Morning Routine สไตล์คนขี้เกียจ เปลี่ยนชีวิตได้ แม้ไม่ต้องตื่นตี 5
เคยรู้สึกไหมว่าการต้องตื่นเช้าตอนตี 5 เพื่อเริ่มต้นวันใหม่แบบ Productive มันช่างไม่เข้ากับตัวเราเลย? หากคุณเป็นคนที่ชอบนอนดึก หรือแค่ขี้เกียจเกินไปที่จะตื่นแต่เช้า ขอแสดงความยินดีด้วย! เพราะคุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนนิสัยตัวเองจากหลังมือให้เป็นหน้ามือขนาดนั้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตื่นเช้าเสมอไป แต่จะขึ้นอยู่กับอะไร เราไปหาคำตอบกัน!
ไม่ต้องตื่นตี 5…ชีวิตก็เปลี่ยนได้!
หากคุณสะดวกที่จะตื่นสาย เช่น เวลา 10 โมง คุณก็สามารถมี Morning Routine สไตล์คนขี้เกียจที่ช่วยให้ชีวิต Productive ขึ้นได้ แต่ต้องเริ่มต้นจากการจัดลำดับสิ่งที่สำคัญ (Priority) และเหมาะสมกับตัวเองในช่วงเช้า เช่น
- ตื่นนอนแบบไม่ต้องเร่งรีบใช้เวลา 5-10 นาที หลังตื่นนอนในการยืดเส้นยืดสาย หรือสูดหายใจลึกๆ เพื่อปลุกตัวเองให้พร้อมเริ่มต้นวันใหม่อย่างสบายใจ ไม่ต้องรีบกระโดดออกจากเตียงทันที
- เติมพลังด้วยอาหารเช้า หรือ Brunch ที่ง่ายและดีต่อสุขภาพ แม้จะตื่นสายก็อย่าละเลยมื้อแรกของวันเด็ดขาด! แต่ควรเลือกทานอาหารที่ให้พลังงานและอิ่มท้อง เช่น ขนมปังโฮลวีท ไข่ต้ม และผลไม้ หรือทำสมูททีง่ายๆ ที่คุณชอบ เพราะการเติมพลังงานในตอนเช้าจะช่วยให้สมองปลอดโปร่งและพร้อมช่วยคุณลุยงานได้ตลอดทั้งวัน
- ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ในแต่ละวันก่อนเริ่มงาน ลองใช้เวลา 5 นาที ในการจดลิสต์เป้าหมายที่ต้องการทำให้สำเร็จในวันนั้นๆ แต่ไม่ต้องพยายามตั้งเป้าหมายเยอะเกินไป เอาแค่ 2-3 ข้อที่สำคัญที่สุด และมีผลต่อเป้าหมายใหญ่ในชีวิต เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
- ลงมือทำทันทีความลับของมนุษย์สาย Productive คือ "คิดแล้วทำเลย" ไม่ต้องรอจังหวะ หรือคิดเยอะจนเสียเวลา หากคุณมีงานค้างหรือเรื่องที่ต้องทำ ลองเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ที่ง่ายที่สุดก่อน เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้ตัวเองอยากทำต่อเนื่อง ทีนี้พอไฟเริ่มจุดติดแล้ว ให้รีบโหมใส่ถ่านและพัดไฟให้ลุกเยอะๆ ไปเลย
การจัดระเบียบวินัยในชีวิต คือ กุญแจสำคัญ
ไม่ว่าเราจะตื่นสายหรือตื่นเช้า นั่นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะสิ่งสำคัญจริงๆ เลยก็คือ ‘การมีวินัยในตัวเอง’ คุณต้องชัดเจนกับตัวเองว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร และสิ่งที่คุณทำในแต่ละวันส่งเสริมเป้าหมายนั้นหรือไม่ เช่น
- หากคุณต้องการพัฒนาทักษะการทำงาน ให้จัดเวลาอ่านหนังสือหรือเรียนคอร์สออนไลน์วันละ 30 นาที
- หากคุณต้องการมีสุขภาพดี ให้ตั้งเวลาออกกำลังกาย แม้เพียง 15-20 นาที หลังตื่นนอน เท่านี้ก็เป็นสิ่งที่เพียงพอแล้ว
แน่นอนว่า การตั้งเป้าหมายแต่ละครั้ง ต้องมี Deadline ระยะเวลากำหนดด้วย หลายคนชอบตกม้าตาย เพราะลืมตั้งช่วงเวลาในการวัดประสิทธิผล ทำให้เป้าหมายล่องลอยและหายลับเข้าไปในกลีบเมฆ ลองสังเกตง่ายๆ จากไอเดีย New Year's Resolutions ของแต่ละคนช่วงต้นปีสิ! รับรองว่าเห็นภาพชัดแจ๋วแน่นอน
เคล็ดลับ Productive ฉบับมนุษย์สายขี้เกียจ
1. ใช้แอปพลิเคชันช่วยเตือนตั้งแจ้งเตือนในโทรศัพท์ เพื่อเตือนตัวเองให้ทำสิ่งสำคัญ เช่น การดื่มน้ำ การพักสายตา หรือเริ่มต้นงานใน 1 วัน
2. ลองใช้เทคนิค Pomodoro มาจัดการเวลาและทำงานต่างๆ ให้สำเร็จ ด้วยเทคนิค ‘Pomodoro’ ที่แบ่งเวลาทำงานออกเป็น 25 นาที และพักอีก 5 นาที ซึ่งวิธีนี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้คนขี้เกียจสามารถจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสุดๆ ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองทำดูสิ!
