เอ็ด ชีแรน นักร้องหนุ่มที่เคยติดอ่าง แต่วันนี้ทุกเพลงของเขาติดทุกท็อปชาร์จและกลายเป็นนักร้องที่ดังที่สุดในโลก เอมี่ อดัมส์ กับการได้เสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ถึง 5 ครั้ง เจ้าชายแฮรี่ สุดจี๊ดแห่งราชวงษ์อังกฤษ เอ็ดดี้ เรดเมย์น สุดยอดนักแสดงออสการ์ตีบทแตกทุกเรื่อง เหมือนว่าการเกิดมาพร้อมผมสีแดงหรือที่เรียกกันว่า Ginger hair (บางคนก็เรียก Redheads) จะไม่ใช่แค่เรื่องสีผมที่ทำให้พวกเขาเหล่านี้มีอะไรพิเศษสุดๆ 

 

ความจริงแล้วเรื่องความเชื่อในพลังของสีผมนั้นมีมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ ที่เชื่อว่าสีผมมีส่วนสำคัญในการปกป้องผู้คนจากอันตรายและความทุกข์ยาก แล้วยังกำหนดชะตากรรมบางอย่างที่แตกต่างกัน ซึ่งผมสีแดงจะจัดอยู่ในกลุ่มคนที่มีความกล้าหาญ ดื้อรั้น และมีพลังลึกลับบางอย่าง ความกล้าหาญหรือพลังพิเศษยังปรากฏในปกรฌัมโบราณของไอร์แลนด์ คือบุคลิกของเทพเจ้าธอร์ที่มีผมและเคราสีแดงกับผิวขาวซีดด้วย 

 

หรือแม้แต่คาแรกเตอร์ตัวละครดังๆ และเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ในหลายๆ เรื่อง ก็ยังถูกครีเอทขึ้นมาให้มีผมสีแดง เงือกสาวแอเรียลแห่งดิสนีย์ มิสทีค แห่ง X-Mens หรือแม้แต่พ่อมดหนุ่มผมแดงอย่าง รอน วีสลีย์ ก็คือคนสำคัญที่สุดของแฮร์รี่ พอตเตอร์ 

 

 

 

มีการวิจัยชิ้นหนึ่งได้เปรียบเทียบผู้หญิงผมแดง 30 คน กับผู้หญิงผมสีเข้ม 30 คน โดยทำการทดสอบปฏิกิริยาการรับความรู้สึกกับอุณหภูมิที่เย็นจัด ซึ่งคนแรกที่เริ่มสั่นเมื่ออุณหภูมิถูกปรับให้ลดลงนั่นเป็น “สาวผมแดง” นอกจากนี้ยังมีการศึกษาชิ้นอื่นๆ ที่สอดคล้องกันว่า สาวผมแดงจะมีความไวต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า จึงรู้สึกร้อนและหนาวได้ไวกว่า สาวผมแดงจึงมักรับรู้ถึงการมาถึงของฤดูหนาวได้เร็วกว่า ซึ่งก็เกี่ยวข้องกับการที่สาวผมแดงจะมีระดับวิตามินเคที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติน้อยกว่าสาวผมสีอื่นนั่นเอง

 

ในหนังสือ "The Big Redhead Book" โดย Erin La Rosa บอกไว้ว่า คนผมแดงมักจะมีผิวที่ซีดขาวกว่าปกติจากการที่มีความหนาแน่นของเม็ดสีเมลานินต่ำ ทำให้มีการสังเคราะห์วิตามินดีจากแสงแดดได้ดีกว่าคนผิวเข้ม คนผมแดงจึงสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าคนผมสีอื่นที่มีผิวเข้มกว่า แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมหรือเมืองที่มีแสงแดดน้อย ในทางกลับกันคนผมแดงก็มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนังมากกว่า รวมถึงจะเป็นฝ้าและกระได้ง่ายกว่าด้วย


 

