'ช็อกโกแลตซีสต์' โรคสุดจี๊ดของสาวยุคดิจิตอล
‘ช็อกโกแลตซีสต์’ แค่ได้ยินก็ (เจ็บ) จี๊ดไปถึงใจของสาวๆ เพราะช็อกโกแลตซีสต์ หรือ ถุงน้ำรังไข่ นี้เป็นภาวะผิดปกติที่พบได้บ่อยในผู้หญิงไทย โดยเฉพาะวัยทำงาน ทำให้มีลูกยาก ยิ่งถ้าสาวๆ คนไหนเป็นสาย (ติด) หวานด้วยแล้ว ก็ขอเตือนให้ระวังไว้ก่อนเลย เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ ซึ่งจากสถิติที่มีการเก็บข้อมูลของ Office on Women’ s Health, U.S. Department of Health & Human Services พบว่าผู้หญิงกว่า 5 ล้านคนทั่วโลกเผชิญกับภาวะดังกล่าว โดยเฉพาะในประเทศไทยที่พบมากถึงร้อยละ 10 ของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ นี่ถ้าเป็นของโปรดอย่างช็อกโกแลตก็ว่าไปอย่าง
“ถุงน้ำ”...มาจากไหน?
ถุงน้ำนั้นมีหลายชนิด ซึ่งสำหรับถุงน้ำที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย หรือที่เรียกว่า functional cyst จะสามารถเกิดขึ้นเองได้ โดยตรวจพบได้จากการอัลตร้าซาวด์ ขึ้นอยู่กับว่าทำการอัลตร้าซาวนด์ในช่วงไหนของรอบประจำเดือน สามารถยุบหายไปได้เองจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้น เพียงแค่ตรวจติดตาม เช่นเดียวกับภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง ที่มักพบเป็นถุงน้ำใบเล็กๆ หลายใบอยู่ในรังไข่ ทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ อ้วน หน้ามัน เป็นสิว มีขนขึ้น ก็สามารถเกิดขึ้นได้เอง หรืออาจเกิดจากการกินอาหารเสริมบางชนิดที่ส่งผลต่อฮอร์โมนก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าเป็นถุงน้ำที่เกิดจากพยาธิสภาพ เช่น เนื้องอกชนิดหนึ่ง ช็อกโกแลตซีสต์ หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ จะไม่สามารถหายเองได้ จึงต้องทำการรักษาต่อไป
ถุงน้ำรังไข่...อาการแบบไหนที่ต้องระวัง
ในระยะแรกที่ถุงน้ำยังมีขนาดไม่ใหญ่มากจะไม่แสดงอาการให้รู้ตัว นอกจากว่าจะตรวจอัลตร้าซาวด์หรือตรวจภายใน หรือเมื่อก้อนมีขนาดใหญ่ขึ้นจนไปกดเบียดอวัยวะข้างเคียงก็จะค่อยแสดงอาการ อาจทำให้ปัสสาวะบ่อย ถ่ายอุจจาระลำบาก หรือกรณีที่เป็นช็อกโกแลตซีสต์ แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่แต่ก็ทำให้มีอาการปวดได้ เช่น ปวดประจำเดือน หรือประจำเดือนมาผิดปกติ โดยการรักษาหากถุงน้ำที่ตรวจพบเป็นถุงน้ำที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ก็สามารถรักษาได้โดยการใช้ยาปรับประจำเดือนหรือยาปรับฮอร์โมน ส่วนถ้าเป็นช็อกโกแลตซีสต์ ที่มักพบได้ในผู้หญิงไทย การรักษาก็จะสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับขนาดของถุงน้ำ แต่ก็ยังถือว่าไม่อันตราย
ถุงน้ำรังไข่ สามารถลุกลามเป็นมะเร็งได้?
แม้จะบอกว่าไม่ต้องกังวล เพราะถุงน้ำสามารถหายได้เอง แต่ถ้าแจ็กพอตเกิดเป็นถุงน้ำที่มีก้อนเนื้อตันข้างใน หรือเป็นก้อนเนื้อตันล้วนๆ ก็ต้องดูแลเป็นพิเศษหน่อย เพราะอาจเสี่ยงมะเร็งรังไข่ได้ รวมถึงช็อกโกแลตซีสต์หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ก็อาจมีมะเร็งซุกซ่อนอยู่ แม้จะเป็นเพียงแค่ 1-2% แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคนไข้ช็อกโกแลตซีสต์ทุกรายจะสบายใจหายห่วงได้ 100%
ดังนั้นทางที่ดีหากมีข้อสงสัยที่บ่งชี้ว่าเสี่ยงโรคมะเร็งก็รีบปรึกษาหมอดีกว่า อย่างน้อยถ้าไม่เป็นอะไรมากก็จะได้ช่วยแก้ปัญหาการมีลูกได้ด้วย...เอ๊ะ! หรือว่าจะต้องหาแฟนให้ได้ก่อนนะ
สนใจ แพ็กเกจตรวจสุขภาพ คลิก!
