อย่าปล่อยให้ปัญหา 'มีลูกยาก' ทำให้ชีวิตคู่ไม่ลงตัว!

ตอนจะมีแฟนก็ยากแสนยาก พอถึงเวลาอยากจะมีลูกกับเค้าขึ้นมาบ้าง ก็ไม่สมหวังสักที ไม่ว่าจะไปมู..เตลูมากี่ที่ต่อกี่ที่ก็ยังไม่สำเร็จ จนชักจะเป็นท้อขึ้นมา ขนาดว่าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินก็แล้ว เพราะได้มีผลการวิจัยนำโดยศาสตราจารย์แคลร์ โรเบิร์ต จาก University Adelaide’s Robinson Research Institute ในออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ผู้หญิงที่กินผลไม้น้อย และกินอาหารฟาสต์ฟู้ดมาก มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์น้อยลง และมีแนวโน้มที่จะมีภาวะมีบุตรยาก ก็ยังไม่เวิร์ก หรือว่าจะมีใครคนใดคนหนึ่งเป็นหมันหรือเปล่านะ 



แบบนี้ถือว่ามีลูกยาก...มั้ยนะ
ภาวะมีลูกยาก หมายถึงการที่คู่สมรสมีเพศสัมพันธ์กันโดยไม่ได้คุมกำเนิด และมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 3 - 4 ครั้งเป็นระยะเวลา 1 ปี แล้วยังไม่ตั้งครรภ์ แต่ถ้าหากเรารู้อยู่แล้วว่าตัวเองมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้มีลูกยาก เช่น ฝ่ายหญิงที่มีอายุเกิน 35 ปีขึ้นไป ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เคยได้รับอุบัติเหตุหรือผ่าตัดบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ โดยสาเหตุของการมีลูกยากนั้นสามารถเกิดได้จากทั้ง 2 ฝ่าย คือ
 
  • สาเหตุที่เกิดจาก "ผู้ชาย"
สามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรมทำให้สร้างอสุจิได้น้อยกว่าปกติ หรือสร้างไม่ได้เลย จำนวนเชื้ออสุจิน้อยเกินไป การเคลื่อนไหวและรูปร่างที่ผิดปกติของอสุจิ การใช้ยา เช่น ยาเคมีบำบัด การฉายรังสี ยาเสพติด ยารักษาโรคบางชนิด การมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไทรอยด์ โรคทางต่อมไร้ท่อ การสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการประสบอุบัติเหตุหรือการผ่าตัดบริเวณอัณฑะก็ส่งผลให้มีลูกยากได้ทั้งนั้น
 
  • สาเหตุที่เกิดจาก "ผู้หญิง"
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้มีลูกยากในผู้หญิงนั้นเป็นเรื่องอายุ ซึ่งอายุที่เพิ่มขึ้นทำให้ความแข็งแรงของไข่ลดน้อยลง นอกจากนี้การมีประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ ความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธุ์ตั้งแต่เกิด ท่อนำไข่ตีบตันจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือเคยมีการอักเสบในอุ้งเชิงกราน เคยผ่าตัดในอุ้งเชิงกรานทำให้มีพังผืด และรังไข่ทำงานไม่ปกติ ก็ทำให้ไม่สมหวังเรื่องลูก...สักที เช่นเดียวกับการติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อย่างกลุ่มหนองใน-หนองในเทียม ก็ทำให้มีบุตรยากได้ เพราะเชื้อเหล่านี้จะไปทำลายท่อนำไข่ ทำให้ท่อนำไข่ตีบตัน เชื้ออสุจิก็จะไปหาไข่ไม่ได้ก็จะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ นอกจากนี้ความเครียด พักผ่อนน้อย การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม ไม่ประจวบเหมาะกับช่วงไข่ตก ก็ทำให้โอกาสตั้งครรภ์ยิ่งลดน้อยลงตามไปด้วย



หาหมอขอ (คำปรึกษาเรื่อง) ลูก
คู่รักที่กำลังหาทางออกเรื่องมีลูกในเบื้องต้นแพทย์จะทำการซักประวัติอย่างละเอียด และตรวจร่างกายทั้งภายในและภายนอกว่ามีความผิดปกติเบื้องต้นหรือไม่ เช่น การตรวจน้ำเชื้อ การอัลตราซาวด์ความผิดปกติของมดลูก ท่อนำไข่ รังไข่ หรือการฉีดสีในโพรงมดลูกเพื่อหาความผิดปกติในโพรงมดลูกและท่อนำไข่ จากนั้นจะทำการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติม ถ้าแก้ไขที่สาเหตุแล้วยังไม่สามารถตั้งครรภ์ได้โดยธรรมชาติหมอจะให้คำปรึกษาโดยการใช้เทคโนโลยีช่วยช่วยให้มีลูก ที่มีหลากหลายวิธี ดังนี้ 

 
  • การผสมเทียม (Intrauterine Insemination, IUI) เหมาะกับผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องเชื้ออสุจิไม่ปกติ แต่ผู้หญิงมีมดลูกที่ดี โดยจะทำการกระตุ้นไข่ คัดเชื้ออสุจิ และนำเชื้ออสุจิที่แข็งแรงมาฉีดเข้าไปในโพรงมดลูก
  • การทำกิฟท์ (Gamete Intrafallopian Transfer, GIFT) เป็นวิธีการดั้งเดิม โดยการกระตุ้นรังไข่ด้วยฮอร์โมน แล้วส่องกล้องเข้าไปในช่องท้อง เพื่อเก็บไข่แล้วนำไข่มารวมกับอสุจิที่เตรียมไว้ และฉีดกลับเข้าไปในท่อนำไข่ของผู้หญิง โดยเจาะผ่านผนังหน้าท้อง เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิภายในร่างกาย
  • การทำซิฟท์ (Zygote Intrafallopian Transfer, ZIFT) หรือการทำเด็กหลอดแก้ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีพังผืดในอุ้งเชิงกราน ท่อนำไข่อุดตัน ไข่ไม่ตกเนื่องจากระบบฮอร์โมน หรือผู้ชายที่มีปัญหาเกี่ยวกับอสุจิน้อย หรือเคลื่อนไหวไม่ดี โดยจะใช้การกระตุ้นรังไข่ แล้วเก็บไข่มาเพื่อให้ผสมกับอสุจิในห้องปฏิบัติการ จากนั้นทำการเลี้ยงตัวอ่อน 3 - 5 วัน แล้วจึงค่อยใส่ตัวอ่อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูกให้เกิดการฝังตัว
  • การทำอิ๊กซี่ (Intracytoplasmic Sperm Injection, ICSI) คล้ายกับการทำเด็กหลอดแก้ว แต่จะแตกต่างกันตรงที่มีการคัดอสุจิที่ดีที่สุด ฉีดเข้าไปที่เซลล์ไข่โดยตรงให้เกิดการปฏิสนธิ เลี้ยงตัวอ่อนไว้ 3 - 5 วันแล้วใส่ตัวอ่อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูกให้เกิดการฝังตัว

ถ้าสายมูดูจะช้าไป ลองใช้เทคโนโลยีที่ว่ามานี้ บางทีอาจยังไม่ต้องถึงมือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ได้

สนใจ แพ็กเกจตรวจสุขภาพ คลิก! 
-->