มีการวิจัยโดยวิสัญญีแพทย์ ในมหาวิทยาลัยแมคกิลล์ เมื่อกว่า 20 ปีมาแล้วพบว่า คนผมแดงต้องใช้ยาสลบในปริมาณที่มากกว่าคนผมสีอื่นราว 20% เพราะพวกเขาจะมีความไวต่อการเจ็บปวดที่มากกว่า จึงยากที่จะระงับความรู้สึกได้หากใช้ยาสลบในขนาดเท่าๆ กับคนผมสีอื่น ในอีกทางหนึ่งกลับมีการศึกษาที่พบว่า คนผมแดงมีการตอบสนองต่อยาแก้ปวด pentazocine ที่แพทย์มักให้หลังการผ่าตัดได้ดีกว่า จึงต้องการยาน้อยกว่า ซึ่งก็น่าจะเกี่ยวข้องกับการกลายพันธุ์ในตัวรับฮอรโมน และการตอบสนองต่อฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน (Endorphins) ที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้นั่นเอง

 

สำหรับในผู้ชายผมแดง มีการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร British Journal of Cancer ว่า ชายผมแดงมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่าชายผมสีอื่นถึง 54% แต่ทั้งนี้โอกาสการเป็นมะเร็งต่อลูกหมากยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมาก เพราะการศึกษาของสถาบันเดียวกันนี้ก็บอกไว้ว่า ผู้ชายที่ทำงานนั่งโต๊ะตลอดวันมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากมากกว่ากลุ่มที่ทำงานนั่งโต๊ะเพียงครึ่งวันถึง 20% และมากกว่าผู้ชายที่ไม่ได้ทำงานนั่งโต๊ะกว่า 28%

 

มีการพิสูจน์มาแล้วว่า คนผมแดงจะมีจำนวนเส้นผมโดยเฉลี่ย 90,000 เส้น ในขณะที่คนผมสีน้ำตาลจะมีเส้นผมราว 140,000 เส้น ส่วนผมสีทองนั้นมีประมาณ 110,000 เส้น แต่ที่เรายังเห็นว่าคนผมแดงยังมีผมหนาเหมือนผมสีอื่นนั้น ก็เพราะโดยธรรมชาติแล้วเส้นผมสีแดงจะมีความหนามากกว่าเส้นผมสีอื่นนั่นเอง
 

ลักษณะพิเศษของคนที่มีผมแดงตามธรรมชาติอีกอย่าง คือจะมีเม็ดสีที่เกาะแน่นกว่าปกติ จึงทำให้การย้อมเปลี่ยนสีผมทำได้ยาก และเมื่ออายุมากขึ้น สีผมมักจะไม่เปลี่ยนเป็นสีเทาหรือดูหงอก เพียงแต่จะจางลงไปจนกลายเป็นสีทองหรือสีเงินขาวที่ดูดีเลยทีเดียว
 

 

แม้คนผมแดงจะมีความพิเศษหลายอย่างในทางสุขภาพ แต่ทำไมโลกเราจึงมีคนผมแดงอยู่แค่ราว 2% นั้นอาจเป็นเพราะการที่เด็กจะเกิดมามีผมสีแดงได้นั้น ทั้งพ่อและแม่จะต้องมียีน MCIR ที่กลายพันธุ์ และแม้จะเป็นเช่นนั้นก็มีโอกาสเพียง 25% ที่เด็กจะเกิดมามีเด็กผมสีแดง

 

อีกสาเหตุหนึ่งที่เราพบคนผมแดงได้น้อย โดยเฉพาะสาวๆ ก็เพราะในช่วง ค.ศ. 1483-1784  ซึ่งตรงกับสมัยกรีกโบราณ คนในทวีปยุโรปได้นำความเชื่อเรื่อง “แม่มด” ไปผูกโยงกับสาวผมแดงว่าเป็นเผ่าพันธุ์แม่มด ทำให้มีผู้หญิงผมแดงกว่า 45,000 คนถูกล่าและนำไปเผาทั้งเป็น

 

อาจจะต้องเดินทางไปเซาะหาในแถบยุโรปเหนือหรือยุโรปตะวันตก โดยเฉพาะในประเทศไอร์แลนด์จะมีประชากรผมแดงกว่า 10% และในสกอตแลนด์มีประมาณ 6% ของคนที่เดินสวนกันเลยทีเดียว