Sexsomnia ละเมอมีเซ็กซ์ ป่วยจริง หรือแค่ข้ออ้างในคดี?

ถ้าพูดถึง ‘อาการละเมอ’ ทุกคนคงเข้าใจว่ามีแค่ละเมอพูด ไม่ก็ละเมอเดินตอนหลับ แต่ใดๆ คือคนเราก็มีโอกาสละเมอมีเซ็กซ์ได้ ถ้าอ้างอิงจากผลสำรวจของ Sleep Disorders Center บอกว่าคนไข้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับการนอน  63 คนจาก 832 คน ประมาณ 7.6% เป็นโรค Sexsomnia และจะเจอในผู้ชายสูงกว่าผู้หญิงถึง 3 เท่า!

อาการ Sexsomnia จะเจออะไรบ้าง

อาการของ Sexsomnia เกิดได้หลากหลายมากขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละคนว่จะเป็นอะไร ซึ่งปกติจะเป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์หรือการแสดงออกทางเพศที่ควบคุมไม่ได้เป็นหลัก ได้แก่
 
ซึ่งสาเหตุการเกิดจนตอนนี้ยังไม่พบข้อสรุปที่ชัดเจน แต่พบว่าอาการของกลุ่มโรคบางอย่างเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะละเมอขณะหลับได้ เช่น
โดยในแง่ของการรักษา ขึ้นอยู่กับว่าคนไข้ป่วยเป็นโรคอะไรตามที่ว่ามาก่อนหน้านี้หรือเปล่า แล้วไปรักษาที่ต้นเหตุ ซึ่งมีการรักษาแตกต่างกันไปตามที่แพทย์เห็นสมควร ตั้งแต่การให้ยา การให้เครื่องอัดแรงดันผ่านทางจมูกหรือปาก (Continuous Positive Airway Pressure) ไปจนถึงการใส่อุปกรณ์เลื่อนขากรรไกรล่าง (mandibular advancement device) เพื่อเปิดช่องทางเดินหายใจ ลดโอกาสการเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

Sexsomnia = ข่มขืน หรือเปล่า?

เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญมากในต่างประเทศ เพราะมีอาชญากรหลายคนที่แอบอ้างว่าเป็น Sexsomnia เพื่อที่จะได้ใช้ข่มขืนเหยื่อได้ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อคนที่เป็นโรคนี้จริงๆ มาก ทำให้กลุ่มผู้ป่วยกลายเป็นเหยื่อของการแอบอ้างอีกทอดหนึ่ง

ซึ่งล่าสุดไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เองที่ออสเตรเลียก็ได้มีคดีเพิ่งตัดสินกันไปในชั้นศาล เรื่องของเรื่องก็คือ

มีคดีที่เกิดวันที่ 26 สิงหาคม 2022 ชายหนุ่มวัย 40 Timothy Malcolm Rowland ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนผู้หญิงคนหนึ่งหลังจากที่ทั้งคู่ดื่มกันที่บาร์และกลับไปที่คอนโดของเขา โดยผู้หญิงตกลงที่จะไปนอนในเตียงของเขาและหลับไป ก่อนที่เธอจะตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและพบว่า Rowland กำลังดึ๊บๆ กับตัวเธออยู่ จนต้องผลักเขาและวิ่งออกจากห้อง จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการฟ้องร้อง

Rowland ป้องกันตัวเองโดยยืนยันว่าเขากำลังประสบกับอาการ "sexsomnia" ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้คนแสดงพฤติกรรมทางเพศขณะหลับโดยควบคุมไม่ได้ เขาบอกว่าตอนนั้นเขาไม่ได้ตื่นและไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปบ้างในตอนที่เกิดเหตุ และในระหว่างการพิจารณาคดี คณะลูกขุนก็มีความสงสัยเพิ่มเติมอีกเยอะมาก รวมถึงการนำกฎหมายปัจจุบันมาตัดสิน ซึ่งไม่มีกฎหมายไหนระบุถึงความผิดที่เกิดจาก Sexsomnia มาก่อน



แต่ผู้พิพากษา John Pickering ก็ได้เตือนสติคณะลูกขุนให้ดูคดีตามหลักฐานที่มีอยู่ และอย่าตัดสินคดีตามกฎหมายที่มีอยู่ โดยไม่อิงความรู้สึกของเหยื่อ

สุดท้ายคณะลูกขุนตัดสินว่า Rowland ไม่มีความผิด เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอที่พิสูจน์ว่าเขาตื่นอยู่ที่เกิดเหตุ (ส่วนหนึ่งออสเตรเลียใช้ระบบลูกขุนในการพิจารณาคดีโดยอิงจากหลักฐาน และจะประชุมกันเพื่อดูว่าคดีนั้นๆ ใครผิดจริง ต่างจากบ้านเราตรงที่ใช้กฎหมายเป็นลายลักษณ์อักษร และดูความผิดตามมาตรา ว่าการกระทำนั้นๆ เข้าข่ายความผิดข้อไหน)

หรือแม้แต่ที่ประเทศอังกฤษเองก็เริ่มมีจำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการข่มขืนและภาวะ Sexsomina ให้เห็นมากขึ้นในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีอยู่ 80 เคสที่เกี่ยวข้องกับภาวะ sexsomnia และสูงกว่า 60% ตัดสินว่าจำเลยไม่มีความผิด ซึ่งสูงกว่าคดีข่มขืนทั่วไปที่มีอัตราการพิพากษาลงโทษอยู่ที่ 58% เลยทีเดียว โดยจำเลยบางคนที่รอดจากการถูกกล่าวหา ก็กลับไปก่อเหตุซ้ำอีก นี่จึงเป็นจุดละเอียดอ่อนทั้งคนที่เป็นเหยื่อของการถูกข่มขืน และคนที่ป่วยด้วยภาวะ Sexsomnia จริงๆ กลับต้องถูกสายตาในสังคมมองในแง่ลบมากขึ้น ทั้งที่บางคนคือป่วยจริง ไม่ได้แอบอ้าง

ทั้งนี้ ถ้าในอนาคตมีเคสที่อ้างการเป็น Sexsomnia ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นในคดีข่มขืนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็หวังว่าในทางกระบวนการยุติธรรมจะมีการปฏิรูป และชำระกฎหมายให้เป็นปัจจุบัน รวมถึงมีการตรวจลักษณะทางกายและทางจิตเพื่อหาหลักฐานให้มากพอที่จะเอาผิดคนที่ก่อคดีข่มขืนด้วยความตั้งใจ แทนที่จะไปเอาผิดกับผู้ป่วยภาวะ Sexsomnia
 

อ้างอิง

https://www.sleepfoundation.org/parasomnias/sexsomnia 

ผลสำรวจคนเป็น Sexsomnia
https://aasm.org/study-finds-that-sexsomnia-is-common-in-sleep-center-patients/

คดี sexsomnia ที่เกิดขึ้นทั้งที่ออสเตรเลีย และอังกฤษ
https://www.theguardian.com/society/2024/apr/14/fears-sexsomnia-defence-in-cases 
https://www.theguardian.com/australia-news/2025/jan/30/timothy-malcolm-rowland-sexsomnia-not-guilty-rape-sydney-ntwnfb