สัญญาณเตือน ที่กำลังบอกว่าจะเป็นไมเกรน
เคยเป็นกันมั้ย? โอ้ยยหัวจะปวด เดี๋ยวก็เห็นแสงแปลกๆ วิ้งๆ การมองเห็นดูผิดปกติ อาจเป็นเส้นซิกแซกคล้ายฟันเลื่อย หรือภาพมืดเป็นบางส่วน เบลอๆ หลับตาแล้วอาการพวกนี้ก็ยังไม่ยอมหายไป.jpg)
“ออร่า” สัญญาณเตือนก่อนเกิดไมเกรน
โดยปกติแล้ว ออร่ามักเกิดขึ้นก่อนอาการปวดศีรษะ ซึ่งอาจมีความรุนแรงมากหรือน้อย ในบางคนอาจไม่มีอาการปวดศีรษะเลย ออร่ามักเกิดขึ้นทีละน้อยภายในเวลาประมาณ 5 นาที และอยู่นานถึง 1 ชั่วโมงสำหรับบางคน โดยทั่วไปแล้วออร่ามักเกี่ยวข้องกับการมองเห็น แต่บางครั้งอาจส่งผลต่อการพูด บางคนอาจรู้สึกมึนงง สับสน หรือถึงขั้นเป็นลม แม้ว่าจะพบได้น้อยก็ตาม
อาการแบบไหนถึงเรียกว่า ออร่าไมเกรน
- การมองเห็นจุดหรือเส้นสีต่าง ๆ
- การมองเห็นแสงวาบหรือแสงกะพริบ
- การมองเห็นลวดลายเป็นเส้นซิกแซก
- การสูญเสียการมองเห็นชั่วคราว

อาการออร่าอื่น ๆ อาจรวมถึง:
- อาการชาหรือรู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มตามร่างกายบางส่วน
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- เวียนศีรษะหรือรู้สึกเสียการทรงตัว
แล้วออร่าไมเกรน เกิดจากอะไร?
นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาและพบว่า ออร่าอาจเกิดจากคลื่นของการทำงานของสมองที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างช้า ๆ ซึ่งเรียกว่า ‘cortical spreading depression’ กระบวนการนี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชั่วคราวของสารเคมี เส้นประสาท และการไหลเวียนของเลือดในสมอง ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของสมองและอาจเกี่ยวข้องกับอาการปวด
ปัจจัยที่อาจกระตุ้นอาการไมเกรน
อาการไมเกรนมักถูกกระตุ้นจากปัจจัยต่าง ๆ โดยปัจจัยที่พบได้บ่อย ได้แก่
- แสงสว่างจ้า แสงไฟกระพริบ หรือแสงแดดแรง
- อากาศร้อนจัด หรืออากาศร้อนชื้น เช่น ช่วงเวลาก่อนฝนตก
- ออฟฟิศซินโดรม และภาวะกล้ามเนื้อตึงตัว การนั่งหน้าคอมพิวเตอร์หรือใช้มือถือนาน ๆ โดยเฉพาะในท่าก้ม อาจทำให้กล้ามเนื้อเกิดพังผืดหรือมีอาการตึงบริเวณคอ ซึ่งสามารถกระตุ้นให้เกิดไมเกรน ปวดร้าวรอบดวงตา คลื่นไส้ และเวียนศีรษะได้
- อาหารที่อาจกระตุ้นไมเกรน เช่น ชีส แอลกอฮอล์ ผงชูรส อาหารที่มีไนไตรท์ (ไส้กรอก แฮม เบคอน) และน้ำตาลเทียม รวมถึงคาเฟอีน ซึ่งอาจเป็นตัวกระตุ้นไมเกรนในบางคน หากดื่มกาแฟแล้วมีอาการไมเกรน ควรลดปริมาณลง อย่างไรก็ตาม มีเพียงประมาณ 20% ของผู้ป่วยเท่านั้นที่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าอาหารเป็นสาเหตุของไมเกรน
- ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ และการอดนอน
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน ไมเกรนมักถูกกระตุ้นเมื่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงอย่างรวดเร็ว เช่น ในช่วงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน ซึ่งเรียกว่า menstrual migraine
- ช่วงหลังคลอดบุตร ระหว่างตั้งครรภ์ อาการไมเกรนมักลดลงเนื่องจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่หลังคลอด ระดับฮอร์โมนจะลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจกระตุ้นให้ไมเกรนกำเริบ
เนื่องจากปัจจัยกระตุ้นไมเกรนอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ผู้ที่มีอาการบ่อยควรสังเกตตัวเองและหลีกเลี่ยงสิ่งเร้าที่อาจทำให้เกิดไมเกรน
HOW TO TREAT ไมเกรน?
ตัวเลือกของการรักษาขึ้นอยู่กับอาการความเจ็บปวด หรือความถี่ที่เกิดขึ้น รวมถึงปัจจัยอื่นๆ หรือแม้กระทั่งข้อระมัดระวังในเรื่องการใช้ยาเมื่อมีโรคประจำตัว ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์
การรักษาด้วยยาอาจช่วยบรรเทาอาการเมื่อไมเกรนกำเริบ แต่ควรระวังการใช้ยารักษาไมเกรนบ่อยเกินไปในแต่ละเดือน เพราะอาจนำไปสู่ อาการปวดศีรษะจากการใช้ยาเกินขนาด (medication overuse headache) ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดศีรษะทุกวันร่วมกับอาการไมเกรน
หลายคนพบว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสามารถช่วยลดความถี่ของไมเกรนได้ เช่น
- รักษาตารางเวลาการนอนให้สม่ำเสมอ
- รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น แอลกอฮอล์ หรือการอดนอน
- หากสามารถระบุปัจจัยกระตุ้นที่ส่งผลให้เกิดไมเกรนได้ อาจช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความถี่ของอาการได้
ใครมีสัญญาณออร่าไมเกรนบ่อยๆ ลองปรับพฤติกรรมดูควบคู่กับการรักษาอื่นๆ ที่สำคัญลองปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนอย่าเพิ่งไปซื้อยาแรงๆ มากินเอง เพราะแต่ละคนสภาพร่างกายอาจไม่เหมือนกัน ทั้งโรคประจำตัวหรือการแพ้ยา รักษแบบปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า