3. พักผ่อนให้เพียงพอแม้คุณจะนอนตื่นสาย แต่ควรนอนให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูพลังงานและหยุดพักให้ร่างกายได้ซ่อมแซม พร้อมลุยในวันถัดไป
4. ให้รางวัลตัวเองเมื่อเราตั้งใจทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จ อย่าลืมให้รางวัลตัวเองเล็กๆ น้อยๆ โดยไม่ต้องรู้สึกผิด เช่น การดูซีรีส์ที่ชอบ หรือสั่งขนมอร่อยๆ มากิน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้มีระเบียบวินัยต่อไป
5. ไม่ฝืนตัวเองมากจนเกินไปสิ่งสำคัญ คือ ต้องไม่บังคับตัวเองมากจนเกินไป เพราะการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนเกิดจากการค่อยๆ ปรับตัว โดยเริ่มจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และค่อยๆ พัฒนาในขั้นต่อไป อย่ากังวลหากวันไหนคุณทำไม่ได้ตามแผน จงจำไว้ว่า ความสม่ำเสมอสำคัญกว่าความสมบูรณ์แบบ
2. ลองใช้เทคนิค Pomodoro มาจัดการเวลาและทำงานต่างๆ ให้สำเร็จ ด้วยเทคนิค ‘Pomodoro’ ที่แบ่งเวลาทำงานออกเป็น 25 นาที และพักอีก 5 นาที ซึ่งวิธีนี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้คนขี้เกียจสามารถจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสุดๆ ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองทำดูสิ!
3. พักผ่อนให้เพียงพอแม้คุณจะนอนตื่นสาย แต่ควรนอนให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูพลังงานและหยุดพักให้ร่างกายได้ซ่อมแซม พร้อมลุยในวันถัดไป
4. ให้รางวัลตัวเองเมื่อเราตั้งใจทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จ อย่าลืมให้รางวัลตัวเองเล็กๆ น้อยๆ โดยไม่ต้องรู้สึกผิด เช่น การดูซีรีส์ที่ชอบ หรือสั่งขนมอร่อยๆ มากิน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้มีระเบียบวินัยต่อไป
5. ไม่ฝืนตัวเองมากจนเกินไปสิ่งสำคัญ คือ ต้องไม่บังคับตัวเองมากจนเกินไป เพราะการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนเกิดจากการค่อยๆ ปรับตัว โดยเริ่มจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และค่อยๆ พัฒนาในขั้นต่อไป อย่ากังวลหากวันไหนคุณทำไม่ได้ตามแผน จงจำไว้ว่า ความสม่ำเสมอสำคัญกว่าความสมบูรณ์แบบ
Morning Routine คือ การค้นหาความชอบที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
Morning Routine ที่ดีไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่เป็นการค้นหาวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวคุณเอง จงกล้าลองทดลองสิ่งใหม่ๆ ปรับเปลี่ยน และค้นหาสมดุลที่ทำให้คุณรู้สึกมีพลัง มีความสุข และพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายของแต่ละวัน
ท้ายที่สุดแล้ว Morning Routine สไตล์คนขี้เกียจ ไม่จำเป็นต้องตื่นเช้าตี 5 เพียงแค่คุณรู้จักปรับตัวเองให้เข้ากับจังหวะชีวิต และมีวินัยในตัวเองมากพอ คุณก็จะสามารถเปลี่ยนชีวิตให้ Productive และประสบความสำเร็จในแบบของคุณเองได้ จงจำไว้ว่า ชีวิตที่ดีเริ่มต้นจากการลงมือทำ ไม่ใช่แค่การคิดว่าจะทำ!