งานวิจัยชี้ ... Long Distance Relationship ที่ Stay Positive จะทำให้สุขภาพจิตเราดีกว่าเดิม!
'Long Distance Relationship' ... แค่ได้ยินชื่อ หลายคนก็ถึงกับขยาดแล้ว เพราะหลายต่อหลายครั้งที่เราเห็นเพื่อนหรือคนรอบข้างที่ดูรักกันดี แต่พอมีระยะทางเข้ามาแทรกกลางเท่านั้นแหละ เป็นอันต้องเฟล จบกันไปทุกที น้อยคู่นักที่จะผ่านไปได้ แต่รู้มั้ย! มีงานวิจัยหลายงานชี้ว่า ถ้ารักอย่างถูกวิธี ความสัมพันธ์แบบนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้เรามีความสุขมากกว่าความสัมพันธ์แบบตัวติดกันอีกนะ
'Stay Positive' คิดบวกอยู่เสมอ
งานวิจัยของ Katherine Maguire ที่เคยทำไว้เมื่อปี 2007 ระบุว่า ถ้าเราอยากไปรอดใน 'ความสัมพันธ์แบบ ลอง-ดิส-แต๊น' เราต้องมองมันเป็นแค่เรื่องจิ๊บๆ ต้องคิดอยู่เสมอว่าเราไม่ได้จากกันชั่วฟ้าดินสลาย มันแค่ช่วงหนึ่งของชีวิต ไม่นานก็จะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน พูดง่ายๆ คือคิดบวกนั่นแหละ ซึ่งเค้าก็เคลมไว้ว่าคู่รักที่คิดได้แบบนี้มีแนวโน้มที่จะไปกันรอดและมีความสุขมากกว่าตอนอยู่ด้วยกันซะอีก
‘ความเชื่อใจ’ กลไกสำคัญของความสัมพันธ์
ความเชื่อใจ เป็นสิ่งจำเป็นมากๆ ในทุกๆ ความสัมพันธ์ ยิ่งถ้าเป็นความสัมพันธ์แบบที่ต้องอยู่ไกลกันด้วยแล้ว ยิ่งต้องมีมากกว่าปกติหลายเท่าตัวเลย ควรหมั่นอัพเดทชีวิตประจำวันกันบ่อยๆ เล่าแพลนในแต่ละวันให้กันและกันฟัง เล่าเรื่องที่เจอมาในแต่ละวัน ไปไหน ทำอะไร อยู่กับใคร แค่นี้ก็สร้างความเชื่อใจได้ระดับหนึ่งแล้ว ที่สำคัญคือต้องไม่โกหก ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องน้อย ไม่งั้นล่ะก็ ความเชื่อใส่ที่สั่งสมกันมา พังไม่เป็นท่าแน่ๆ
'ความห่างไกล' ทำให้คิดถึง(ใจ)กันมากขึ้น
หลายๆ ครั้ง เราละเลยคนใกล้ตัว เพียงเพราะเราเชื่อว่ายังไงก็มีเค้าอยู่ตรงนี้ และจะอาลัยอาวรณ์เมื่อต้องอยู่ไกลกัน ซึ่งงานวิจัยจาก Cornell University และ University of Hong Kong ก็ซัพพอร์ตไอเดียนี้ โดยพบว่าคู่รักที่อยู่ไกลกัน มักจะคิดถึงและเอาใจใส่กันมากกว่าคู่รักที่อยู่ด้วยกันซะอีก คนที่อยู่ไกลกับคนรักจะให้ความสำคัญกับทุกๆ นาทีที่คุยกัน พยายามไม่ทะเลาะกัน ไม่พูดจารุนแรงใส่กัน ซึ่งเป็นสิ่งที่คู่รักหลายๆ คู่ ที่อยู่ด้วยกันมักจะมองข้าม
‘Never Give Up’ อดทนต่อไป แล้วจะไปรอด
การทดลองจาก University of Denver ที่ศึกษาคู่รักกว่า 800 คู่ พบว่ามีถึง 20% ที่เลิกรากันไปหลังจากห่างกันไม่ถึงครึ่งปี ซึ่งทางนักวิจัยก็บอกว่าไม่ใช่เพราะพวกเค้ารักกันไม่มากพอนะ เพียงแต่ว่าพวกเค้าไม่ได้ตระหนักว่าความสัมพันธ์แบบนี้ ต้องใช้ความอดทนและทุ่มเทมากกว่าปกติ ซึ่งสิ่งที่น่าสังเกตคือ คู่รักที่เอาชนะความสัมพันธ์แบบลองดิสแต๊นไปได้ เมื่อกลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว มีเปอร์เซ็นต์ในการเลิกกันต่ำกว่าคู่รักที่ไม่เคยห่างกันแบบเทียบไม่ติดเลย
แน่นอนว่าการที่เรารักใครซักคน เราก็ย่อมต้องวาดฝันที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนๆ นั้น แต่ถ้า ณ โมเมนต์นี้มันยังไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็แค่ยอมรับความจริง แล้ว Keep Emotional Connection กันไว้ เพราะงานวิจัยเค้าคอนเฟิร์มว่า ยิ่งมีอะไรแบบนี้มากเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ระยะไกลก็จะยิ่งเวิร์คมากเท่านั้น