มีปัญหาเรื่องการอ่าน ใช้เวลานานกว่าคนอื่น… ไม่ได้แปลว่า 'โง่' แต่อาจเป็น Dyslexia

รู้สึกว่าสมองไม่ค่อยแล่น เห็นตัวหนังสือแล้วเวียนหัว อ่านยังไงก็ โอ๊ยย…งงเหลือเกิน ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจมากกว่าเพื่อนๆ ก็อย่าเพิ่งตีโพยตีพายไปไกลว่าตัวเองเป็นคนไม่ฉลาด หรือไม่มีความสามารถเหมือนคนอื่นๆ เพราะไม่แน่ว่า! คุณอาจกำลังเป็นโรค Dyslexia แบบไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้ งั้น! เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับโรคนี้พร้อมๆ กัน! 

โรค Dyslexia คือ... 
ดิสเล็กเซีย คือโรคความผิดปกติทางด้านการอ่าน เกิดจากความผิดปกติของเซลล์สมองหรือส่วนของระบบประสาทด้านการตีความและความจำระยะสั้นนั้นมีปัญหา เว็บไซต์ Medicalnewstoday บอกว่า มีหลายงานวิจัยให้ข้อสรุปถึงต้นกำเนิดของโรคนี้ว่า นี่อาจมาจากความบกพร่องของทักษะทางภาษา ทำให้การสะกดคำ และการตีความหมายเพื่อทำความเข้าใจในบทความหรือคำพูดต่างๆ นั้นลำบากกว่าคนทั่วไป ยกตัวอย่าง เช่น คุณอาจเกิดปัญหาในการแยกคำออกเป็นกลุ่มๆ เวลาอ่านประโยคทำให้ใช้เวลาทำความเข้าใจนานกว่าคนอื่นเพราะต้องไล่อ่านตั้งแต่ต้นประโยคแบบช้าๆ ซ้ำๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องอยู่นานพอสมควร 

แต่อย่าพึ่งตกใจ! โรคนี้ไม่ใช่ “ภาวะด้อยสติปัญญา” 
หลายคนที่เป็นดิสเล็กเซียอาจวิตก คิดว่ามันจะส่งผลหนักต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งความจริงดิสเล็กเซียนั้นไม่ได้ทำให้คุณปัญญาอ่อนหรือมีสติปัญญาด้อยกว่าคนอื่นจนใช้ชีวิตไม่ได้เลย แต่แค่มีอุปสรรคด้านการอ่านเท่านั้น และสิ่งที่ต้องรู้เพิ่มเติมคือ โรคนี้สามารถวัดได้ทั้งในคนที่ไม่มีภาวะพิการและพิการ แต่บุคคลทั้งสองกลุ่มนี้ต้องไม่มีภาวะพิการทางสมองหรือปัญญาอ่อน โดยจะทำการวัดในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นคนตาบอด การวัดความไวในการอ่านเพื่อตรวจสอบภาวะนี้คือการอ่านผ่านอักษรเบลล์ ขณะที่คนที่มองเห็นและไม่มีภาวะหูหนวกจะวัดจากการให้อ่านประโยคยาวๆ ในหนังสือหรือกระดาษนั่นเอง 

รู้ยัง? Dyslexia อาจฉายพรสวรรค์ในตัวคุณ
ถึงแม้ว่าโรคนี้ทำให้ทักษะในการอ่านจับใจความของคุณนั้นค่อนข้างแย่ แต่ก็ทำให้คุณมีความสามารถพิเศษด้านอื่นเข้ามาแทนที่ เช่น คุณอาจจะพูดเก่งมาก แถมยังเรียบเรียงคำพูดและถ้อยคำออกมาได้ดีเยี่ยมและสวยหรู แต่ถ้าต้องอ่านสคริปที่มีอยู่ในมือ คุณอาจจะต้องใช้เวลานานมากเพื่อให้เก็ททุกประโยค ทำให้ต้องซ้อมอ่านหนักกว่าคนทั่วไป นั่นเป็นเพราะการอ่านประโยคยาวๆ และต้องสรุปใจความสำคัญในทันทีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคุณ แต่ไม่ว่ายังไง ถ้าคุณสู้กับมัน อุปสรรคทุกอย่างก็ไม่มีทางทำอะไรได้ ดูอย่างหนึ่งในบรรดาผู้ป่วย Dyslexia ที่ประสบความสำเร็จซิ ซึ่งนั่นก็คือนักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง "เคอานูรีฟส์ " เพราะถึงแม้เขาจะไม่ประสบความสำเร็จด้านการเรียน แต่เขาก็ค้นพบพรสวรรค์ด้านการแสดง และมุ่งมั่นที่จะมุ่งซ้อมฝึกฝนทักษะด้านนี้เต็มที่ พร้อมทั้งอ่านบทของตัวเองอย่างละเอียดและแยบยล ถึงแม้จะช้ากว่าคนอื่นๆ ในทีมก็ตาม 

