เจนี้ไม่หมอง! เปิดลิสต์ผักผลไม้ตัวเด็ด กินแล้วหน้าใส

โดยเฉพาะกับผิวหน้าอย่างเราๆ ที่การกินเนื้อเยอะก็ส่งผลกระทบไม่น้อยทั้งเรื่องของความสมดุลฮอร์โมนที่ทำให้เราดูแก่กว่าวัย การอักเสบที่ทำให้ผิวเราดูแก่ขึ้น หรือกรดลิวซีนที่กระตุ้นให้หน้าเราผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น กลายเป็นคนหน้ามันไปอีก ฉะนั้นการทานผักในช่วงนี้แหละถือว่ากำลังดีเลย แต่จะมีผักอะไรบ้าง เลื่อนลงอ่านได้เลย

กินผักอะไรช่วยให้หน้าใส

เนื่องจากมีกฎอยู่ข้อหนึ่งของการกินเจที่ห้ามกินผักฉุน มีกลิ่นแรง ห้ามกินอาหารรสจัด เช่น กระเทียม ทั้งหัวกระเทียม และต้นกระเทียม หัวหอม ต้นหอม ใบหอม หอมแดง หอมขาว หอมหัวใหญ่ หลักเกียว กุ้ยช่าย ดังนั้นเราก็เลยไม่มีผักเหล่านี้อยู่ในลิสต์ด้วย แม้ผักบางชนิดจะมีฤทธิ์เป็นยาก็ตาม หลักๆ เลย ได้แก่ มะเขือเทศ ฝรั่ง มะละกอ แครอท เพราะไลโคปีนจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียน สวยงาม เป็นธรรมชาติ กินแล้วหน้าใสกิีงสามารถกินสดนำไปผสมกับอาหารหลายๆ เมนู เช่น สลัด เครื่องเคียง มะเขือเทศเอาไปใส่ในแซนด์วิชก็ดีไปอีก กลุ่มผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม เกรปฟรุต เลม่อน พริกหยวก (พริกหวาน หรือพริกระฆัง) บลอกโคลี สตรอเบอร์รี่ กีวี่ อัดแน่นไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซียังช่วยต้านการเกิดเมลานินที่เป็นตัวการสร้างเม็ดสีคล้ำแดด ช่วยให้หน้าดูกระจ่างใส ฟื้นฟูการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยสมานแผลให้หายเร็ว ใครมีแผลสิวงี้ก็ช่วยให้หายเร็วขึ้นได้ ต้านการอักเสบ ผลิตคอลลาเจนเติมผิว ชะลอการเกิดริ้วรอย เช่นกัน วิตามินอี เป็นอีกสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระไม่ให้เข้ามาทำร้ายเซลล์ผิวได้ ทำให้หน้าใสดูเป็นธรรมชาติ ผัก ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินอี ได้แก่ อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน หน่อไม้ฝรั่ง พริกหยวก บลอกโคลี ผักโขม อะโวคาโด มะม่วง เป็นต้น เพราะก็จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบได้เช่นกัน แถมยังมีส่วนช่วยลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องได้ด้วยนะ ตัวอย่างอาหารที่พบโพลฟีนอลได้บ่อย คือ ชาเขียว กาแฟ ที่ช่วยลดความแก่จากแสงแดด และลดการสร้างเม็ดสีเกินได้ด้วย องุ่น รวมไปถึงน้ำองุ่นแท้ และเปลือกองุ่นก็มีโพลีฟีนอล รวมถึงสารอื่นๆ ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้นได้ และดาร์ค ช็อกโกแลต ที่ช่วยลดผิวหยาบกร้าน

