ไปผับแล้วเมายับทุกที! หรือเสียงดนตรีจะมีส่วนในการทำให้เรา ‘เมา’

เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมเวลาไปเที่ยวผับแล้วมักจะเมายับกลับมาทุกที ทั้งที่ตอนดื่มอยู่คนเดียวที่บ้านก็ดื่มประมาณนี้ แต่กลับไม่เมาซะงั้น ทีมนักวิจัยเค้าเลยตั้งข้อสังเกตว่า หรือดนตรีจะมีผลกับการรับรู้รสชาติของแอลกอฮอร์ และมีส่วนทำให้เราเมามากขึ้นกว่าเดิม?



รายงานนี้ ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Food Quality and Preference โดยในการทดลอง ได้ให้ผู้เข้าร่วมการทดลองให้คะแนนความหวาน ความขม และความเข้มของเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ชนิดต่างๆ ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป มีตั้งแต่ดื่มระหว่างนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ไปจนถึงการดื่มในที่ที่เปิดเพลงเสียงดังจำลองบรรยากาศในผับ

ซึ่งก็เป็นไปตามสมมติฐาน ดนตรีเสียงดังๆ ทำให้เครื่องดื่มแอลกอฮอร์มีรสชาติหวานและกลมกล่อมกว่า เมื่อเทียบกับการดื่มในสภาพแวดล้อมที่เงียบ แต่ทำไมมันถึงทำให้เราเมามากขึ้นล่ะ Lorenzo Stafford นักจิตวิทยาจาก University of Portsmouth ที่ศึกษาเรื่องนี้ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า โดยสันชาตญาณของมนุษย์นั้น ชอบความหวานเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว เมื่อเรารู้สึกว่าแอลกอฮอร์มีรสชาติหวานและดื่มง่าย เราก็จะยิ่งดื่มมันมากขึ้นและเร็วขึ้น ซึ่งพอเริ่มเมาได้ที่ ก็แทบจะไม่มีสติมานั่งนับแล้วว่าดื่มไปมากน้อยแค่ไหน

สอดคล้องกับงานวิจัยในอดีตเมื่อปี 1985 จาก Fairfield University ในรัฐ Connecticut ที่รายงานว่า ตอนเราอยู่ในผับ เราจะดื่มเร็วขึ้น เมื่อดนตรีถูกเร่งจังหวะ และอีกหนึ่งรายงานของ Nicolas Gueguen ศาสตราจารย์จาก Université de Bretagne-Sud ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดือนตุลาคมปี 2008 ก็ยังระบุว่า ถ้าดนตรีในผับดัง 72 เดซิเบล เราจะใช้เวลา 14.5 นาที ในการดื่มประมาณ 2.6 แก้ว ในขณะที่ถ้าดนตรีในผับดัง 88 เดซิเบล เราจะใช้เวลาแค่ 11.5 นาที แต่สามารถดื่มได้ถึง 3.4 แก้วเลยทีเดียว

ใครที่ไปตี้แล้วมักจะเมาอยู่บ่อยๆ ก็ไม่ต้องสงสัยเลย เพราะสภาพแวดล้อมที่เราดื่ม มีอิทธิพลต่อความเมาของเราแน่นอน ต่อให้ดื่มเครื่องดื่มชนิดเดียวกันในปริมาณที่เท่ากันก็เถอะ