ลองเช็คภาวะนี้ด้วยตัวเอง แค่สังเกตอาการเหล่านี้ 
หลังจากที่รู้แล้วว่าโรคนี้ไม่ได้แย่อย่างที่คิด และบางครั้งหลายคนมักโทษตัวเองว่าสมองทึบอยู่ตลอด ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะยังงี้ไงเลยเชื่อว่าหลายคนอาจไม่รู้ตัวถึงภาวะนี้ที่กำลังแฝงตัวอยู่  และนี่! คือเช็คลิสต์ที่อยากให้คุณลองเช็คความผิดปกติกันซะหน่อย 

1.มองไม่เห็นตัวอักษรในประโยค 
อาการนี้มาจากระบบประสาทสั่งการให้อ่านเป็นคำอื่น เวลาที่คุณอ่านมักจะขาดการสะกดตัวอักษรตัวนึงไป ยกตัวอย่างเช่น คำว่า “where” คนที่มีภาวะนี้จะอ่านเป็น “here” ซึ่งความหมายแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง  

2.เก่งคำนวณแต่อ่านไม่ออก 
เคยเป็นมั๊ย ถ้าให้อ่านโจทย์เลขแล้วคำนวณก็คงใช้เวลาตีความนานมากก… แต่ถ้ามีคนอ่านให้ฟังแล้วละก็ คุณคำนวณได้ไวเลยทีเดียว ถ้าเป็นแบบนี้คุณอาจมีภาวะนี้เข้าแล้วล่ะ

3.การสะกดคำผิดบ่อย 
ปกติการสะกดผิดมักเกิดกับคำที่ไม่คุ้นเคยในชีวิตประจำวัน แต่คนที่เป็นภาวะนี้จะสะกดผิดแต่คำเดิมๆ หรือจำสลับกันไปมาแม้จะเป็นคำง่ายๆ ก็ตาม เช่น “หลงใหล” เป็น “หลงไหล” นั่นเอง

4. การผันเสียงผิดเพี้ยน หรือพูดคำผิดแต่เข้าใจความหมาย
 คนที่มีภาวะนี้คือไม่สามารถผันวรรณยุกต์ของคำต่างๆ ได้ เช่น กา ก่า ก้า ก๊า ก๋า รวมถึงชอบพูดสลับคำเป็นประจำทั้งๆ ที่เข้าใจและรู้จักคำที่ถูกต้องอยู่แล้ว เช่น “กำจัด” เป็น “จำกัด” หรือ“สถิติ” เป็น “สติถิ”

5. ลืมชื่อคนชั่วขณะ
ถ้าทุกครั้งที่ต้องชวนเพื่อนไปทานข้าว แต่ดันเรียกชื่อผิด นั่นไม่ได้แปลว่าคุณลืมเพื่อนรักคุณไปหรอกนะ แต่เพราะเจ้าดิสเล็กเซียกำลังเล่นงานคุณอยู่ต่างหากล่ะ  

เป็นยังไงกันบ้าง? หลังจากเช็คตัวเองแล้ว เพื่อความชัวร์ เราขอแนะนำให้คุณเข้ารับการตรวจกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาความผิดปกติได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ ส่วนเทคนิคที่ช่วยให้ปัญหานี้ไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก เราแนะนำให้คุณอ่านกวาดสายตาให้ช้าลง เพื่อการตีความที่แม่นยำถึงแม้จะใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกซักหน่อยก็ตาม 

 
-->