ช่วยรักษาความชุ่มชื้นบนใบหน้า ไม่ให้หน้าดูแห้งกร้าน และยังเติมน้ำเพิ่มชะล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกายได้ ผัก ผลไม้ที่มีน้ำเยอะ ได้แก่ แตงโม ที่ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงด้วย แคนตาลูป ที่มีสัดส่วนน้ำคิดเป็น 89% ของทั้งผล หรือแตงกวา ที่ก็มีน้ำคิดเป็น 96% ของทั้งลูก สารอีกตัวที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระไล่เลี่ยกับวิตามินซี และอี มีงานวิจัยที่พบว่าการกินอาหารที่มีซีลีเนียมสูง ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนัง ผิวเสียจากแสงแดด ฝ้ากระ ฉะนั้น ผัก ผลไม้ที่มีซีลีเนียมสูง ได้แก่ ถั่วบราซิล ผักโขม ถั่วลันเตา ถั่วฝัก มันฝรั่ง ข้าวแดง และข้าวโอ๊ต ซิงก์ ช่วยเสริมการผลิตไขมันบนผิวหนังในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มขึ้น เป็นตัวช่วยสมานแผลและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของผิว ผัก ผลไม้ ที่มีซิงก์อยู่เยอะได้แก่ แบล็กเบอร์รี อะโวคาโด ทับทิม กล้วย กีวี่ เห็ดหอม เห็ดกระดุมขาว (แชมปิญอง) เมล็ดฟักทอง โฮลเกรน คำว่า “ไฟโต” หมายถึง สารที่สร้างจากพืช ฉะนั้น ไฟโตเอสโตรเจน จึงเป็นสารจำลองที่สร้างจากพืชเลียนแบบเอสโตรเจนจากร่างกาย ฉะนั้น “พืช” ที่อุดมไปด้วยไฟโตเอสโตรเจนจึงได้แก่ ถั่วเหลือง (จะกินเป็นเต้าหู้ก้อน หรือเทมเป้ก็ได้) โฮลเกรน เมล็ดแฟลกซ์ ถั่วดำ ถั่วเขียว ฟักทอง กะหล่ำปลี บรอกโคลี แครอท มะละกอ มันฝรั่ง โดยเฉพาะไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนและเชิงเดี่ยวที่ช่วยล็อกความชุ่มชื้นไว้บนผิว เพิ่มความยืดหยุ่น ต้านการอักเสบได้ พบได้ใน อะโวคาโด ถั่ว เมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกซ์ วอลนัท น้ำมันเรปซีด

ตัวอย่างเมนูเจแนะนำจากผัก เต้าหู้ อุดมไปด้วยไฟโตเอสโตรเจนสูง ย่างไฟหอมๆ พร้อมพริกหยวกที่มีวิตามินซีสูง ราดด้วยซอสพริกไทยดำ หรือซิสอื่นๆ ก็ถูกใจ ซุปฟักทองเนื้อเนียนละเอียด ผสมแครอท หอมใหญ่ และน้ำซุปผัก กับนมถั่วเหลือง โรยเล็กน้อยด้วยเกลือและพริกไทย จะได้รสชาติที่หอม มัน สไตล์ตะวันตก อุดมไปด้วยไฟโตเอสโตรเจน และซิงก์สูง สลัดรสจัดจ้านสไตล์ไทยใช้เป็นมะลอกอดิบ กีวี่ มะเขือเทศ หรือมะม่วง ก็อาจได้รสชาติที่แปลกใหม่กว่าเดิม อีกหนึ่งเมนูที่มีมาอย่างยาวนานกับข้าวกล้องหอมมะลิอบกับบลอกโคลี แครอทฝาน ข้าวโพด ธัญพืชและถั่วชนิดต่างๆ รสชาติกลมกล่อม กรุบกรอบจากเนื้อผัก และความหวานจากน้ำผักผสมกับน้ำมันงาที่บอกเลยว่าหอมฟุ้งไปสามบ้านแปดบ้าน

การกินเจเพื่อผิวใสหน้าเนียนไม่ใช่เรื่องยาก แค่เลือกกินอาหารที่ถูกต้อง เน้นผักผลไม้และธัญพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อผิว หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป และดื่มน้ำให้เพียงพอ เท่านี้คุณก็จะได้ผิวสวยสุขภาพดีตลอดเทศกาลกินเจและหลังจากนั้นอีกด้วย!