หลังจากผ่านความร้อนปรอทแตกมาหลายเดือนพอเข้าสู่หน้าฝน รู้นะว่ามีหลายคนแอบดีใจ เพราะนอกจากอากาศจะเย็นสบายแล้ว ยังใช้เป็นข้ออ้างที่จะแอบอู้ไม่ไปออกกำลังได้อีกด้วย ตรงข้ามกับสายเบิร์นที่บอกเลยว่าคงไม่ถูกใจกับสิ่งนี้ ที่อยู่ๆ ฝนเจ้ากรรมก็ดันมักจะมาตกเอาตอนจะไปออกกำลังซะอย่างนั้น

รู้หรือไม่? ว่านักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Maastricht ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้มีการทำวิจัยแล้วพบว่า ฤดูฝนจะมีอุณหภูมิที่เหมาะสมกับการออกกำลังกายมากที่สุด เพราะเป็นอุณหภูมิระดับเดียวกับอุณหภูมิปกติของร่างกาย คือประมาณ 35.5 องศาเซลเซียส ทำให้ร่างกายมีระดับการเผาผลาญที่ค่อนข้างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ทั้งยังอยู่ในระดับที่พอดีทำให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น เราจึงรวมลิสต์กีฬาในร่มเบิร์นหนักไม่แพ้สาย outdoor ให้ได้ Stay Fit ถึงฝนจะเทก็ยังเบิร์นได้ต่อเนื่องแบบไม่ต้องลังเลให้เสียเวลา

#วิ่งบนลู่
สารภาพมาซะดีๆ ว่าใครแอบมอบหมายหน้าที่เสริมให้เจ้าเครื่องวิ่งไฟฟ้าที่บ้านเป็นที่แขวนเสื้อผ้าบ้าง หน้าฝนนี้ได้เวลาที่จะเก็บกวาดเสื้อผ้าออกจากเครื่องวิ่ง แล้วกลับมาใช้ให้ถูกหน้าที่สักที ซึ่งถึงแม้ว่าการวิ่งในบ้านอาจจะไม่ค่อยมีแพชชั่น เพราะไม่ได้สูดอากาศ เพลิดเพลินกับสิ่งแวดล้อมที่ผ่านหูผ่านตาไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแก้เบื่อได้ด้วยเพลงสนุกๆ หรือซีรี่ย์เรื่องโปรด ที่สามารถวิ่งไปดูไปได้โดยไม่ต้องกลัวสะดุดล้ม หรือชนกับอะไรเข้า แค่วิ่งไปเพลินๆ 1 ชั่วโมง ก็สามารถเผาผลาญได้ถึง 500 แคลอรี่เชียวนะ

#ปั่นจักรยาน
หรือถ้าบ้านไหนเคยใช้เครื่องปั่นจักรยานเป็นราวตากผ้า ก็ได้เวลาเก็บกวาดเช่นกัน โดยการปั่นจักรยานก็เช่นเดียวกับการวิ่งบนลู่ ที่สามารถนำเอาความบันเทิงมาสร้างแรงจูงใจ แถมการปั่นจักรยานยังอาจได้เปรียบกว่าการวิ่งอยู่สักนิด เพราะเป็นกิจกรรมออกกำลังที่ช่วยเซฟข้อเข่าและข้อเท้าได้มากกว่า เนื่องจากไม่ต้องรองรับน้ำหนักและแรงกระแทก แถมยังเบิร์นได้มากถึง 500 แคลอรี่ ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมงด้วยเช่นกัน

#กระโดดเชือก
ถ้าที่บ้านพอมีพื้นที่โล่งสักหน่อย อย่างโรงจอดรถ หรือดาดฟ้า ให้ลองหาเชือกสักเส้น แล้วมากระโดดเรียกเหงื่อ เพียงแค่ 1 ชั่วโมงก็ช่วยเบิร์นได้ถึง 500 แคลอรี่แล้ว ซึ่งการกระโดดเชือกนอกจากจะสามารถช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงาน เบิร์นไขมันได้อย่างเต็มที่ และช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักแล้ว ยังช่วยบริหารหัวใจ และเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกได้ด้วย แต่สำหรับใครที่มีน้ำหนักตัวมากหรือมีปัญหาข้อเข่า แนะนำให้ออกกำลังด้วยกิจกรรมอื่นแทนจะเป็นการดีกับหัวเข่ามากกว่า

