ก็เข้าใจว่าอากาศบ้านเรามันร้อนแบบปรอทแตกขนาดนี้ ถึงบางทีจะเริ่มมีฝนตกให้เย็นขึ้นมาบ้าง แต่ความอบอ้าวของอากาศก็ยังทำให้ทุกคนอยากซุกตัวอยู่แต่ในห้องแอร์อยู่ดี ซึ่งเราอยากจะบอกว่าการอยู่ในห้องแอร์นั้นไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้าอยู่ตลอดแบบ 24 ชั่วโมงแล้วล่ะก็บอกเลยว่าอันตราย เพราะอาจเป็นโรคเหล่านี้ได้โดยไม่รู้ตัว 

 

ในโพรงจมูกของคนเรามีเส้นเลือดแดงขนาดเล็ก และผนังบางจำนวนมากเพื่อทำหน้าที่ปรับอากาศที่เย็น หรือแห้งจากภายนอกให้มีความอบอุ่น และความชื้นเหมาะสมกับอุณหภูมิของร่างกาย ซึ่งในสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็น โดยเฉพาะถ้าเมื่อไหร่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส เซลล์ต่างๆ จะแห้งลงกว่าเดิม เชื้อโรคจึงสัมผัสกับเซลล์ได้โดยตรง ยิ่งอากาศที่เย็น และไม่มีการถ่ายเทภายในห้อง เชื้อไวรัสจะเจริญเติบโตได้ดีมาก ซึ่งถ้าช่วงนั้นร่างกายแข็งแรงดีก็คงไม่มีปัญหารอะไร แต่ถ้าเกิดเจอจังหวะที่พักผ่อนน้อย ร่างกายอ่อนแอ ก็อาจทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคทางเดินหายใจต่างๆ ได้ เช่น ปอดอักเสบ, หอบหืด, หลอดลมอักเสบ หรือแม้แต่ปอดติดเชื้อ 

 

อย่างงกับชื่อของโรคนี้ เพราะเอาจริงๆ โรคนี้ไม่ใช่โรคใหม่นะ แถมยังพบได้ทั่วโลกทั้งเขตร้อน และเขตหนาว โดยเชื้อลีจิโอเนลลา (Legionella) เป็นตัวการสำคัญของการก่อโรค มักจะปะปนมากับพวกละอองน้ำ และเข้าสู่ทางเดินหายใจ ปกติเชื้อจะอยู่ในบริเวณที่มีน้ำขังนิ่งๆ มีความชื้นสูง และมีอุณหภูมิสูง และที่พีคคือมักจะเจอในระบบเครื่องปรับอากาศ และถุงเก็บน้ำระบายความร้อน ที่ใช้ในอาคารขนาดใหญ่ อย่าโรงแรม ออฟฟิศที่ใช้เป็นท่อแอร์ปล่อยจากส่วนกลาง ซึ่งโรคนี้จะเซนซิทีฟกับคนที่มีภาวะคุ้มกันบกพร่อง คนที่มีภูมิต้านทานต่ำ และผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรัง โดยอาการที่สังเกตคือ ปอดอักเสบ มีไข้สูง ไอ หนาวสั่น ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย 

 

เคยสังเกตตัวเองกันบ้างมั้ยว่าบางทีที่ผิวหน้าเป็นผื่นๆ มีอาการคันตามตัว ตามข้อพับ ข้อศอก สาเหตุอาจจะไม่ได้เกิดจากการเเพ้เครื่องสำอางอย่างที่คิดก็ได้นะ เพราะในห้องแอร์มีเชื้อโรคอยู่เต็มไปหมด ซึ่งเชื้อโรคพวกนี้แหละที่ทำให้ผิวแพ้ง่าย เกิดผื่นคันตามผิวหนังได้ ลองเช็คง่ายๆ เลยว่าเลยว่าถ้าเราเปิดแอร์แล้วได้กลิ่นอับเมื่อไร นั่นคือสัญญานเตือนว่าแอร์ที่ใช้อยู่นั้นมีเชื้อโรคอัดแน่นจนส่งกลิ่นเตือนออกมาแล้ว ควรเตรียมตัวล้างแอร์ด่วนๆ ก่อนที่อาการผื่นแพ้ผิวหนังจะลามเป็นผิวหนังอักเสบได้ นี่ยังไม่พูดถึงเชื้อโรคที่สูดดมเข้าปอดไป ไม่อยากจะคิดเลยว่าน่ากลัวขนาดไหน 

 

สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐ เผยข้อมูลว่าในห้องแอร์อาจเป็นมลพิษมากกว่าอากาศภายนอกหลายเท่าตัวถ้าไม่ได้ ทำความสะอาดอย่างดี  ทำให้มีแนวโน้มจะเกิดอาการติดเชื้อได้มากกว่าคนที่อยู่กลางแจ้ง โดยเฉพาะกับคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย

 

รวบตึงมาเลยตั้งแต่ วัณโรค อีสุกอีใส หืดหอบ ปอดบวม หัดเยอรมัน และโรคอื่นๆ ส่วนหนึ่งอาจมีสาเหตุมาจากอากาศที่ออกมาจากแอร์ เพราะภายในแอร์นั้นมีเชื้อโรคอยู่มากมาย ซึ่งเมื่อเราเปิดแอร์ เชื้อโรคต่างๆ เหล่านั้นก็จะถูกพัดออกมาพร้อมกับอากาศด้วย และเมื่อเราหายใจรับอากาศเข้าไปก็เหมือนกับเราได้สูดเอาเชื้อโรคเข้าร่างกายไปด้วย ยิ่งร่างกายอ่อนแอปุ๊ปก็จะยิ่งถูกจู่โจมได้ง่ายเข้าไปอีก 

 

ใช่แล้วล่ะก็การที่เราอยู่แต่ในห้องแอร์ทั้งวี่วันเนี่ย ทำให้ร่างกายไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้เรา แถมยังลดโอกาสในการเบิร์น หรือการดื่มน้ำมากขึ้น ที่สำคัญพอเราอยู่ในสภาพอากาศที่เย็นสบายก็จะเพิ่มโอกาสการกินจุบจิบ รวมไปถึงการขยับตัวที่น้อยลงด้วย 

 

จากที่บอกมาทั้งหมดอาจจะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงก็จริง แต่การที่ไม่ป่วยเป็นโรคอะไรเลยก็เป็นไปไม่ได้ แล้วในชีวิตประจำวันของเราจะให้ไม่อยู่ในห้องแอร์เลยก็คงจะยาก แต่ทางที่ดีที่สุดลองลดการอยู่ห้องแอร์ลงบ้างในวันที่อากาศไม่ได้ร้อนเกินไป หรือพักเบรคออกไปสูดอากาศข้างนอกในระหว่างทำงาน รวมไปถึงหมั่นทำความสะอาดแอร์ทุกๆ 3-6 เดือนด้วยล่ะ