สว. ที่พ่วงมาด้วยกลิ่นคนแก่…แก้ได้ไม่ยาก

“กลิ่น...คุณคิดว่าไม่สำคัญ” แน่ใจนะ? เพราะขนาดงานวิจัยที่ทำโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น (Northwestern University) กวางหยู่ โจว (Guangyu Zhou) ซึ่งได้ทำการศึกษาเชิงลึกไปถึงระบบประสาทของการรับสัมผัสได้รูปแบบกลิ่น ยังบอกไว้ว่าประสาทสัมผัสในการดมเชื่อมโยงกับสมองได้ดีที่สุด เพราะแบบนี้ถึงต้องเฝ้าระวัง “กลิ่น” ที่ไม่พึงประสงค์ทั้งหลายแหล่ แต่อยู่ๆ คนข้างๆ ดันมาสะกิดว่ามีกลิ่นคน “แก่” แหม! ถึงจะรู้ว่าแก่จริง แต่ก็ยังอยากแอ๊บเด็กอยู่หนิ...ผิดด้วยเหรอ



กลิ่น (คน) แก่...มีด้วยเหรอ?
เมื่อร่างกายเริ่มเข้าสู่ภาวะแห่งการเปลี่ยนแปลงในวัย 40 ปีขึ้นไป ย่อมจะทำให้เกิดกลิ่นตัวพิเศษ หรือที่เรียกว่า “กลิ่นคนแก่” (Aging odor) ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นจากความสกปรก แต่เป็นกลิ่นตัวที่เกิดจากต่อมไขมันและต่อมเหงื่อ ผลิตไขมันและเหงื่อออกมาทำปฏิกริยากับแบคทีเรียจนเกิดกลิ่นบนร่างกาย โดยการทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียนี้ก็จะส่งกลิ่นที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเป็นผลจากการที่ร่างกายเมื่ออายุมากขึ้น กระบวนการดังกล่าวก็ทำงานได้แย่ลง จึงเกิดการสะสมของสาร Nonenal ซึ่งเป็นสารตั้งต้นกลิ่นคนแก่และเป็นตัวหลักปล่อยกลิ่นดังกล่าวออกมา ทั้งยังที่มีคุณสมบัติไม่ละลายน้ำหรือไขมัน ดังนั้นการอาบน้ำจึงไม่ช่วยให้กลิ่นตัวหายไป รวมถึงยิ่งอายุมากขึ้นร่างกายก็จะมีกลิ่นนี้มากขึ้นเป็นธรรมดา



กลิ่นคนแก่...แก้ได้ 
มีงานวิจัยบอกไว้ว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะปล่อยกลิ่นออกมาตามช่วงวัย ดังนั้นการมีกลิ่นคนแก่จึงไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ถ้าใครไม่มั่นใจจะลองเอาวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อลดกลิ่นดูก็ได้...เผื่อเวิร์ก!
  • เช็ดเหงื่อบ่อยๆ เพราะกลิ่นเกิดจากการผสมกันระหว่างเหงื่อ ไขมัน และแบคทีเรีย การเช็ดเหงื่อ หรือทำให้ตัวเองเหงื่อออกน้อยที่สุด จึงเป็นการตัดวงจร ป้องกันกลิ่นคนแก่ได้อย่างง่ายดาย
  • ออกกำลังกาย ถึงจะตรงข้ามกับวิธีข้างต้น แต่การออกกำลังกายจะช่วยให้ต่อมเหงื่อขยายและขับของเสียออกไป ซึ่งจะช่วยลดสาเหตุการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรกได้
  • เลี่ยงบุหรี่ เพราะนอกจาะจะปัจจัยสำคัญที่เพิ่มสารอนุมูลอิสระให้แก่ร่างกายแล้ว บุหรี่ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานแย่ลง จนทำให้เกิดการสะสมของเสียในร่างกายเพิ่มขึ้น และเกิดกลิ่นเหม็นตามต่อมผิวหนังที่ต้องขับออกมามากกว่าเดิม
  • ลดเนื้อสัตว์และไขมัน เนื่องจากว่าไขมันในเนื้อสัตว์จะกระตุ้นให้ต่อมผลิตไขมันขับความมันส่วนเกินออกมามากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญของต้นตอกลิ่นแก่ เช่นเดียวกับอาหารที่มีไขมันสูงทุกประเภท
  • อาบน้ำร้อน เพราะการอาบน้ำร้อนจะช่วยให้รูขุมขนขยาย พาเหงื่อและสิ่งสกปรกไหลไปพร้อมกับน้ำ ซึ่งบริเวณที่ควรล้างทำความสะอาดอย่างพิถีพิถันคือ บริเวณที่มีต่อมผลิตไขมันมาก เช่น หลังหู หลังคอ หน้าอก และหลังที่เต็มไปด้วยแบคทีเรีย ซึ่งการอาบน้ำถือเป็นวิธีดับกลิ่นได้ดีที่สุด
 
ไหนๆ ก็เคยอาบน้ำร้อนมาก่อน ถ้าจะต้องอาบต่อไปก็คงไม่ยากอะไร...ใช่ไหมล่ะ?
-->