Ice Cream 101 รู้จักไอศกรีมแต่ละประเภท ตัวช่วยสู้ร้อนซัมเมอร์นี้
‘ไอศกรีม’ ถือเป็นของหวานสุดฮิตที่ครองใจคนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่นอกจากเรื่องของความอร่อยที่ทำให้หลายคนชื่นชอบแล้ว ความเย็นในตัวไอศกรีมยังถือเป็นตัวช่วยคลายร้อนชั้นดีเลยในช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้ วันนี้เราเลยถือโอกาสสรุปมาให้แบบชัดๆ ว่าเจ้าขนมหวานที่เราเรียกกันว่าไอศกรีมเนี่ย จริงๆ แล้วมันมีแบบไหนกันบ้าง1# ไอศกรีม (Ice Cream)
ไอศกรีมทั่วๆ ไปที่เรารู้จักกัน จะมีไขมันนมเป็นส่วนประกอบไม่น้อยกว่า 10% โดยไขมันนมนี้ จะเป็นตัวที่ทำให้เกิดรสชาติและกลิ่นที่หอมมันที่พอมาบวกกับสารให้ความหวานที่มักจะใช้เป็นน้ำตาลทราย และแต่งกลิ่นเป็นรสชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวานิลลา ช็อคโกแลต หรือคุกกี้แอนด์ครีม ก็จะได้มาเป็นไอศกรีมแบบที่เราคุ้นเคยกัน โดยในปัจจุบัน ยังมีนำไอศกรีมไปเสิร์ฟในรูปแบบต่างๆ มากมาย นอกจากการใส่ถ้วยหรือใส่โคน ไม่ว่าจะเป็นโรลไอศกรีม (Rolled Ice Cream) ที่นำไอศกรีมมาม้วนเป็นแผ่น หรือโมจิไอศกรีม (Mochi Ice Cream) ที่นำไอศกรีมมาห่อด้วยแป้งโมจิ ซึ่งก็ถือเป็นไอศกรีมที่ได้รับความนิยมมากทีเดียว
2# เจลาโต (Gelato)
มาต่อกันที่เจลาโต ไอศกรีมสไตล์อิตาเลียนที่ทำจากนม Whole Milk จุดเด่นของไอศกรีมประเภทนี้คือจะไม่มีการใส่ครีม หรือใส่ในปริมาณที่น้อย ทำให้เปอร์เซ็นต์ไขมันนมจะต่ำกว่าไอศกรีมทั่วไป เหมาะกับคนที่อยากหลีกเลี่ยงไขมัน และที่สำคัญ เจลาโตจะมีฟองอากาศแทรกอยู่ในเนื้อไอศกรีมน้อยมาก ซึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการผลิตที่ปั่นไอศกรีมแบบช้าๆ ทำให้มีเนื้อสัมผัสที่แน่น นุ่ม ละมุน นอกจากนี้เจลาโตยังมักจะไม่ใส่ไข่ ทำให้เราได้รสชาติไอศกรีมที่เข้มข้นและบริสุทธิ์มากขึ้นด้วย
3# โฟรซเซนโยเกิร์ต (Frozen Yoghurt)
ไอศกรีมกึ่งโยเกิร์ตชนิดนี้ เป็นอีกหนึ่งไอศกรีมที่สายสุขภาพจะต้องหลงรัก เพราะ Frozen Yoghurt หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า Fro-yo นั้นมีส่วนผสมหลักเป็นโยเกิร์ตไขมันต่ำ ซึ่งแน่นอนว่ามีไขมันต่ำกว่าไอศกรีมทั่วไป และยังมีรสชาติเปรี้ยวๆ จากโยเกิร์ต ออกแนว Tart Taste กินเปล่าๆ ก็อร่อยหรือจะท็อปปิ้งด้วยผลไม้แบบที่หลายๆ ร้านนิยมทำก็เข้ากันได้ดีสุดๆ เป็นความอร่อยที่มาพร้อมกับความ Healthy ที่แท้ทรู
4# ซอร์ฟเสิร์ฟ (Soft Serve)
ซอร์ฟเสิร์ฟ หรือที่บางคนเรียกว่าซอร์ฟครีม ถือเป็นไอศกรีมสุดฮิตของญี่ปุ่นที่เป็นที่สุดของความนุ่มละมุน เนื่องจากมีการใส่อากาศเข้าไปในขณะที่ปั่นไอศกรีม ทำให้เนื้อสัมผัสของไอศกรีมมีความนุ่มละมุนลิ้น ซึ่งปริมาณอากาศก็จะมากน้อยต่างกันออกไปในแต่สูตร ทำให้แต่ละร้านก็จะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง นอกจากนี้ ซอร์ฟเสิร์ฟยังถือเป็นของหวานไขมันต่ำ มีปริมาณไขมันแค่ 3-6% เท่านั้น
5# ซอร์เบท์ (Sorbet)
เอาใจ Fruit Lover กันด้วยซอร์เบต์ ซึ่งไอศกรีมเป็นผลไม้ขนานแท้ โดยมีส่วนประกอบหลักเป็นผลไม้ และน้ำตาลเพื่อเพิ่มความหวาน โดยอาจมีการใส่นมเพียงเล็กน้อย หรือบางสูตรสำหรับชาว Vegan ก็จะไม่มีการใส่นมเลย ซึ่งเนื้อสัมผัสของซอร์เบท์ก็จะค่อนข้างเบา แน่น และมีลักษณะเป็นเกล็ดๆ คล้ายผลไม้ปั่นแช่แข็ง คนที่ชอบกินผลไม้รับรองว่าถูกใจแน่นอน
6# เชอร์เบท (Sherbet)
ปิดท้ายกันด้วยฝาแฝดของซอร์เบท์ที่อาจทำให้หลายคนสับสนว่าสองอันนี้มันต่างกันยังไง จริงๆ แล้วข้อแตกต่างหลักๆ ของซอร์เบท์กับเชอร์เบท คือเชอร์เบทจะมีส่วนผสมของนม ครีมไข่ขาว และบางสูตรอาจมีการใส่เจลาตินด้วย แต่เชอร์เบทก็ยังถือเป็นไอศกรีมที่ Healthy ด้วยสัดส่วนไขมันเพียง 1-3% ทำให้กินได้แบบไร้กังวลเลย
วันไหนที่อากาศร้อนๆ ไอศกรีมก็ถือเป็นตัวเลือกในการสู้ร้อนที่ดีทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงซัมเมอร์แบบนี้ แต่ถึงแม้จะอร่อยขนาดไหน สิ่งสำคัญคือควรกินแต่พอดี เพราะถ้ากินเยอะเกินไป อาจจะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลเกินปริมาณที่ต้องการ และเกิดผลเสียต่อสุขภาพได้