นอกจากสิว... ความเครียดก็ทำร้ายผิวนะ รู้ยัง



ถ้าจะบอกว่า "ความเครียด" เป็นศัตรูร้ายกับสุขภาพโดยรวมของเราก็ไม่ผิดนัก เพราะแต่ละครั้งที่เราเผชิญกับความเครียด ทั้งร่างกายและจิตใจเราต่างได้รับผลกระทบอย่าเลี่ยงไม่ได้เลยล่ะ สิ่งแรกที่สังเกตได้ง่ายคือ "สิว" ที่ร้อยวันพันปีไม่เคยขึ้น แต่พอเครียดเท่านั้นแหละ มาทันที

ถ้าเจาะจงลงไปที่ "ผิวหนัง" ซึ่งเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของคนเราแล้ว ก็ได้รับผลกระทบหลายอย่างจนคุณเองก็อาจจะนึกไม่ถึงมาก่อนเลยล่ะ... ความเชื่อมโยงระหว่างความเครียดและสภาพผิวหนังไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เพราะมีสาขาย่อยที่เรียกว่า จิตวิทยาโรคผิวหนัง (Psycho dermatology) ที่เน้นศึกษาผลกระทบของสภาพจิตใจต่อผิวหนังโดยเฉพาะ

มาดูกันหน่อยมั้ย ว่าเวลาที่เราเครียดแต่ละที ส่งผลยังไงกับผิวหนังบ้าง


ภาพจาก Photo by Aa Dil on Unsplash
• สิวปะทะแบบหาสาเหตุไม่ได้
ไม่พูดถึงคงไม่ได้... โดยทั่วไปคนที่มีปัญหาสิวคือวัยรุ่นที่ฮอร์โมนยังไม่คงที่ แต่สิวในวัยผู้ใหญ่เกิดได้จากหลายสาเหตุ หลักๆ ก็คือ "ความเครียด"
พญ.มาริสา การ์ชิก แพทย์ผิวหนังจากนิวยอร์ก ซิตี้ บอกว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะความเครียดส่งผลกระทบฮอร์โมนในร่างกาย ฮอร์โมนคอร์ติซอลจะถูกหลั่งออกมาทุกครั้งที่เราเครียด ส่งผลให้ผิวหนังของเราผลิตน้ำมันมากขึ้น และมีแนวโน้มเป็นสิวง่ายขึ้น
ถ้าอยู่ๆ สิวปะทุเต็มหน้าแบบหาสาเหตุไม่ได้ ก็อย่าลืมเช็คระดับความเครียดของตัวเองหน่อยนะ

• แดงเป็นปื้น เพราะลมพิษ
ลมพิษเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการติดเชื้อบางอย่าง กินยาขนานที่แตกต่างจากปกติ แพ้อาหาร รวมถึงความเครียด
ฮีสตามีนคือสารที่ร่างกายหลั่งออกมาเมื่อเซลล์ถูกทำลายหรือได้รับสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งการเพิ่มขึ้นของฮีสตามีน นอกจากทำให้เกิดลมพิษแล้วยังทำให้อาการแย่ลงอีกด้วย
ถ้าอยู่ๆ คุณมีอาการล่ะก็ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง จะได้ทราบว่าลมพิษที่เป็นเกิดจากความเครียดหรือสาเหตุอื่นกันแน่
 
• ใต้ตาดำเหมือนหมีแพนด้า
อย่าเพิ่งล้อเลียนเพื่อนว่าเป็นหมีแพนด้าล่ะ เพราะการที่เขาใต้ตาดำอาจเพราะกำลังเครียดกับบางเรื่องอยู่ก็ได้นะ
พญ.มาริสา บอกว่า ในช่วงที่เราเครียดกับการจัดการภาระต่างๆ ในชีวิต ก็ทำให้เราดูแลตัวเองได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก อาจจะดื่มน้ำไม่เพียงพอ กินอาหารไม่ดี หรือแม้แต่นอนไม่หลับหรือไม่มีเวลานอน ผลคือผิวรอยดวงตาทรุดโทรมลง
ดังนั้นก่อนจะหาซื้ออายครีมราคาแพง ลองเช็คสุขภาพจิตและจัดการกับความเครียดก่อนจะดีกว่ามั้ย
 
