Hydroplaning อาการเหินน้ำ ที่คนขับรถหน้าฝนต้องระวัง


ช่วงนี้ฝนตกเกือบทุกวัน คงเข้าหน้าฝนอย่างจริงจังแล้วล่ะซิ และก็เป็นอีกหนึ่งซีซั่นที่คนใช้รถใช้ถนนอย่างเราต้องอัพเลเวลเฝ้าระวังเรื่องการขับรถกันเป็นพิเศษ เพราะไม่ใช่แค่ฝนที่ตกลงมาจะทำให้บดบังทัศนวิสัย แต่น้ำที่นองขังอยู่ที่พื้นถนนก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ และมีความเสี่ยงต่ออาการที่เรียกว่า   “Hydroplaning หรือที่เรียกกันว่าอาการลอยเหินบนน้ำ



#ไฮโดรเพลน ชื่อที่มากับหน้าฝน
อาการเหินน้ำ หรือ Hydroplaning เป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อต้องขับรถผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขังด้วยความเร็ว (เกิน 80 กม./ชม.) ด้วยความเร็วที่บวกกับสภาพน้ำขัง จะทำให้ผิวน้ำนั้นแข็งเหมือนหิน เมื่อล้อรถแล่นผ่านจะทำให้เกิดอาการเหินน้ำ หรือ ไฮโดรเพลน ได้นั่นเอง ซึ่งเมื่อเกิดอาการแล้ว ส่วนมากมักไม่สามารถควบคุมหรือบังคับทิศทางรถได้ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างมาก

#เมื่อรถเหินน้ำ ต้องตั้งสติ! 
อย่างแรกที่ต้องทำเลยเมื่อรถเกิดอาการเหินน้ำ คือ การตั้งสติ หลังจากนั้นค่อยๆ คิดหาทางแก้ ซึ่งเราได้ลองลิสต์ตัวอย่างบางสถานการณ์มาให้ดู จะได้เตรียมตัวเตรียมใจกันไว้ก่อน พร้อมแล้วมาเริ่มกัน!

          สถานการณ์ที่ 1: รถเหินน้ำขณะที่ขับรถด้วยความเร็วต่ำ
ถ้าคุณมีอาการรถเหินน้ำขณะที่ขับรถด้วยความเร็วต่ำ อาจทำให้รถอาจสูญเสียการควบคุมเล็กน้อย วิธีแก้คือค่อยๆ ประคองรถไป โดยไม่เหยียบเบรค หรือหมุนพวกมาลัยรถเพิ่ม จะเป็นการช่วยควบคุมรถได้ง่ายขึ้น 

          สถานการณ์ที่ 2: รถเหินน้ำขณะที่ขับรถด้วยความเร็วสูง
ถ้าคุณมีอาการรถเหินน้ำขณะที่ขับรถด้วยความเร็วสูง มีโอกาสสูงมากที่รถจะหมุนติ้ว วิธีที่ดีที่สุดคือต้องตั้งสติ ลดความเร็ว แต่ต้องไม่เหยียบเบรค


#นี่ล่ะ! สาเหตุของการเหินน้ำ ขณะขับด้วยความเร็วสูง
อาการเหินน้ำขณะที่ความเร็วของรถสูงนั้นเกิดได้จาก 3 สาเหตุ

          1.เกิดจากที่ล้อหน้า
กรณีนี้มีโอกาสที่รถจะหมุนมาก ผู้ขับรถควรปล่อยรถให้ไหลไป ไม่ควรฝืนรถ เพราะอาจทำให้รถพลิกคว่ำจากความเร็วได้ ซึ่งสาเหตุนี้อาจมีโอกาสที่รถยนต์จะตกข้างทาง พาดกับต้นไม้ หรือเสาไฟฟ้าค่อนข้างสูงได้ ดังนั้นจึงไม่ควรขับรถเร็วขณะที่ฝนตก เพราะจะทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้ยาก

          2.เกิดจากล้อหลัง
หากล้อหลังเกิดการเหินน้ำ แน่นอนว่าการรักษาการควบคุมรถจะง่ายกว่า เพราะอาการหลังรถเหินอาจจะเกิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หรืออาจจะไม่เกิดเลยก็ได้

          3.เกิดเหตุทั้ง 4 ล้อ
ในกรณีนี้รถยนต์จะไม่หมุน แต่จะมุ่งตรงไปด้านหน้า แม้ว่าคุณจะหักล้อหมุน รถก็ยังตรงไปด้านหน้าอยู่ดี ดังนั้นคุณยังมีโอกาสควบคุมเล็กน้อย โดยพยายามลดความเร็ว และไม่เหยียบคันเร่งเพิ่ม เพื่อเป็นการรักษาทิศทางของรถยนต์ไว้

#จำไว้! ยิ่งเหยียบเบรค ยิ่งเหินน้ำ
สิ่งสำคัญที่ควรจำให้ขึ้นใจคือ ไม่ควรเหยียบเบรค เพราะผลจากการทดสอบพบว่าส่วนใหญ่คนจะเหยียบเบรคเพราะอาการตกใจ ซึ่งการเหยียบเบรคแบบกระทันหัน จะยิ่งเป็นการทำให้เกิดอาการเหินน้ำมากขึ้น เพราะยางรถยนต์หยุดรีดน้ำ ทำให้โอกาสเกิดสูญเสียการควบคุมรถยนต์มากขึ้นไปอีก 

เมื่อฝนตกควรขับรถยนต์ด้วยความเร็วที่ไม่เกิน 90 กม./ชม. และอย่าเร่งหรือลดความเร็วแบบฉับพลัน เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้! รู้อย่างนี้แล้วหน้าฝนก็ต้องลดความเร็วลง ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง มีสติก่อนสตาร์ทุกครั้ง

 
-->