เช้า VS เย็น ออกกำลังกายช่วงไหน ดีต่อร่างกาย
อยากจะเริ่มออกกำลังกาย แต่เลือกไม่ถูกซักที ว่าควรจะออกกำลังกายตอนเช้า หรือ ตอนเย็นดี และออกกำลังกายตอนไหนดีต่อร่างกายของเรามากกว่ากัน? เราไปหาคำตอบมาให้แล้วออกกำลังกายตอนเช้า หรือตอนเย็น เรื่องนี้มีที่มา?
คงเป็นปัญหาโลกแตกของคนอยากออกกำลังกาย แต่ขี้เกียจตื่นเช้ามาออกกำลังกาย ถ้าเป็นตอนเย็นก็ต้องฝ่ารถติด คนก็เยอะ อาจจะทำให้เราล้มเลิกความตั้งใจในการออกกำลังกายไปได้ง่ายๆ เหมือนกัน เราเลยจะมาแจกแจงให้ฟังว่าออกกำลังกายตอนเช้ากับออกกำลังกายตอนเย็น มีข้อดีและข้อเสีย อะไรบ้าง
1. ออกกำลังกายตอนเช้า
การออกกำลังกายตอนเช้าเหมาะกับการออกกำลังกายที่ไม่หนักมากนัก คนส่วนใหญ่จึงเลือกการเดิน วิ่งจ๊อกกิ้ง หรือเต้นแอโรบิก เป็นการออกกำลังกายที่เบาๆ ซึ่งโดยปกติร่างกายของเราในตอนเช้าอาจจะไม่พร้อมรับการออกกำลังกายที่หนักมากจนเกินไป อาจจะเสี่ยงหน้ามืด เป็นลมหมดสติ หรืออาจรุนแรงถึงขั้นกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- ข้อดี อากาศดี มลพิษน้อย ฝุ่น PM 2.5 ค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ช่วงเช้าเป็นเวลาที่ดี เมื่อกล้ามเนื้อถูกกระตุ้นและมีการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมาจะทำให้รู้สึกสดชื่นและอารมณ์ดีขึ้นได้
- ข้อเสีย ต้องตื่นเช้ามากๆ และติดภารกิจในช่วงเช้า เนื่องจากการเร่งรีบ เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย เพราะร่างกายอาจได้รับการเผาผลาญไม่เต็มที่
- ข้อแนะนำ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ควรกินข้าวเช้า หรือรองท้องด้วยนมและขนมปังก่อนออกกำลังกาย 2 ชั่วโมง เพื่อทำให้ร่างกายมีพลังงานมากพอในการสูญเสียพลังงานจากการออกกำลังกาย เวลาที่แนะนำในช่วงเช้าคือ 06:30 - 08:30 น.
2. ออกกำลังกายตอนเย็น
การเลือกออกกำลังกายตอนเย็น หลายคนเลือกที่จะออกกำลังกายตอนเย็นเพราะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เหมาะสำหรับคนที่จะออกกำลังกายเพื่อเน้นการสร้างกล้ามเนื้อ เวทเทรนนิ่ง วิ่ง หรือคาร์ดิโอเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกิน และลดน้ำหนัก
- ข้อดี เราสามารถออกกำลังกายหลังจากเลิกงานได้ ซึ่งสามารถจัดสรรเวลาการออกกำลังกายได้ด้วยตัวเอง
- ข้อเสีย หากออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ อาจจะมีค่าฝุ่น PM 2.5 ค่อนข้างสูงในช่วงนี้ และช่วงเย็นๆ มักเป็นช่วงที่มีคนออกกำลังกายกันเยอะ
- ข้อแนะนำ สำหรับสายออกกำลังกายตอนเย็น ควรจะจัดสรรเวลาการออกกำลังกายให้ดี ควรออกกำลังกายให้เสร็จก่อนถึงเวลาเข้านอน 4-6 ชั่วโมง เพราะฮอร์โมนที่หลั่งในช่วงที่เราออกกำลังกาย อาจจะส่งผลกระทบกับการนอน ทำให้เรานอนไม่หลับ อีกหนึ่งความเชื่อที่ไม่ควรทำ คือ การอดข้าวเย็น โดยเฉพาะสายเวทเทรนนิ่งจะต้องใช้พลังงานค่อนข้างเยอะ ควรกินอาหารประเภทโปรตีน เช่น ไข่ อกไก่ ผักใบเขียวชนิดต่างๆ เพื่อให้ร่างกายได้นำสารอาหารเหล่านี้เข้าไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไปจากการออกกำลังกาย ดังนั้น การเตรียมตัวให้พร้อมกับการออกกำลังกายจึงเป็นเรื่องสำคัญ เวลาที่แนะนำในช่วงเย็นคือ 15:00 - 21:00 น.
สำหรับการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะช่วงเช้าหรือช่วงเย็น ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพทั้งนั้น แต่ถ้าหากจำเป็นจะต้องเลือกช่วงเวลาจริงๆ ให้เลือกด้วยผลลัพธ์ที่เราต้องการ เช่น ออกกำลังกายตอนเช้าเหมาะสำหรับสายคาร์ดิโอ และสายลดน้ำหนัก ถ้าออกกำลังกายช่วงเย็น จะเหมาะกับสายโหดๆ เช่น เวทเทรนนิ่ง วิ่งระยะไกล มาราธอน ซึ่งเน้นการใช้กล้ามเนื้อ และใช้พลังงานค่อนข้างเยอะ
ยังไงซะ การออกกำลังกายก็เป็นเรื่องที่ดี แต่เราก็ควรเลือกเอาช่วงเวลาที่เราสะดวกและไม่เร่งรีบ เพื่อให้การออกกำลังกายนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด