คุณเป็น “Sandwich Generation” เดอะแบกของทุกเจน จนลืมดูแลตัวเองอยู่รึเปล่า?
เมื่อเราเข้าสู่วัยที่ต้องรับผิดชอบตัวเอง แต่ไม่ได้มีแค่ตัวเองที่ต้องดูแล นอกจากเรื่องงานที่ต้องรับผิดชอบในแต่ละวัน ยังมีทั้งลูกเล็กและพ่อแม่ที่เริ่มแก่ตัวขึ้นที่เราต้องดูแล และการที่ผู้คนมีอายุยืนยาวขึ้นกว่าที่เคยเราอาจต้องดูแลไปถึงคุณปู่ ย่า ตา ยายเลยอีกด้วย ซึ่งสิ่งนี้อาจสร้างแรงกดดันใหม่ให้กับผู้ที่ต้องรับผิดชอบในการดูแลหลายรุ่น ง่ายๆ Sandwich generation คือการที่เราต้องดูแลสมาชิกในครอบครัวตั้งแต่ 2 เจนขึ้นไปความกดดันของกลุ่ม Sandwich generation
จากการวิจัยของ Pew Research Center พบว่า 1 ใน 7 ขอชาวอเมริกันที่มีอายุระหว่าง 40 – 60 ปี ต้องให้ความช่วยเหลือด้านการเงินทั้งกับพ่อแม่และลูก ๆ ในขณะที่ยังต้องรับแรงกดดันในหน้าที่การงาน ปัญหาส่วนตัว รวมถึงการเก็บออมไว้สำหรับตัวเองในวัยเกษียณ พวกเขาจึงต้องเผชิญทั้งความเครียดด้านการเงินและด้านสุขภาพจิต ในบางกรณี ประชากรกลุ่มนี้ถึงกับต้องยืดเวลาเกษียณของตัวเองออกไปเพราะปัญหาด้านการเงิน และในบางรายอาจต้องยืดระยะเวลาการเป็น sandwich generation เพราะยังต้องดูแลหลานต่ออีกด้วย
ส่วนใหญ่คนที่เป็นผู้หญิง มีความเป็นแม่จะมีความเครียดและกดดันมากกว่าคนอื่นๆ
สมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (American Psychological Association) พบว่า โดยส่วนใหญ่ 83% ของผู้หญิงที่เป็นแม่ในวัย 35 – 54 จะมีความเครียดมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ โดยระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรส ลูก ๆ และครอบครัวเป็นสาเหตุของความเครียด แต่อีกส่วนก็ระบุว่า สิ่งที่ทำให้พวกเธอเครียดคือการไม่มีเวลาดูแลตัวเอง
แรงกดดันต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามาสู่คนเจนนี้
นอกจากที่ต้องดูแลครอบครัวแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้ยังมีความรู้สึกผิดต่อตัวเอง ทั้งเรื่องปัญหาการเงิน การงาน เพราะพยายามหาความ Balance ของทั้งเรื่องงานและครอบครัว เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้มีปัญหาสุขภาพจิต
คน Sandwich Generation มักมองข้ามการดูแลตัวเอง
เมื่อต้องดูแลคนอื่นๆ จนลืมดูแลตัวเองจนเคยชิน คนเจนนี้รู้ตัวว่าพวกเขากำลังประสบปัญหาไม่ว่าจะเป็นการเงิน สุขภาพกาย หรือสุขภาพจิต การดูแลตัวเองก่อนคนอื่นก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกผิดเกินกว่าจะหันมาดูแลตัวเองได้ แต่การดูแลตัวเองนั้นไม่ได้ทำไปเพื่อตัวเองอย่างเดียว แต่ยังส่งผลดีไปถึงคนที่พวกเขารักและคนที่พวกเขากำลังดูแลอยู่ด้วย การยอมรับถึงความรู้สึกของตัวเอง การพูดคุยกับคนที่คุณรัก และการจำไว้ว่าต้องดูแลตัวเองด้วย เป็นขั้นตอนที่สำคัญ การลองทำสิ่งเหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่คุ้มค่า
- Explore your feelings ลองสำรวจความรู้สึก: ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกเชิงบวกหรือเชิงลบ การรับรู้ ยอมรับ และยอมรับความรู้สึกของตัวเองสามารถช่วยได้หลายด้าน เช่น การลดความโกรธและความรู้สึกขุ่นเคืองที่เพิ่มขึ้น การช่วยให้คุณเข้าใจความสัมพันธ์ของคุณได้ดีขึ้นและสื่อสารความต้องการของคุณ รวมถึงการรับรู้พื้นที่ที่อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลง การปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงความรู้สึกของตัวเองอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ ทำให้เกิดความยากลำบากในการแสดงออก และอาจนำไปสู่ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า
- Acknowledge the benefits การยอมรับประโยชน์: เป็นส่วนหนึ่งของเจนเนอเรชันแซนด์วิชก็มีข้อดีเช่นกัน ตัวอย่างเช่น หากคุณพบว่าตัวเองอยู่กับลูกโตหรือพ่อแม่ที่สูงวัย คุณอาจรู้สึกถึงความรู้สึกของชุมชนและความใกล้ชิดมากขึ้น เพราะคุณสามารถพบกับครอบครัวใหญ่ได้บ่อยขึ้น สิ่งนี้ยังเปิดโอกาสให้คุณทำกิจกรรมร่วมกันที่อาจไม่ได้ทำหากไม่มีเวลา เช่น การทำอาหารหรือการทำสวน ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สามารถช่วยลดความเครียด ปรับอารมณ์ และให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์มากกว่าความสมบูรณ์แบบหากคุณพบว่าตัวเองต้องดูแลหลานมากขึ้น สิ่งนี้ยังเปิดโอกาสให้สร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้นซึ่งอาจไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่ได้มีเวลาร่วมกันมากขึ้น
- Recognise the challenges รับรู้ถึงความท้าทาย: เช่นเดียวกับที่มีข้อดี ก็มีความท้าทายในเรื่องการดูแลหรือการอยู่กับคนหลายเจนอีกด้วย คุณอาจรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่เวลาส่วนตัว พื้นที่ และความเป็นส่วนตัวของคุณอาจได้รับผลกระทบ การยอมรับความกังวลเหล่านี้และพยายามตั้ง (และรักษา) ขอบเขตที่ดีจะช่วยปกป้องสุขภาพกายและใจของคุณอีกด้วย
- Take time for yourself ให้เวลาตัวเอง: เราอาจเคยได้ยินที่คนพูดกันว่า "คุณไม่สามารถเทน้ำจากถ้วยที่ว่างเปล่าได้" ซึ่งมันจริงเสมอเมื่อคุณพยายามดูแลผู้อื่น การหาความสุขและการให้เวลาทำกับตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงความเครียดที่เพิ่มขึ้น บางครั้งถ้ามัวแคร์ความรู้สึกคนอื่นจนรู้สึกอึดอัด ในที่สุดเราก็อาจเกิดอาการหมดไฟ การดูแลตัวเองสามารถมาในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่การใช้เวลาคนเดียวไปจนถึงการตั้งขอบเขต สิ่งสำคัญคือต้องหาวิธีที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
ก่อนจะดูแลคนอื่น อย่าลืมดูแลตัวเอง เพราะถ้าเรายังละเลยตัวเองอาจทำให้ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจและร่างกายได้