เลี้ยงลูกแบบซาเทียร์ จะปีไหนยังไงก็รอด!

ถ้าจะว่ากันด้วยวิธีการเลี้ยงลูก ก็คงจะมีหลักการเป็นร้อยแปดอย่าง แล้วแต่ว่าบ้านไหนจะสะดวกแนวไหน ซึ่งก็ไม่ได้มีของใครที่ผิดหรือถูก วันนี้เราเลยจะมาแนะนำอีกหนึ่งไอเดียในการเลี้ยงลูก เผื่อคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนถูกใจ จะได้เอาไปลองใช้กันดู โดยเทคนิคนี้มีชื่อว่า ‘Satir Model Parenting’



จุดเริ่มต้นของ Satir’s Model  
การเลี้ยงลูกแบบซาเทียร์ มีที่มาจากทฤษฎีการบำบัดครอบครัวของนักจิตบำบัดครอบครัวชาวอเมริกันที่ชื่อว่า ‘ เวอร์จิเนีย ซาเทียร์’ (Virginia Satir) เธอได้รับการยอมรับในฐานะของตัวแม่ตัวมัมเรื่องการบำบัดครอบครัว (Mother of Family Therapy) ซึ่ง,งานของเธอมักจะเน้นไปที่การพัฒนาความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเฉพาะการสื่อสารและการยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล ที่เรียกว่าทุกวันนี้กลายเป็นพื้นฐานที่สำคัญภายในครอบครัวไปแล้ว 
 
‘เราทุกคนเกิดมาเพื่อเป็นเอกลักษณ์ และหน้าที่ของเราคือ
การค้นหาว่าเราเป็นใครและจะสร้างคุณค่าให้กับโลกได้อย่างไร’

                                                                                       
                                                                                          เวอร์จิเนีย ซาเทียร์

Key สำคัญในการเลี้ยงลูกแบบซาเทียร์
ซาเทียร์เชื่อว่าเด็กและครอบครัวจะเติบโตได้อย่างมีคุณภาพเมื่อมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิกในครอบครัว  ดังนั้นตามหลักการแล้ว จะเน้นสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรงและส่งเสริมการพัฒนาทางอารมณ์และจิตใจ ด้วยการสื่อสารที่เปิดเผยและการยอมรับในตัวตนของแต่ละคน เพื่อให้ครอบครับสามารถเผชิญกับความท้าทายและเติบโตไปด้วยกันอย่างมีความสุข และนี่คือหลักการสำคัญ 4 ข้อที่เป็นซิกเนเจอร์ของการเลี้ยงลูกแบบซาเทียร์
  • การสื่อสารที่ชัดเจน จริงใจ เปิดเผยและตรงไปตรงมา
การเลี้ยงลูกแบบซาเทียร์จะให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่โปร่งใส เธอเชื่อว่าพ่อแม่ควรพูดคุยกับลูกด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายและมีความจริงใจ และหลีกเลี่ยงการใช้คำพูดที่เสียดสีหรือประชดประชัน ซึ่งจะทำให้ลูกกล้าที่จะพูดถึงความต้องการและความรู้สึกของตัวเองอย่างเปิดเผย
  • ความเข้าใจในตัวตนของแต่ละคน
ทฤษฎีซาเทียร์จะเน้นว่าพ่อแม่ผู้ปกครองควรเข้าใจว่าสมาชิกในครอบครัวแต่ละคนมีเอกลักษณ์และความต้องการที่ต่างกัน นั่นรวมถึงลูกด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญคือพ่อแม่ผู้ปกครองควรต้องเคารพในตัวตนของลูกและให้พื้นที่เขาในการแสดงออกอย่างอิสระ
  • การสร้างความภาคภูมิใจในตัวเอง (Self-Esteem)
การเสริมความมั่นใจและความภูมิใจในตัวเองให้กับลูก จะทำให้ลูกเป็นเด็กที่มีจิตใจเข้มแข็ง สิ่งที่พ่อแม่ควรทำคือ ชื่นชมทุกครั้งที่ลูกทำดี และหากลูกทำพลาด ก็ควรเลือกที่จะให้กำลังใจมากกว่าที่จะดุด่าหรือตี
  • การยอมรับและการให้อภัย
อย่างที่บอกว่าการเลี้ยงลูกแบบซาเทียร์นั้นจะมุ่งเน้นให้ครอบครัวยอมรับข้อผิดพลาดและให้อภัยซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นพ่อแม่ควรที่จะสร้างบรรยากาศหรือสภาพแวดล้อมที่ทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัยและกล้าที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ เพื่อพัฒนาตัวเอง ส่งเสริมให้ลูกแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นโดยไม่ต้องกลัวการถูกตำหนิ

มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน European Journal of Multidisciplinary Studies พบว่า โมเดลการบำบัดครอบครัวของซาเทียร์ช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเองและพัฒนาความกลมเกลียวในครอบครัว หรือแม้แต่การศึกษาในประเทศไทยเองของสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย ที่เปิดเผยถึงผลของการให้คำปรึกษาแนวซาเทียร์แบบกลุ่มก็ยังพบว่าช่วยลดความเครียดและภาระการดูแลในผู้ดูแลเด็กที่มีเชาวน์ปัญญาบกพร่อง

สิ่งที่ลูกจะได้จากการเลี้ยงดูแบบ Satir’s Model
ตามทฤษฎีแล้ว หากคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงลูกแบบซาเทียร์ สิ่งที่เกิดประโยชน์กับลูกก็คือ ลูกจะมีความมั่นใจในตัวเองและสามารถจัดการอารมณ์ได้ดี ลดความขัดแย้งและตึงเครียดในครอบครัว ทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวดีขึ้น หรือแน่นแฟ้นมากขึ้น และเด็กจะเติบโตมากลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขและสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้ในสังคม 

เอาล่ะ! และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียในการเลี้ยงลูก คุณพ่อคุณแม่บ้านไหนลองเอาไปปรับใช้แล้ว ก็อย่าลืมมาแชร์กันด้วยนะว่าเวิร์คมั้ย หรือถ้าใครมีเทคนิคอื่นๆ ในการเลี้ยงลูก ก็สามารถแชร์กันมาได้เลย

 
-->