จัดการความเครียดด้วย 10 วิธีจากนักจิตวิทยา
หน้าตาเคร่งขรึม พฤติกรรมบ้าคลั่ง หลากหลายสัญญาณที่ทำให้เรารับรู้ได้ว่า...คนเหล่านั้นกำลังตกอยู่ในหลุมดำที่เรียกว่า “ความเครียด” แต่แน่ล่ะ! ต่อให้เราเองก็รู้ดีว่าความเครียดนั้นไม่ดีต่อสุขภาพกายและใจเรายังไง เมื่อชีวิตยังต้องแบกรับกับสารพัดเรื่องราว ทำให้หนีไม่พ้นต้องเวียนวนมาพบกับความเครียดเป็นระยะๆ แล้วแบบนี้เราจะจัดการความเครียดให้เบาบางลงได้ยังไง...นี่คือเคล็ดลับที่นักจิตวิทยาเค้าบอกมาก่อนจะไปเรียนรู้กับวิธีการจัดการกับความเครียด เราอยากบอกคุณว่า...ความเครียดก็เหมือนกับเซลล์มะเร็ง นั่นแหละ มันเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว และลุกลามไปสู่ระยะรุนแรงได้อย่างรวดเร็ว หากเราไม่จัดการความเครียดที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้ดี เหมือนกับเหตุการณ์ระทึกยามเย็นท่ามกลางเสียงแตรรถเมล์สุดวุ่นวายของอนุสาวรีย์ชัยฯ เมื่อจู่ๆ ทุกสายตาต้องหันซ้ายหันขวากระจายเรดาร์หาต้นตอของเสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวาย ภาพที่เห็นตรงหน้า...ไม่ใช่ชายสติไม่ดีหรือจิ๊กโก๋เสพยา แต่กลับเป็นชายหนุ่มวัยรุ่นในชุดนักศึกษา หน้าตาดี ผิวพรรณดี ที่กำลังเดินไล่เตะและขว้างปาสิ่งของของแม่ค้าละแวกนั้น พร้อมกับยกมือขึ้นทุบหัวของตัวเองราวกับคนสติหลุด!!
สิ่งที่เกิดขึ้นในความคิด...ไม่ใช่เรื่องตลกหรือดราม่า แต่เป็นคำถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกับหนุ่มอายุน้อยคนนี้กัน?” คำตอบที่ผุดขึ้นพร้อมกับเสียงคอมเมนต์วิจารณ์จากผู้คน ต่างเป็นไปในทางเดียวกันว่า...ความเครียดคงกำลังกัดกินจิตใจของเค้าอยู่ จนทำให้เราต้องกลับมาสะกิดเตือนใจตัวเองว่า ถ้าเราไม่อยากต้องกลายเป็นอสูรร้ายน่ากลัวแบบนี้ในสักวัน เราคงต้องเรียนรู้ที่จะจัดการความเครียดให้เป็น...ก่อนวันนึงมันจะจุดไฟเผาเราเองและระเบิดบูม! จนไม่สามารถเรียกเราคนเดิมกลับคืนมาได้
และนี่คือ 10 เคล็ดลับการจัดการกับความเครียดที่ Angela Petridis นักจิตวิทยาจากซิดนีย์เค้าบอกมา...
1. เดินเล่น 15 นาที แบบเพลินๆ เพราะการได้ขยับเคลื่อนไหวช่วยให้ร่างกายมีการหลั่งเอนโดฟิน...ฮอร์โมนแห่งความสุข
2. สัมผัสกลิ่นอายธรรมชาติและความเงียบสงบ อาจจะเป็นการนั่งชิลๆ ในสวนหรือยืนชมวิวนอกหน้าต่างก็ได้นะ
3. สูดหายใจให้อากาศบริสุทธิ์ไหลผ่านจมูกและปากเข้าสู่ร่างกาย ช่วยทำให้ความตึงเครียดค่อยๆ คลายลง
4. พาตัวเองออกจากสถานการณ์ที่เป็นสาเหตุของความเครียด แล้วไปอยู่ในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยสิ่งที่ชอบ
5. ผ่อนคลายความเครียดด้วยเทคนิคการหายใจ โดยกลั้นหายใจประมาณ 10 วินาที จากนั้นหายใจเข้าลึกๆ ทางจมูก เป็นเวลา 3 วินาที แล้วหายใจออกอีก 3 วินาที ทำซ้ำจนครบ 1 นาที จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและชะลออัตราการเต้นของหัวใจได้
6. ตั้งข้อโต้แย้งความคิดเชิงลบของตัวคุณ เช่น ถ้าคุณมีความคิดกับตัวเองว่า “ชั้นทำสิ่งนี้ไม่ได้” ให้ถามตัวเองต่อเลยว่า “แล้วชั้นจะทำสิ่งที่แตกต่างจากเดิมได้มั้ย” เพื่อจัดการกับมุมมองเดิมๆ ของคุณ
7. บำบัดความเครียดด้วยการนวด เมื่อรู้สึกว่าช่วงนี้เริ่มจมอยู่กับภาวะเครียดมากเกินไป ให้สละวันแสนชุลมุนของคุณ...แล้วพุ่งตรงไปยังร้านนวดหรือสปา เพื่อสร้างความผ่อนคลายให้กับร่างกายและจิตใจ
8. ออกกำลังกายผ่อนคลายกล้ามเนื้อ โดยการเกร็งและคลายกล้ามเนื้อมัดใหญ่ในร่างกาย เช่น ออกกำลังกายกล้ามเนื้อบนใบหน้า โดยการอ้าปากหรือยิ้มค้างไว้ 10 วินาที แล้วผ่อนคลาย 10 วินาที เป็นต้น
9. นั่งสมาธิ...ปรับจิตใจให้สงบ อาจใช้วิธีการมโนภาพ (Guided Meditation) หรือเปิดซีดีควบคู่ จากนั้นปิดตาแล้วโฟกัสที่เสียงรอบๆ ตัวคุณว่าได้ยินเสียงของใครหรืออะไรบ้าง
10. เมื่อรู้สึกเครียดหรือผิดหวัง ลองเขียนถึง 3 สิ่งที่สำคัญในชีวิตของคุณ เช่น ครอบครัว, คนรัก หรือเพื่อนรัก เพื่อดึงสติว่าอย่างน้อยก็ยังมีเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณอยู่บ้างนะ
บ่อยครั้งที่ชีวิตไม่ได้สวยงามราวกับเทพนิยายในการ์ตูนเหมือนตอนเด็กๆ แต่ในขณะที่คุณกำลังรู้สึกเครียด ท้อแท้ ผิดหวังจนไม่ยากเดินต่อ ห่างออกไปอีก 100 เมตร คุณอาจจะได้พบใครคนนึงกำลังนั่งหัวเราะกับเจ้าสี่ขาที่เลียหน้าไม่หยุด...บนซาเล้งที่แสนเก่าพร้อมจะผุพัง ก็นะ! บางที “ความสุข” มันก็อยู่ใกล้...แค่คุณคว้ามันมาใส่ในความคิด