• หน้าหมอง จนไม่น่ามอง
ถ้าสังเกตเห็นว่าผิวพรรณไม่เปล่งปลั่ง อาจมาจากสีหน้าเคร่งเครียดของคุณเอง
ในช่วงที่เครียด เรามักจะมองข้ามหรือลืมดูแลตัวเอง ไม่ได้บำรุงผิวจนเกิดความแห้งกร้าน หยาบกระด้าง... ถ้าใครรู้ตัวว่ากิจกรรมบำรุงผิวช่วยให้รู้สึกสบาย เกิดความผ่อนคลายได้ล่ะก็ควรทำต่อไป แม้จะมีเรื่องเครียดขนาดไหนก็ตาม อย่างน้อยผิวหน้าคุณก็ยังสวยเด้งพร้อมสู้กับปัญหาต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามายังไงล่ะ
นอกจากนี้ ผิวอาจจะแห้งจนลอกเป็นแผ่นๆ เลยก็ได้ เพราะคอร์ติซอลที่หลั่งออกมามากขึ้นตอนที่เราเครียด จะไปกระทบกับกรดไฮยาลูโรนิค ซึ่งช่วยให้ผิวหนังคงความชุ่มชื้น อีกทั้งเรายังมีโอกาสที่จะลืมทาครีมหรือแม้แต่ทำตามกิจวัตรที่เคยทำเป็นประจำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพผิวที่เปลี่ยนแปลงไป
 
• เหงื่อออกเยอะผิดปกติ
หากมีเหงื่อออกก่อนเข้าประชุมใหญ่หรือขึ้นพูดในที่สาธารณะ ก็ชัดเจนแล้วว่าเกิดจากความเครียด... แน่นอนว่าเนื้อตัวที่เหนียวเหนอะหนะ และเหงื่อที่ซึมผ่านเสื้อผ้าออกมา ยิ่งทำให้คุณเครียดมากกว่าเดิม
เมื่อเราเครียด เหงื่อจะถูกผลิตจาก Apocrine Sweat Glands ซึ่งกระจายทั่วร่างกายเช่น รักแร้ ขาหนีบ ทวารหนัก หัวหน่าว ก้น และแผ่นหลัง หากเหงื่อออกมากกว่าปกติ อาจถึงเวลาที่ต้องปรึกษาแพทย์เพื่อกินยาลดเหงื่อ 
 
• หน้าแก่ก่อนวัย
เบื้องหลังสีหน้าที่เคร่งเครียดตลอดเวลา คือคอลลาเจนที่สลายลงอย่างรวดเร็ว
ที่เป็นเช่นนั้น พญ.มาริสา บอกว่าฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ถูกหลั่งออกมาตอนที่เราเครียด จะไปสลายคอลลาเจนในผิวและลดการสังเคราะห์กรดไฮยาลูโรนิก ผลที่ตามมาคือริ้วรอยและร่องลึกต่างๆ  นอกจากนี้ยังทำให้เกิดอนุมูลอิสระซึ่งเป็นศัตรูร้ายของความอ่อนวัยอีกด้วย
 
• แผลหายช้า ฟื้นตัวช้า
ผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสาร Archives of Dermatology เมื่อปี 2001 ยืนยันว่าความเครียดทำให้แผลหายช้าหรือฟื้นตัวจากการบาดเจ็บต่างๆ ได้ช้ากว่าปกติ จากนั้นในปี 2007 Flor A. Mayoral แพทย์ผิวหนังที่สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยไมอามี ยืนยันว่า ความเครียดกระทบการทำงานตามปกติของผิว
ข้อเท็จจริงคือความเครียดทำให้เกิดการอักเสบ และการอักเสบบางอย่างก็ยับยั้งหรือทำให้กระบวนการซ่อมแซมผิวส่วนที่ได้รับบาดเจ็บไม่เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น ที่สำคัญความเครียดยังกระทบกับกำแพงปกป้องผิวจากเชื้อโรค ทำให้ผิวอ่อนแอลงด้วย
 
• ผมร่วง
ถ้าคุณสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงว่าผมเริ่มบางลง มันอาจเกิดเพราะความเครียดเป็นต้นเหตุ
พญ.มาริสา อธิบายว่าความเครียดทำให้เกิดผมร่วงแบบร่วงทั่วศีรษะ (Telogen Effluvium) อาจมีที่มาทั้งจากความเครียดทางร่างกายหรือความเครียดทางอารมณ์ ปัญหานี้อาจเกิดหลังจากเครียดแล้วเป็นเดือนๆ โดยความเครียดจะทำให้เกิดการอักเสบทำให้เส้นผมเข้าสู่ระยะหลุดร่วงเร็วกว่าปกติ ปัญหานี้อาจยาวนาน 2-3 เดือนแม้จะหายเครียดแล้วก็ตาม
แม้ผมร่วงเพราะความเครียดจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นชั่วคราว แต่ถ้าคุณเริ่มกังวลกับปริมาณเส้นผมที่หายไป ลองไปปรึกษาแพทย์ผิวหนัง ซึ่งอาจช่วยแก้ปัญหาได้

ความเครียดแต่พอดีจะทำให้เกิดแรงผลักดันเพื่อขับเคลื่อนงานต่างๆ ให้เดินหน้าต่อไปได้ แต่ถ้าเครียดมากเกินไปก็ส่งผลต่อร่างกายโดยรวมของเราเหมือนกันนะ 

ถ้ายังไม่รู้จะจัดการความเครียดยังไงดี เข้าไปอ่าน 10 วิธีเจ๋งๆ ในการจัดการกับความเครียด นี่สิ


 
-->