สายกินต้องระวัง! เพราะนิสัยการกินแบบนี้ อาจทำให้เป็นกรดไหลย้อนไม่รู้ตัว
‘กรดไหลย้อน’ โรคสุดฮิตในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ไม่ว่าจะวัยเรียนหรือวัยทำงาน ที่วิถีชีวิตไม่ค่อยจะเฮลธ์ตี้และมีพฤติกรรมการ ‘กิน’ ที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ ซึ่งพฤติกรรมการกินแบบนี้แหละ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลอดอาหารและกระเพาะอาหารทำงานผิดปกติและเป็นกรดไหลย้อนในที่สุด
# สายกินจุ
สายบุฟเฟ่ทั้งหลาย ไม่ว่าจะชาบู หมูกระทะ ปิ้งย่างเกาหลี ที่ไปกินทีไรก็ต้องเอาให้คุ้ม แต่รู้มั้ยว่าการกินอาหารในปริมาณที่มากและไขมันสูงจนเกินไป จะทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักขึ้น ทำให้มีการหลั่งกรดออกมามากขึ้นด้วย และกรดที่หลั่งออกมามากกว่าปกตินี้แหละที่อาจจะไหลย้อนกลับไปขึ้นมาในหลอดอาหารได้ ซึ่งถ้าเป็นบ่อยๆ อาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณหลอดอาหารเกิดแผลเรื้อรังและเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้เลยนะ
# สายกินเร็ว
ด้วยวิถีชีวิตคนเมืองที่ค่อนข้างจะเร่งรีบในปัจจุบัน ไม่ต้องพูดถึงความสโลวไลฟ์เลย เพราะทุกอย่างต้องแข่งกับเวลาตลอด ไม่เว้นแม้กระทั่งตอนกิน ที่บางคนโดยเฉพาะชาวออฟฟิศ อาจจะมีเวลาทานข้าวกลางวันแค่ 5-10 นาที ก่อนที่จะต้องกลับไปทำงานต่อ ทำให้ต้องกินข้าวแบบรีบๆ ซึ่งเมื่อเรากินเร็ว เคี้ยวอาหารไม่ทันละเอียดก็กลืนแล้ว แน่นอนว่ากระเพาะอาหารก็จะต้องทำงานหนักและหลั่งกรดมากกว่าเดิมเพื่อมาย่อยอาหาร จึงอาจจะมีกรดบางส่วนใหญ่ย้อนขึ้นไปในลำคอได้
# สายกินดึก
ปาร์ตี้เสร็จ ออกจากผับมาตอนตีสอง ท้องมันก็ต้องหิวเป็นธรรมดา แต่รู้มั้ยว่าการกินก่อนนอนเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมสำคัญที่ทำให้เป็นกรดไหลย้อนเลย เพราะโดยปกติแล้วกระเพาะอาหารของเราจะใช้เวลาในการย่อยอาหาร 2-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณของอาหาร ถ้าเรานอนในระหว่างที่กระเพาะอาหารกำลังอยู่ในกระบวนการย่อยอาหาร จะทำให้น้ำย่อยสามารถที่จะไหลไปในหลอดอาหารได้ง่าย เนื่องจากเมื่อเรานอน กระเพาะและหลอดอาหารจะอยู่ระนาบเดียวกัน
# สายกินไม่ตรงเวลา
เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมเรามักจะง่วงนอนหรือตื่นนอนเวลาใกล้เคียงกันอยู่ตลอด ปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำเวลาเดิมๆ ตลอด ก็เพราะว่าร่างกายเรามีนาฬิกาชีวิตเป็นของตัวเองไงล่ะ กับเรื่องการกินก็เหมือนกัน กระเพาะถูกสั่งให้หลั่งน้ำย่อยออกมาตามรูทีนเพื่อรอย่อยอาหาร แต่ถ้าเราไม่ได้กินอะไรให้เข้าไป น้ำย่อยเหล่านี้นอกจากจะกัดกระเพาะแล้ว ยังอาจจะไหลย้อนกลับขึ้นมาบนหลอดอาหารหรืออาจจะขึ้นมาได้ถึงช่องปากเลยทีเดียว
ถึงแม้กรดไหลย้อนจะเป็นโรคที่ไม่ได้อันตรายร้ายแรงถึงชีวิต แต่ถ้าปล่อยไว้จนเป็นเรื้อรังก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้ ทางที่ดีควรปรับพฤติกรรมการกิน โดยกินแต่พอดี เคี้ยวอาหารให้ละเอียด ไม่กินแล้วนอน และกินอาหารให้ตรงเวลา แค่นี้ก็ไม่ต้องมานั่งแสบหน้าอก แน่นคอ จุกลิ้นปี่เวลากรดไหลย้อนกำเริบแล้ว