30 ปี
“หากประจำเดือนหายไปนานกว่า 3 เดือน ตรวจยืนยันไม่พบว่าตั้งครรภ์
คุณอาจกำลังเสี่ยงวัยทองก่อนวัย”
เช็กสัญญาณเตือน “วัยทองก่อนวัย”
• ประจำเดือนผิดปกติ ไม่สม่ำเสมอ
• นอนไม่ค่อยหลับ กระสับกระส่าย
• หลงลืมบ่อยๆ
• น้ำหนักเพิ่มขึ้น ทั้งๆ ที่ทานปกติ
• ไม่สดชื่น เหนื่อยและอ่อนเพลีย
• ปวดศีรษะ เครียดง่าย
• ไม่ค่อยสนใจเรื่องเพศ
“วัยทองก่อนวัย” เกิดขึ้นได้ยังไง
ต้องบอกว่าปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าภาวะวัยทองก่อนวัยนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร แต่พบว่าในผู้ที่มีประวัติครอบครัวประจำเดือนหมดไว ก็จะยิ่งมีโอกาสวัยทองก่อนวัยเพิ่มมากขึ้น อีกส่วนหนึ่งก็คือการมีโรคประจำตัว ไม่ว่าจะแพ้ภูมิตัวเอง, ภูมิคุ้มกันผิดปกติ โครโมโซมไม่ปกติ รวมไปถึงผู้ที่เคยได้รับการรักษาด้วยการฉายแสงบริเวณมดลูก เคยได้รับยาเคมีบำบัด หรือเคยได้รับยาที่มีผลต่อรังไข่ ก็ทำให้มีโอกาสเป็นวัยทองก่อนวัยได้
“วัยทองก่อนวัย” แบบนี้มีลูกได้ไหมนะ
ถ้าถามว่ามีได้ไหมคำตอบคือ “มีได้” แต่โอกาสที่จะมีแบบธรรมชาติอาจจะลดน้อยลง เพราะเมื่อฮอร์โมนเพศผลิตน้อยลง การตกไข่ก็อาจลดน้อยลง ไม่สม่ำเสมอ ทำให้การตั้งครรภ์ยากยิ่งขึ้น แต่ปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ที่เป็นตัวช่วยให้การตั้งครรภ์ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ดังนั้นถ้าสาวๆ รู้ตัวก่อนว่าเสี่ยงวัยทองก่อนวัย รีบปรึกษาแพทย์ รีบเก็บไข่ตั้งแต่ในระยะที่ไข่ยังแข็งแรง การมีเบบี๋ตัวน้อยก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
“วัยทองก่อนวัย” กระดูก หัวใจ ก็เสี่ยง
เพราะอีกหนึ่งบทบาทของฮอร์โมนเอสโตรเจน คือการกักเก็บแคลเซียมไว้ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ฉะนั้นเมื่อมีฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่เพียงพอ ก็จะทำให้ร่างกายเริ่มสูญเสียแคลเซียม มวลกระดูกเริ่มลดลง จนท้ายที่สุดก็ทำให้กระดูกบาง หรือกระดูกพรุนนั่นเอง นอกจากเรื่องแคลเซียมแล้ว เจ้าฮอร์โมนเอสโตรเจนยังมีบทบาทในการลดไขมันไม่ดี หรือ LDL ด้วย ฉะนั้นเมื่อไหร่ที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนพร่องไป ไขมัน LDL ก็จะถูกกำจัดได้น้อยลง จนอาจสะสมตกค้างอยู่ตามผนังหลอดเลือด และทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้นั่นเอง
ไม่อยากวัยทองก่อนวัย ต้องรักษาฮอร์โมนให้สมดุล
ง่ายๆ ด้วยการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์อย่าง ถั่วเหลือง เต้าหู้ หรือน้ำเต้าหู้ เพราะในถั่วเหลืองมีฮอร์โมนไฟโตเอสโตรเจนซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนของผู้หญิง จึงมีส่วนช่วยในการปรับฮอร์โมนให้อยู่ในระดับที่มีความสมดุลได้ คาร์โบไฮเดรตก็ไม่ควรขาดนะ แต่แนะนำให้เลือกทานเป็นข้าวกล้องจะดีกว่า เพราะทำให้ร่างกายหลั่งสารเซโรโทนินได้มากขึ้น จึงช่วยควบคุมอารมณ์ของเราไม่ให้หงุดหงิดง่าย อารมณ์ไม่แปรปรวนนั่นเอง นอกจากนี้ตระกูลผักใบเขียวอย่าง คะน้า บรอกโคลี ผักโขม กวางตุ้ง ผักกาด ปวยเล้ง ก็ควรทานเป็นประจำ เพราะไม่เพียงอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก วิตามิน แต่ยังมีส่วนช่วยปรับสมดุลในร่างกายให้กลับมาคงที่ได้
ซึ่งต้องบอกเลยว่า LAVITA VITA-W มีมาให้ครบ ทั้งคุณค่าธรรมชาติจากสารสกัดบรอกโคลี (Broccoli Extract) สารสกัดถั่วเหลือง (Soybean), เรสเวอราทรอล (Resveratrol), สารสกัดเปลือกสน (Pinebark Extract),วิตามิน E, B3, B6, B2, B1, B12 จึงไม่เพียงแต่ช่วยปรับฮอร์โมนเอสโตรเจนให้มีความสมดุล แต่ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ และปรับระดับน้ำตาลในเลือด ชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ชะลอการเกิดริ้วรอย และช่วยต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
พร้อมติดตามโปรโมชั่นอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ HA Store