เลิกซะ! เล่นมือถือก่อนนอน ถ้าไม่อยากสมองเสื่อมก่อนวัย
หลังจากที่ต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้ามาตลอดทั้งวัน การได้เอนกายพักผ่อนในห้องนอนอันแสนสุข ได้ใช้เวลาส่วนตัวท่ามกลางค่ำคืนอันเงียบสงบอย่างที่อยากจะเป็นกับสมาร์ทโฟนคู่ใจก็คงเป็นอะไรที่ดีไม่น้อยใช่มั้ยละ!
แต่รู้มั้ยว่า? ว่าการเล่นมือถือก่อนนอนส่งผลร้ายกับคุณมากกว่าที่คิด อุปกรณ์ขนาดกะทัดรัดที่กลายมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวได้อย่างน่าอัศจรรย์ ช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อและเข้าถึงโลกภายนอกได้ตามที่ใจต้องการ เลยไม่น่าแปลกใจว่าทำไมสมาร์ทโฟนจึงกลายมาเป็นอวัยวะที่ 33 ของใครหลายๆ คน จนต้องพกไว้ใกล้ตัวตลอดเวลาไม่เว้นแม้แต่เวลาเข้านอน ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ทำแบบนั้น…3 ความจริงเหล่านี้ก็คือสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด
#ตาพัง…เพราะมองนาน
เวลาที่เราใจจดใจจ่อเผลอจ้องจออย่างตั้งใจ เราจะกระพริบตาน้อยลงโดยไม่รู้ตัว ทำให้ดวงตาสูญเสียความชุ่มชื้น หลายๆ ครั้งเมื่อเราละสายตาจากหน้าจอ เราจึงรู้สึกแสบตา ไม่สบายตา หรืออาจมีน้ำตาไหลออกมานั่นเอง การจ้องจอนานๆ ยังทำให้กล้ามเนื้อในลูกตามีอาการล้า เกร็ง และทำงานผิดเพี้ยนไป จนอาจทำให้เกิดอาการสายตาสั้นชั่วคราว คือรู้สึกว่าอยู่ดีๆ ก็มองเห็นไม่ชัด ขึ้นมาเฉยๆ ซะงั้น แต่พอพักสายตาสักพักอาการเหล่านี้กลับมาหายไปดื้อๆ สิ่งเหล่านี้นี่แหล่ะ ที่เป็นสัญญาณเตือนว่า คุณกำลังใช้สายตามาเกินความพอดี!
#Blue Light…ร้ายกว่าที่คิด
พญ.กนกวรรณ ยุตติธรรม จักษุแพทย์ รพ.พญาไท 2 อธิบายว่า แสงสีฟ้าจากหน้าจอต่างๆ หรือ Blue light เป็นคลื่นแสงที่ ใกล้เคียงกับแสงแดดหรือแสง UV เลยนะ ลองคิดดูสิ่…ขนาดผิวหนังของเรายังระคายเคืองเมื่อต้องสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน นับประสาอะไรกับดวงตา ไม่ใช่แค่คำกล่าวอ้าง แต่เค้ามีผลการศึกษารองรับด้วยนะว่า การรับแสงสีฟ้าเป็นระยะเวลานาน จะมีผลกระทบต่อเซลล์ในตา แม้จะยังไม่มีกรณีศึกษาในคน มีเพียงแค่การทดลองที่เกิดขึ้นในสัตว์เท่านั้น แต่แน่นอนว่าการใช้หน้าจอนานๆ ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพตาในระยะยาวอย่างแน่นอน
#สมอง…เสื่อมก่อนวัย อันตรายจากการติดจอ
หลายๆ คนคงรู้ดีกันอยู่แล้วว่า การนอนหลับในสถานที่ที่ไร้แสงสว่างรบกวน จะช่วยให้เราสามารถนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจึงไม่แนะนำให้เราดูโทรทัศน์ หรือ เล่นมือถือก่อนนอน เพราะการจ้องมองแสงสว่างจากจอเหล่านี้จะทำให้สมองเกิดการตื่นตัว คิดว่าเป็นช่วงเวลากลางวัน จึงเกิดการยับยั้งการสร้างเมลาโทนิน ที่จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกง่วง ทำให้เราพักผ่อนไม่เพียงพอ และยิ่งถ้าเราเล่นมือถือก่อนนอนเป็นประจำจนติดเป็นนิสัย ร่างกายพักผ่อนน้อยสะสมต่อเนื่องแล้วละก็ สมองและระบบความจำของเราก็จะเริ่มเกิดปัญหา โรคอัลไซเมอร์ก็จะมาถามหาก่อนวัย การนอนน้อยแบบนี้ยังทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ ซึ่งสามารถนำไปสู่สารพัดโรคร้ายได้เลยทีเดียว
ไม่ใช่แค่ทางกาย เล่นมือถือมากไปก็อาจเสี่ยง "สุขภาพจิต" พัง
นอกจากนี้การเสพติดมือถือยังก่อให้เกิดโรคทางจิตเวชได้ด้วยนะ อย่าง “No Mobile Phone” หรือ "โนโมโฟเบีย" ภาวะวิตกกังวลกลัวไม่มีมือถือใช้ เมื่อแบตฯ ใกล้หมดหรืออยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณ...ก็จะเริ่มเครียด หายใจไม่สะดวก จนอาจถึงมีอาการคลื่นไส้ได้เลยล่ะ สำหรับใครที่เสพติดเฟซบุ๊กจนบั่นทอนความสุข รู้สึกหดหู่ทุกครั้งที่เห็น Status อันแสนสุขของคนอื่น หรือหากรู้สึกว่าต้องรอคอย comment อย่างใจจดใจจ่อทุกครั้งที่โพส Status แล้วละก็ คุณอาจกำลังตกอยู่ในภาวะ “Facebook Depression Syndrome” หรือ โรคซึมเศร้าจากเฟซบุ๊ก โดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้นะ
ที่สุดแล้วเราจึงควรเสพโซเชียลกันบนพื้นฐานของความพอดี ใช้โซเชียลอย่างมีสติ หันมาห่างจอก่อนนอนกันสักนิด อย่าปล่อยให้มันมาทำลายสุขภาพและความสุขของเราโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์