อังกฤษเริ่มแจกวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ววันนี้

หลังจากที่รัฐบาลอังกฤษตอบรับข้อเสนอหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (MHRA) ของอังกฤษในการอนุมัติการใช้วัคซีน BNT162b2 หรือวัคซีนต้าน Covid-19 ที่บริษัท Pfizer ร่วมพัฒนากับ BioNTech และสั่งซื้อวัคซีนไป 40 ล้านโดส ทำให้อังกฤษกลายเป็นประเทศแรกที่จะมีการแจกจ่ายวัคซีนต้าน Covid-19 ให้กับประชาชน โดยเริ่มฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มคนสูงอายุ 80 ปีขึ้นไป เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข และเจ้าหน้าที่ดูแลบ้านพักคนชราก่อน ซึ่งเริ่มฉีดวันนี้เป็นวันแรก (8 ธันวาคม 2563) 



วัคซีนชนิดนี้คืออะไร? 
วัคซีนตัวนี้เรียกว่าวัคซีนอาร์เอ็นเอ ซึ่งผลิตจากชิ้นส่วนสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายก็จะกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันสร้างแอนติบอดี้ที่ใช้ต่อสู้กับเชื้อไวรัส ซึ่งหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (MHRA) ระบุว่าวัคซีนตัวนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันไม่ให้คนติดเชื้อ Covid-19 ได้ถึง 95% มีความปลอดภัยและสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ทุกวัยและทุกเชื้อชาติ 

โดยการวัคซีนตัวนี้จะแบ่งฉีดเป็นจำนวน 2 โดสด้วยกัน เมื่อฉีดเข็มแรกไปแล้ว 21 วัน หลังจากนั้นจึงฉีดเข็มที่ 2 เพื่อเป็นการกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่ว่าฉีดแล้วจะได้ผลทันทีนะ เพราะกว่าร่างกายจะค่อยๆ สร้างภูมิคุ้มกันก็ต้องรอหลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ไปแล้วอีก 7 วัน ถึงจะเอฟเฟคทีฟได้เต็มประสิทธิภาพ 



วัคซีนจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันได้นานแค่ไหน?
ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่าภูมิคุ้มกันจากวัคซีนนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหน ยังเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาและทดลองกันต่อไป ซึ่ง Clive Dix รองประธานคณะทำงาน Vaccine Taskforce ของรัฐบาลอังกฤษได้ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า “เราอาจต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นทุกปี เหมือนกับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่” 

ฉีดแล้วมีผลข้างเคียงมั้ย?
บริษัท Pfizer และ BioNTech ระบุว่าจากการทดลองวัคซีนชนิดนี้ ยังไม่พบว่ามีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายรุนแรง มีเพียง 2% ที่มีอาการปวดศีรษะและอ่อนล้า ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 

สำหรับประเทศไทย รัฐบาลได้สั่งจองวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า สัญชาติอังกฤษ และคาดว่าจะได้รับวัคซีนอีกทีประมาณกลางปี 2564 ฉะนั้นเรายังต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และรักษาระยะห่างอยู่เหมือนเดิมนะ!