3 เรื่อง “ไส้เลื่อน” ที่หลายคนเข้าใจผิดมาตลอด
ไส้เลื่อน อาการหรือภาวะที่เราได้ยินกันบ่อยๆ ในกลุ่มผู้ชายที่ชอบเล่นกีฬา โดยมักคิดกันว่า คนที่เล่นกีฬามีโอกาสเป็นไส้เลื่อนได้มากกว่าคนทั่วไป และยังเต็มไปด้วยความเชื่ออีกหลายอย่างเกี่ยวกับโรคนี้ เรามาดูกันดีกว่าว่า ความเชื่ออะไรที่เจอกันบ่อย แล้วความจริงมันเป็นเช่นนั้นหรือเปล่า?
1.ไม่ใส่กางเกงในเลยเป็นไส้เลื่อน
ยุคสมัยเปลี่ยนไป เดี๋ยวนี้หนุ่มๆ หันมาใส่กางเกงชั้นในแบบบ็อกเซอร์กันมากขึ้น ก็เลยกังวลว่า การไม่ได้ใส่กางเกงชั้นในแบบที่กระชับโอบอุ้มน้องชายอย่างใกล้ชิดจะเป็นสาเหตุให้เสี่ยงการเป็นไส้เลื่อนมากขึ้น เพราะคิดไปว่าพอไม่มีอะไรมารองรับแล้วต้องเดิน วิ่ง กระโดด หรือไปเล่นกีฬาที่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวเร็วๆ แรงๆ อาจดึงไส้ให้เลื่อนออกมาจากช่องท้องมาตกอยู่ที่ขาหนีบได้ ความเชื่อนี้ไม่เป็นความจริงเลย
เพราะสาเหตุที่แท้จริงของไส้เลื่อนเกิดจากการที่ผนังหน้าท้องอ่อนแอหรือหย่อนยานผิดปกติ ลำไส้บางส่วนจึงเลื่อนออกมาตุงเป็นก้อนบวมบริเวณขาหนีบหรืออัณฑะ ไม่เกี่ยวกับการใส่หรือไม่ใส่กางเกงใน หรือใส่กางเกงในแบบไหน ถ้าคุณผู้ชายกลัวการเป็นไส้เลื่อนจนต้องใส่กางเกงในที่รัดแน่นเกินไป อาจจะพาโรคอื่นๆ มาได้ง่ายกว่าด้วยนะ... อย่างโรคเชื้อราในร่มผ้าที่ทำให้คันยิกๆ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ปวดท้องน้อย หรือกระทั่งปวดหัวจากการที่อัณฑะถูกบีบรัดมากเกินไปด้วยซ้ำ
2. ผู้หญิงไม่มีอัณฑะจึงไม่เป็นไส้เลื่อน
จริงๆ แล้วไส้เลื่อนไม่จำเป็นต้องเกิดที่อัณฑะ ดังนั้นผู้หญิงก็เป็นไส้เลื่อนได้ แต่ก้อนไส้เลื่อนของผู้หญิงมักจะเกิดบริเวณข้างๆ อวัยวะเพศหรือขาหนีบ แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย หรือถ้าเป็นก็มีอาการไม่มากนักจึงสังเกตไม่ค่อยเห็นหรือไม่ค่อยเจ็บปวด เพราะเมื่อใดก็ตามที่นอนราบลง ก้อนตุงๆ ที่ว่านี้ก็จะหายไป หรือสามารถดันกลับไปในช้องท้องได้เอง นอกเสียจากบางรายเป็นหนัก แบบนั้นต้องปรึกษาแพทย์
3. ไส้เลื่อนแค่ดันกลับเข้าไปก็หายดี
โดยส่วนใหญ่แล้ว ถ้าไส้เลื่อนเกิดกับคนหนุ่มสาว แพทย์มักจะแนะนำให้ทำการผ่าตัด เพราะเป็นการผ่าตัดที่ไม่ยุ่งยาก และเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว การผ่าตัดนี้จะทำการเสริมความแข็งแรงของผนังหน้าท้องหลังจากดันลำไส้ที่เลื่อนกลับเข้าที่แล้ว และแม้ผ่าตัดแล้ว โอกาสเป็นซ้ำก็ยังมี ถ้าแผ่นที่เสริมเข้าไปไม่แข็งแรงพอ แต่หากคนไข้ไม่อยากผ่าตัด แพทย์ก็จะใช้วิธีดันไส้เลื่อนกลับผ่านรูที่ไหลออกมา แต่การดันไส้แบบนี้ ส่วนใหญ่อาการก็จะกลับมาอีกเรื่อยๆ จนในที่สุดไส้อาจไม่สามารถเลื่อนกลับเข้าไปได้อีก ส่งผลให้ปวดท้องรุนแรง เนื่องจากลำไส้ขาดเลือด เกิดการอุดตัน สุดท้ายอาจติดเชื้อ และเกิดภาวะแทรกซ้อนจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ดังนั้น ใครที่มีปัญหาหรือสงสัยว่ากำลังเป็นไส้เลื่อน ก็อย่าทิ้งไว้ ไม่ต้องอาย รีบไปพบแพทย์จะดีกว่า