#เต้น
สายเต้นทั้งหลายก็สามารถสนุกสนานและดูแลรูปร่างไปพร้อมกันได้แม้ในวันฝนกระหน่ำ ซึ่งถ้าหากว่าเป็นนักเต้นสายซอฟอาจจะเริ่มต้นที่การเต้นแอโรบิก ที่เป็นการขยับเขยื้อนร่างกายไปตามเสียงเพลง ด้วยท่าทางที่ไม่ยากนัก แต่ถ้าเป็นระดับแอดวานซ์แล้วให้ขยับไปที่การเต้นซุมบ้าได้เลย เพราะเป็นการเต้นที่มีการผสมผสานระหว่างละตินอเมริกา ระบำหน้าท้อง แอโรบิก และฮิปฮอปเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ได้ปลดปล่อยอารมณ์ ผ่อนคลายความเครียด ทั้งยังเป็นการฝึกสมองช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้นอกเหนือจากการเบิร์นแคลอรี่ ซึ่งการเต้นแอโรบิก 1 ชั่วโมง จะเบิร์นได้ถึง 500 แคลอรี่ ในขณะที่การเต้นซุมบ้าจะสามารถเบิร์นได้ 500 แคลอรี่ภายในเวลา 45 นาทีเท่านั้น

#ต่อยมวย
ส่วนสายฮาร์ดคอร์ที่อยากใส่พลังอย่างเต็มที่ ให้เล็งเป้า หยิบนวม แล้วสวมวิญญาณนักชกเหรียญทองโอลิมปิก ออกหมัด เตะ ต่อยไปให้เต็มแรงเลย เพราะการชกมวยนี้สามารถเบิร์นได้มากกว่า 400 แคลอรี่ภายในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น อีกทั้งยังช่วยพัฒนาไหวพริบ สายตา และส่วนต่างๆ ของร่างกายเพื่อใช้ในการหลบหลีก โดยการต่อยมวยจะช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก เผาผลาญแคลอรี่ บำรุงหัวใจและหลอดเหลือดไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ยังเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ช่วยให้หน้าท้องแบนราบ ทำให้หุ่นลีนกระชับภายในเวลาอันรวดเร็ว



#โยคะ
อีกหนึ่งการออกกำลังกายที่น่าจะถูกใจสายซอฟท์ เพราะถึงแม้จะไม่ได้ใช้แรงมากเท่าการออกกำลังชนิดอื่นๆ แต่ก็เบิร์นได้ไม่แพ้ใครเลยทีเดียว โดยการเล่นโยคะ1 ชั่วโมง ร่างกายจะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 150-500 แคลอรี่ ขึ้นอยู่กับท่าทาง และความสามารถในการเกร็งและค้างท่าของแต่ละคน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังช่วยในเรื่องของการกระชับรูปร่าง เพราะการเคลื่อนไหวยืดเหยียดต่อเนื่องของท่าโยคะจะช่วยดึงไขมันมาใช้ ยิ่งถ้าทำอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยให้เฟิร์มกระชับขึ้นได้ ที่สำคัญยังช่วยในเรื่องของการฝึกสมาธิซึ่งถือเป็นประโยชน์ที่แตกต่างจากการออกกำลังชนิดอื่นๆ 

#HIIT
หรือ High-Intensity Interval Training เป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่ผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายอย่างหนักสลับเบาต่อเนื่องไปจนครบกำหนดเวลา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลา 10 – 30 นาที ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่กลับเบิร์นได้ 500 แคลอรี่ภายในเวลาแค่ 30 นาที และยังสามารถช่วยให้รูปร่างกระชับทุกสัดส่วน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอดและหัวใจ เรียกว่าเป็นการออกกำลังกายในร่มที่ (ใช้เวลา) น้อย แต่ (ได้ประโยชน์) มากจริงๆ