Cacao vs Cocoa คู่เหมือน...ที่ความเฮลธ์ตี้ต่าง!
แน่นอนว่า “โกโก้” ใครๆ ก็รู้จัก แต่ถ้าพูดถึง “คาเคา” หลายคนอาจจะสับสนว่าคืออะไร ใช่อีกชื่อของโกโก้หรือเปล่า แถมหน้าตาก็ยังละม้ายคล้ายๆ กันอีกด้วย งั้นเราจะพาไปทำความรู้จักกับ “คาเคา” สุดยอดซุปเปอร์ฟู้ดที่มีจุดกำเนิดเดียวกับโกโก้ แต่พลังความเฮลธ์ตี้...มากกว่าจนต้องร้องว้าวเลยล่ะ!!
Cacao หรือ คาเคา สิ่งนี้คืออะไรกันนะ?
คาเคา...สุดยอดซุปเปอร์ฟู้ดที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ซึ่งเดิมทีมีการเพาะปลูกในแถบอเมริกาใต้และอเมริกากลาง ก่อนที่ชาวสเปนจะนำเมล็ดคาเคาไปยังแถบยุโรป และมีการพัฒนานำมาผสมเข้ากับนมและน้ำตาล...จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลายคนรู้จักกันดี นั่นก็คือ “ช็อกโกแลต” หรือจะให้นิยามง่ายๆ “คาเคา” ก็คือช็อกโกแลตในเวอร์ชั่นบริสุทธิ์ที่ไม่มีอะไรผสมนั่นเอง
Photo credit: www.blessthismessplease.com
โดยคาเคาจะถูกนำมาแปรรูปออกเป็นหลายรูปแบบ ได้แก่...
- Cacao Nibs เป็นการบดหรือทำให้เมล็ดคาเคาหักออกเป็นชิ้นเล็กๆ ซึ่งเท่ากับว่าสารอาหารต่างๆ ยังคงอยู่ครบถ้วน
- Cacao Paste เป็นการนำ Cacao Nibs มาผ่านกรรมวิธีทางความร้อนแบบช้าๆ เพื่อยังคงคุณค่าสารอาหารไว้มากที่สุด หรือเรียกได้ว่ามีความบริสุทธิ์กว่า “dark chocolate” ซะอีก
- Cacao Powder เป็นการแปรรูปจากเมล็ดคาเคาในรูปแบบผงเหมือนกับผงโกโก้ แต่ใช้วิธีสกัดเย็น (Cold pressing) ซึ่งเป็นกรรมวิธีที่ใช้ความร้อนต่ำ
แล้ว Cacao เฮลธ์ตี้กว่า Cocoa ตรงไหน?
อย่างที่บอกไปว่า ผงคาเคานั้นจะผ่านกรรมวิธีที่ใช้ความร้อนต่ำ ในขณะที่ผงโกโก้ต้องนำไปคั่วให้หอม ซึ่งเท่ากับว่าต้องผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ใช้ความร้อนสูง ทำให้สารอาหารบางอย่างถูกความร้อนทำลาย ที่สำคัญ! ผลิตภัณฑ์ผงโกโก้ที่ขายตามท้องตลาด...ส่วนใหญ่มีการเติมส่วนผสมของน้ำตาล ครีมเทียม และไขมันพืช เพื่อให้ได้รสชาติที่ดี
“สารต้านอนุมูลอิสระ” คือหนึ่งในสารอาหารที่คุณจะได้รับจากคาเคามากกว่าโกโก้หลายเท่า โดยมีการเปรียบเทียบค่า ORAC Score (Oxygen Radical Absorbance Capacity) ซึ่งเป็นวิธีการวัดสารต้านอนุมูลอิสระ พบว่า ในผงคาเคา(ดิบ) ปริมาณ 100 กรัม มีค่า ORAC 95,500 ส่วนผงโกโก้(ดิบ) ในปริมาณ 100 กรัมเท่ากัน จะมีค่า ORAC อยู่เพียง 26,000
และด้วยคุณค่าสารอาหารมากมาย นี่คือประโยชน์ดีๆ จากคาเคา ที่เราลิสต์มาบอกคุณ!
ช่วยควบคุมระดับไขมันในร่างกาย
มีการศึกษาในปี 2548 เกี่ยวกับผลของเมล็ดคาเคาต่อผู้ป่วยโรคอ้วนจากภาวะไขมันสูง พบว่า...การบริโภคเมล็ดคาเคาควบคู่กับอาหารที่มีไขมันสูง ช่วยป้องกันปัญหาน้ำหนักตัวเพิ่มได้ ซึ่งผลวิเคราะห์บอกไว้ว่า เมล็ดคาเคาสามารถต่อต้านโรคอ้วนได้ลึกถึงระดับพันธุกรรม เพราะเมล็ดคาเคาจะเข้าไปหยุดกระบวนการสังเคราะห์กรดไขมัน ทำให้ไม่เกิดไขมันสะสม จึงช่วยให้น้ำหนักตัวไม่เพิ่มขึ้น
ลดภาวะเครียดออกซิเดชั่น
อ่ะ หลายคนอาจจะกำลังงงๆ อยู่ว่า ภาวะเครียดออกซิเดชั่น (oxidative stress) คืออะไร? ถ้าให้อธิบายง่ายๆ ก็คือ การที่ร่างกายเรามีอนุมูลอิสระมากกว่าสารต้านอนุมูลอิสระ ส่งผลให้อนุมูลอิสระนั้นเข้าไปทำลายระบบต่างๆ ภายในเซลล์ของเรานั่นเอง ซึ่งถ้าร่างกายเกิดภาวะเครียดจากออกซิเดชั่นต่อเนื่องไปนานๆ ไม่เพียงแค่ทำให้ดูแก่ก่อนวัย แต่อาจนำไปสู่โรคร้าย เช่น โรคมะเร็ง หรือ โรคหัวใจขาดเลือด ได้ ซึ่งในเมล็ดคาเคานั้นจะอุดมไปด้วย polyphenols สารที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ช่วยควบคุมน้ำหนัก ป้องกันเบาหวาน และป้องกันความเสื่อมของระบบประสาทและโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
ป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
แน่นอนว่าโรคอ้วนมักนำไปสู่โรคเบาหวานประเภท 2 ที่เกิดจากภาวะดื้ออินซูลิน ซึ่งปริมาณเซลล์ไขมันที่มีมากกว่าเซลล์กล้ามเนื้อถือว่าเป็นปัจจัยนึงที่ทำให้ความไวต่ออินซูลินลดลง โดยมีการศึกษาในปี 2007 พบว่าสารสกัดจากคาเคาสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดโอกาสโรคเบาหวานในผู้ป่วยโรคอ้วนที่เกิดจากไขมันสะสม เนื่องจากมีสารประกอบฟีนอลิคสูง จึงสามารถช่วยในการลด LDL ลดไตรกลีเซอไรด์ ลดระดับน้ำตาลในเลือด และลดความดันโลหิตได้
พอเห็นพลังความเฮลธ์ตี้ของคาเคา...สายสุขภาพก็เริ่มสนใจขึ้นมาแล้วใช่มั้ยล่ะ อ่ะ! ถ้าใครอยากลิ้มลองก็สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าหรือในออนไลน์ก็มีเพียบเลยนะ ไม่ว่าจะนำมาทำเป็นสมูทตี้ ขนมหรือเบเกอรี่ เรียกว่าปรับใช้แทนโกโก้ได้หมดครบทุกเมนูเลย