เหวี่ยง วีน บ่อยๆ... ระวังน้ำหนักขึ้นไม่รู้ตัว
ความโกรธไม่ใช่แค่ภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้นแล้วดับลง แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพของเราอย่างคาดไม่ถึง และผลข้างเคียงที่คงไม่มีใครอยากให้เกิดคือความโกรธทำให้น้ำหนักขึ้น!!!
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจก่อนว่า ความโกรธที่เราจะพูดถึงนั้นหมายถึงอะไรกันแน่... โดย William G.DeFoore นักจัดการความเครียดและผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพแอดดิสันจากเท็กซัส อธิบายว่าความโกรธ (Anger) สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ
1) Passive anger หรือที่เรียกสั้นๆ ว่าดื้อเงียบ ร้ายเงียบ เช่น ไม่แสดงความโกรธออกมาตรงๆ ใช้คำพูดน่าฟังแต่คนได้ฟังแล้วรู้สึกแย่ หรือพูดวิจารณ์คนอื่นรุนแรงแล้วก็บอกว่าล้อเล่น
2) Aggressive anger หรือโกรธแบบก้าวร้าว เช่น การบูลลี่คนอื่นแบบตรงไปตรงมา การทำลายข้าวของ ชอบใช้ความรุนแรง ชอบแก้แค้น
3) Assertive anger หรือโกรธแบบพอดีๆ เช่น ขมวดคิ้วเมื่อเห็นคนทำไม่ถูกต้อง พูดด้วยเสียงเข้มเมื่อไม่พอใจ หรือเมื่อเด็กดื้อก็จะทำโทษด้วยการให้เข้ามุมเป็นระยะเวลาสั้นๆ
แล้วความโกรธเกรี้ยว ทำให้เราอ้วนขึ้นได้ยังไง และเราสามารถแก้ปัญหาด้วยการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมได้ยังไงบ้าง... มาหาคำตอบกัน
• มันเริ่มจากอะดรีนาลีน
สิ่งที่เราอาจไม่รู้มาก่อนคือความโกรธกระทบต่อการหลั่งของ "อะดรีนาลีน" เมื่อเราโกรธ เจ้าสารตัวนี้จะถูกหลั่งออกมาในปริมาณมาก นอกจากทำให้เราตื่นตัว ซึ่งในทางจิตวิทยาเรียกภาวะนี้ว่าการตอบสนองแบบสู้หรือหนี (fight-or-flight response) เลือดจะไหลไปยังกล้ามเนื้อมากกว่าปกติ ทำให้ลืมความหิวไปช่วงสั้นๆ... แต่เมื่ออะดรีนาลีนมาอยู่ในระดับปกติ ก็จะรู้สึกหิวเพื่อเติมพลังงานที่สูญเสียไป จนเกิดการกินตามอารมณ์แถมกินแบบไม่หยุดปาก และส่วนใหญ่ยังเป็นเมนูที่ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพเท่าไหร่
แล้วควรทำไง => พยายามอย่าใช้การกินเพื่อทำให้ตัวเองอารมณ์ดี อาจไม่ถึงขั้นต้องจดบันทึกสิ่งที่กินเข้าไปแต่ก็ต้องมั่นใจว่าเรากินสิ่งที่เป็นประโยชน์จริงๆ ที่สำคัญคือเมื่อรู้สึกอิ่มแล้วก็ต้องหยุดกิน น้ำหนักจะได้ไม่พุ่ง
• ยิ่งอยู่เฉยๆ ยิ่งจมกับความเครียด
ยิ่งเราวิตกก็ยิ่งเครียด นั่นเพราะ “คอร์ติซอล” ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดจะเพิ่มสูงขึ้น และจะไปกระทบกับความดันโลหิตและหัวใจ จนอาจลามไปถึงน้ำหนักตัวของเราด้วย โดยข้อมูลจาก webmd.com บอกว่า คอร์ติซอลจะเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดให้เป็นไขมันแถมยังไประงับการย่อยอาหาร... สิ่งที่ตามมาก็ไม่มีอะไรมาก แค่ไขมันสะสม พอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็กระทบสุขภาพโดยรวมของเราเองนั่นแหละ
แล้วควรทำไง => การนั่งๆ นอนๆ ก็เท่ากับเราปล่อยให้ตัวเอง ‘จม’ อยู่กับความรู้สึกแย่ๆ ลองหากิจกรรมที่ทำให้ตัวเองได้เคลื่อนไหวร่างกาย อาจเริ่มด้วยการโยคะท่าง่ายๆ อยู่ที่บ้าน ออกไปเดินเล่นหรือวิ่งที่สวนสาธารณะ หรือออกกำลังกายที่ยิมใกล้บ้าน... เชื่อมั้ยว่านอกจากจะอารมณ์ดีขึ้นแล้ว ยังทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นด้วยนะ
• โมโห แล้วควบคุม(การกิน)ตัวเองไม่ได้
ความเครียดยังส่งผลต่อการนอนของเราด้วย ซึ่งการที่เรานอนไม่พอจะทำให้รู้สึกหมดเรี่ยวแรง จึงมีแนวโน้มที่เราจะกินอาหารประเภทแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตมากขึ้น ทั้งน้ำหวาน ขนมหวาน รวมถึงอาหารอื่นๆ ที่ไม่ค่อยจะดีต่อสุขภาพเท่าไหร่นัก.... ขณะเดียวกันการควบคุมการกินก็เป็นเรื่องยากขึ้นด้วย โดย University of Bristol ให้เหตุผลว่าเพราะการนอนไม่พอจะกระทบต่อฮอร์โมนที่ควบคุมความอยากอาหาร ทำให้เรารู้สึกอยากกินอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
แล้วควรทำไง => หาทางปรับสมดุลในชีวิต ซึ่งวิธีการก็ไม่ยากเย็นอย่างที่คิด เพราะแค่ให้เวลากับสิ่งที่ชอบ เพิ่มความสุขให้ตัวเองด้วยการออกไปเจอเพื่อนฝูง อ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม หรือเพียงแค่ทำบางอย่างที่ทำให้มีความสุข ก็ช่วยคืนสมดุลให้อารมณ์ได้แล้ว
ถ้าคุณรู้ตัวว่าเครียดบ่อยจนน้ำหนักขึ้น อารมณ์ไม่ดีแถมชอบใช้การกินสร้างความสุขให้ตัวเอง ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติตัวเองใหม่ ก่อนที่น้ำหนักตัวจะพุ่งจนฉุดไม่อยู่
ถ้าคุณรู้ตัวว่าเครียดบ่อยจนน้ำหนักขึ้น อารมณ์ไม่ดีแถมชอบใช้การกินสร้างความสุขให้ตัวเอง ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติตัวเองใหม่ ก่อนที่น้ำหนักตัวจะพุ่งจนฉุดไม่อยู่