“ถุงน้ำ”...มาจากไหน?
ถุงน้ำนั้นมีหลายชนิด ซึ่งสำหรับถุงน้ำที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย หรือที่เรียกว่า functional cyst จะสามารถเกิดขึ้นเองได้ โดยตรวจพบได้จากการอัลตร้าซาวด์ ขึ้นอยู่กับว่าทำการอัลตร้าซาวนด์ในช่วงไหนของรอบประจำเดือน สามารถยุบหายไปได้เองจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้น เพียงแค่ตรวจติดตาม เช่นเดียวกับภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง ที่มักพบเป็นถุงน้ำใบเล็กๆ หลายใบอยู่ในรังไข่ ทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ อ้วน หน้ามัน เป็นสิว มีขนขึ้น ก็สามารถเกิดขึ้นได้เอง หรืออาจเกิดจากการกินอาหารเสริมบางชนิดที่ส่งผลต่อฮอร์โมนก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าเป็นถุงน้ำที่เกิดจากพยาธิสภาพ เช่น เนื้องอกชนิดหนึ่ง ช็อกโกแลตซีสต์ หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ จะไม่สามารถหายเองได้ จึงต้องทำการรักษาต่อไป
ถุงน้ำรังไข่...อาการแบบไหนที่ต้องระวัง
ในระยะแรกที่ถุงน้ำยังมีขนาดไม่ใหญ่มากจะไม่แสดงอาการให้รู้ตัว นอกจากว่าจะตรวจอัลตร้าซาวด์หรือตรวจภายใน หรือเมื่อก้อนมีขนาดใหญ่ขึ้นจนไปกดเบียดอวัยวะข้างเคียงก็จะค่อยแสดงอาการ อาจทำให้ปัสสาวะบ่อย ถ่ายอุจจาระลำบาก หรือกรณีที่เป็นช็อกโกแลตซีสต์ แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่แต่ก็ทำให้มีอาการปวดได้ เช่น ปวดประจำเดือน หรือประจำเดือนมาผิดปกติ โดยการรักษาหากถุงน้ำที่ตรวจพบเป็นถุงน้ำที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ก็สามารถรักษาได้โดยการใช้ยาปรับประจำเดือนหรือยาปรับฮอร์โมน ส่วนถ้าเป็นช็อกโกแลตซีสต์ ที่มักพบได้ในผู้หญิงไทย การรักษาก็จะสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับขนาดของถุงน้ำ แต่ก็ยังถือว่าไม่อันตราย
ถุงน้ำรังไข่ สามารถลุกลามเป็นมะเร็งได้?
แม้จะบอกว่าไม่ต้องกังวล เพราะถุงน้ำสามารถหายได้เอง แต่ถ้าแจ็กพอตเกิดเป็นถุงน้ำที่มีก้อนเนื้อตันข้างใน หรือเป็นก้อนเนื้อตันล้วนๆ ก็ต้องดูแลเป็นพิเศษหน่อย เพราะอาจเสี่ยงมะเร็งรังไข่ได้ รวมถึงช็อกโกแลตซีสต์หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ก็อาจมีมะเร็งซุกซ่อนอยู่ แม้จะเป็นเพียงแค่ 1-2% แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคนไข้ช็อกโกแลตซีสต์ทุกรายจะสบายใจหายห่วงได้ 100%
ดังนั้นทางที่ดีหากมีข้อสงสัยที่บ่งชี้ว่าเสี่ยงโรคมะเร็งก็รีบปรึกษาหมอดีกว่า อย่างน้อยถ้าไม่เป็นอะไรมากก็จะได้ช่วยแก้ปัญหาการมีลูกได้ด้วย...เอ๊ะ! หรือว่าจะต้องหาแฟนให้ได้ก่อนนะ
สนใจ แพ็กเกจตรวจสุขภาพ คลิก!
