มันไม่ใช่เรื่องปกติหรอก ที่ในใจเราเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เอาแต่โทษตัวเองว่าเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้นมาจากตัวคุณ และแม้ว่าคุณจะรู้ว่าสิ่งนี้ไม่ดีต่อตัวเอง แต่ก็หยุดความรู้สึกแย่ๆ เหล่านั้นไม่ได้ ทั้งที่รู้ว่าถ้าปล่อยให้ตัวเองจมกับสิ่งนี้ต่อไป ชีวิตคุณคงไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก
 

งั้นเราจะมาบอกวิธีการดึงตัวเองให้หลุดพ้นจากความรู้สึกผิด ก่อนที่คุณจะต้องไปพบจิตแพทย์กันดีกว่า

1) สาวให้ถึงต้นตอปัญหา – ถามตัวเองว่าเพราะอะไรคุณถึงรู้สึกผิด ถ้าคุณรู้สึกผิดที่ไม่มีเวลาให้ครอบครัวก็ลองถามตัวเองดูว่าทำไมคุณทำไม่ได้ มีคนบอกว่าคุณยังทำไม่ดีพอ?... จำไว้ว่ามีแต่ตัวคุณเองเท่านั้นที่รู้ว่าอะไรดีสำหรับตัวคุณและครอบครัวของคุณ ซึ่งการเผชิญหน้ากับปัญหา จะทำให้คุณก้าวข้ามความรู้สึกผิดนั้นได้

2) จดบันทึกความรู้สึกต่างๆ – ทันทีที่รู้ตัวว่าความรู้สึกผิดเข้าครอบงำ ควรเขียนลงสมุดโน้ตว่า ณ ตอนนั้นเป็นเวลากี่โมง ทำไมจึงเกิดความรู้สึกแย่ๆ ขึ้นมา ทำให้เป็นนิสัยแล้วหยิบขึ้นมาอ่านๆ ทุก 1-2 สัปดาห์ เพื่อดูว่าตัวเองมีแนวโน้มจะรู้สึกผิดกับสิ่งเดิมๆ อยู่หรือเปล่า
 

3) ทำวันหยุดให้เป็นวันพักผ่อนจริงๆ – ในเมื่อคุณมีความคิดว่า “มีสิ่งที่เราควรทำ มากกว่าไปเที่ยวพักผ่อน” แล้วจะรู้สึกผ่อนคลายอย่างแท้จริงได้อย่างไร... เมื่อรู้ตัวว่ามีความคิดแบบนี้ ก็ลองบอกตัวเองว่าทำไมคุณถึงได้มาเที่ยว เพราะถ้าคุณไม่ได้ผ่อนคลายหรือปล่อยวางจริงๆ คุณก็คงไม่ได้รีเฟรชความรู้สึกของตัวเอง

4) แก้ไขข้อผิดพลาด – บางครั้งเราก็ไม่รู้ตัวหรอกว่าเสียพลังงานไปกับการโทษตัวเองเท่าไหร่ อาจมากกว่าการลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ควรทำซะอีก เช่น ถ้าคุณรู้สึกแย่ที่ไม่ได้กลับบ้านไปกินข้าวกับแม่ งั้นเย็นนี้คุณก็พาแม่ออกไปกินข้าวนอกบ้านซะเลย จะได้แฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย
 

5) จำไว้ว่าคุณไม่ใช่ฝ่ายผิดเสมอไป – ต้องมีบ้างล่ะที่การให้คำแนะนำของคุณกับเพื่อนสนิท ให้ผลตรงกันข้ามกับที่คุณคาดไว้ แต่จำไว้ว่าไม่ใช่ความผิดของคุณ... หากเพื่อนคุณมีปัญหาแล้วโทรมาขอคำปรึกษาจากคุณ ระหว่างที่คุณเองพักผ่อนอยู่บ้าน การปฏิเสธระหว่างที่คุณให้เวลากับตัวเอง ไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นเพื่อนที่แย่ คุณแค่ต้องการให้สุขภาพจิตดีอยู่... แล้วเพื่อนคุณจะรู้เองว่าคุณสามารถให้คำแนะนำได้ดีขึ้นเมื่อคุณได้ผ่อนคลายจริงๆ

6) ให้อภัยตัวเอง – เริ่มจากการลิสต์ออกมาว่าคุณรู้สึกผิดหรือทำอะไรพลาดไปบ้าง บางครั้งมันอาจทำให้คนรอบข้างรู้สึกแย่ไปด้วย ตั้งแต่คนในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงเพื่อนร่วมงาน อีกลิสต์หนึ่งให้คุณจดวิธีแก้ไขลงไป แล้วเดินไปขอโทษคนที่ต้องขอโทษ ขอโอกาสและแก้ไขในสิ่งที่ทำได้ แบบนี้คุณจะได้รู้สึกได้ว่าสิ่งดีๆ กำลังจะตามมา และมันจะง่ายขึ้นในการให้อภัยตัวเอง
 

7) มองไปข้างหน้า – การเอาแต่คิดถึงอดีตที่เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขไม่ได้ ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น รังแต่จะกัดกินคุณไปวันๆ แทนที่จะถามตัวเองว่า “ถ้าตอนนั้นฉัน...” ควรเปลี่ยนเป็น “ตอนนี้ฉันควรจะ...”  จะดีกว่า จำไว้ว่าความผิดพลาดในอดีตมีไว้ให้เรียนรู้ และใช้มันขับเคลื่อนชีวิตไปสู่สิ่งดีๆ ในอนาคตนะ รู้มั้ย

8) ลำดับความสำคัญ – คุณต้องลิสต์ว่าสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต 3 สิ่งแรกคืออะไร อุดมการณ์? ครอบครัว? หน้าที่การงาน? สุขภาพ? ความรัก? ถ้าคุณเริ่มรู้สึกผิดในสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับสิ่งสำคัญในชีวิต ควรบอกตัวเองว่า “พอได้แล้ว” เพราะมันไม่มีค่าอะไรให้ต้องรู้สึก

9) ให้เวลาตัวเองได้เศร้า – ลองให้เวลาตัวเองได้รู้สึกแย่สัก 5 นาที เมื่อครบกำหนดเวลาก็เยียวยาตัวเองซะ จะโทรหาแม่ หรือเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปปลดปล่อยที่ยิมก็เรื่องของคุณ... จำความเศร้าเหล่านี้ไว้เป็นบทเรียนแล้วก็ให้อภัยตัวเองซะ อย่าจมกับความรู้สึกผิดแบบนี้นานเกินไป
 

การโทษตัวเองไม่ช่วยทำให้สถานการณ์ที่เลวร้ายดีขึ้นมาหรอก จำไว้ว่าโลกนี้ซับซ้อนกว่าสิ่งที่เห็น แค่ยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดความผิดพลาดขึ้นไม่ว่าคุณจะพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็เถอะ แล้วก็รีบหาวิธีแก้ไขซะ เพราะการจมอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ ไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นหรอก...

แต่หากคุณรู้สึกผิดตลอดเวลาจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ก็ถึงเวลาขอความช่วยเหลือจากจิตแพทย์แล้วล่ะ