Hemp Milk น้ำนมกัญชง...ทางเลือกใหม่ของสายเฮลธ์ตี้

 

ถ้าพูดถึงกัญชาเชื่อว่าใครๆ ก็รู้จัก แต่ถ้าพูดถึง “กัญชง” ล่ะ? คอนเฟิร์มเลยว่าถ้าไม่ตอบ I don’t know ก็คงตอบอย่างมั่นอกมั่นใจว่าเป็นอีกชื่อเรียกของกัญชาอย่างแน่นอน อ่ะ! งั้นมาดูกันว่าที่คุณกำลังเข้าใจอยู่นั้นถูกหรือเปล่า แล้วถ้าใช่...ทำไมถึงคู่ควรกับมนุษย์สายเฮลธ์ตี้อย่างเรากันนะ

Hemp หรือ กัญชง คืออะไร ทำไมชื่อคล้ายกับกัญชา?
แค่เห็นชื่อ “กัญชง” หลายคนก็เอะใจว่าทำไมชื่อคล้ายกับกัญชา หรือบางทีอาจจะฟังธงไปแล้วว่าเป็นอย่างเดียวกันกัญชาแน่นอน! แต่เราอยากจะบอกว่านี่เป็นเพียงพืชสองชนิดในตระกูลเดียวกัน ที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกัน...แต่ไม่ใช่ชนิดเดียวกัน  เพราะไม่มีสารเสพติดที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทเหมือนกับกัญชา โดยในหลายๆ ประเทศมีการควบคุมการเพาะปลูกให้มีสาร THC ที่เป็นตัวก่อให้เกิดอาการหลอนนั้นไม่เกิน 0.3% ยกเว้นในบางประเทศรวมถึงประเทศไทยที่มีการควบคุมค่า THC ไม่เกิน 1.0% (อยากรู้จักกัญชงและกัญชา สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่  https://bit.ly/30CIfLK )

ไม่เพียงแค่กัญชงจะมีสาร THC ที่ต่ำมากจนไม่นับว่าเป็นพืชสารเสพติด แต่ในเมล็ดกัญชงยังอุดมไปด้วยสารอาหารดีๆ อีกมากมาย เช่น โอเมก้า 3 โอเมก้า 6 และโอเมก้า 9 ทำให้มีการนำมาสกัดเอาน้ำมันเพื่อใช้ในการปรุงอาหาร รวมไปถึงปริมาณโปรตีนที่สูงมาก จึงมีการนำเมล็ดกัญชงมาทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เนย ชีส เต้าหู้ หรือ นม(กัญชง) 

คุณค่าทางโภชนาการที่ว่าดี...ดียังไงบ้าง
อยากดูแลสุขภาพไม่ใช่แค่ดื่มนมก็เหมาว่าเฮลธ์ตี้นะ เพราะนมแต่ละประเภทก็ให้คุณค่าทางโภชนาการแตกต่างกันไป อย่างน้ำนมกัญชง ก็เป็นเครื่องดื่มน้ำนมจากพืชที่ให้โปรตีนและไขมันดีสูงกว่าเครื่องดื่มยอดฮิต อย่าง น้ำนมข้าวหรือน้ำนมอัลมอนด์ ในขณะที่แคลอรี่กลับน้อยกว่านมวัวซะอีก

หรือถ้าจะให้ประเมินเป็นตัวเลขแบบเห็นกันชัดๆ www.medicalnewstoday.com ได้บอกไว้ว่า ในน้ำนมกัญชง 240 ml. จะให้ โปรตีน 3 กรัม ไขมันรวม 4.51 กรัม และแคลเซียม 283 มิลลิกรัม ส่วนปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับเพียงแค่ 60 และที่สำคัญ! ค่าปริมาณน้ำตาลยังเป็น 0 อีกด้วยนะ (กรณีเป็นนมสดปราศจากการเติมน้ำตาลลงไป)

บำรุงผิวให้ชุ่มฉ่ำ น้ำนมกัญชงก็ทำได้ดีนะ รู้ยัง?
ในกัญชงจะมีกรดไขมันโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 ในอัตราส่วนที่เหมาะสม คืออยู่ในระหว่าง 2:1 และ 3:1 ซึ่งการที่ร่างกายได้รับปริมาณโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 ในระดับที่สมดุลนั้น จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันบริเวณผิวหนังทำงานได้ดีขึ้น ช่วยต่อต้านการอักเสบและริ้วรอยได้ 

โดยมีการศึกษาในผู้ที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบ (eczema) จำนวน 20 คน ในระยะเวลากว่า 4 สัปดาห์ พบว่า การกินน้ำมันกัญชง หรือ hemp oil ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ (30 ml.) ต่อวัน ช่วยลดอาการคันและผิวแห้งได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการวิเคราะห์จากหลายๆ งานวิจัย อาจมาจากการศึกษาหนึ่ง ที่ทดลองในผู้หญิงจำนวนกว่า 4,000 คน โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม พบว่ากลุ่มที่กินอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 6 สูงกว่านั้น จะมีโอกาสประสบปัญหาผิวแห้งน้อยกว่า

ไม่ใช่แค่ดีต่อผิว แต่ยังดีต่อ(หัว)ใจอีกด้วย
ไม่ใช่แค่กรดไขมันที่ดีต่อร่างกาย แต่ในกัญชงยังมีอาร์จินีน (arginine) กรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการเพื่อใช้ในการสร้างไนตริกออกไซด์ที่มีส่วนช่วยในการขยายหลอดเลือด ทำให้ออกซิเจนไหลเวียนได้ดีขึ้น...ดีต่อความดันโลหิต รวมทั้งการได้รับอาร์จินีนที่เพียงพอ อาจลดระดับของโปรตีน C-reactive protein (CRP) ซึ่งหากร่างกายมีมากก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจมากขึ้น

โดยมีการศึกษาในผู้ใหญ่กว่า 13,000 คน พบว่าผู้ที่เลือกกินอาหารที่มีอาร์จินีนสูง โอกาสที่ระดับ CRP จะสูงจนถึงขั้นอันตรายน้อยกว่า 30%

เพราะคุณประโยชน์เพียบ เลยกลายเป็นพืชเศรษฐกิจของในหลายประเทศ
กฎหมาย Farm Bill 2018 ได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) เป็นผู้ดูแลควบคุมการปลูก สกัด และการกระทำอื่นๆ ที่มาจากกัญชง พร้อมกับถอดกัญชงออกจากรายชื่อการเป็นสารที่อยู่ภายใต้การควบคุมการใช้ตามกฎหมาย และยังมีการจัดแสดงสินค้ากัญชงโดยเฉพาะ (NoCo Hemp Expo) ที่รัฐโคโลราโด โดยครั้งล่าสุดได้ถูกจัดขึ้นไปเมื่อต้นเดือน เม.ย. 2562 ที่ผ่านมา 

Photo Credit : www.cashinbis.com
 
แล้วกัญชงในประเทศไทยล่ะ? ถูกกฎหมายแค่ไหนกัน 
ในบ้านเรานั้น ผลิตภัณฑ์จากกัญชงอาจยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนั้น เพราะในการเพาะปลูกกัญชงในไทยถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีการควบคุมให้ปลูกได้ใน 6 จังหวัด 15 อำเภอ ทางภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่ทดลองเพาะปลูกของหน่วยราชการเท่านั้น

โดยผลิตภัณฑ์จากกัญชงจะเน้นหลักๆ ในเรื่องของการนำเส้นใยมาถักทอทำเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า หรือหมวก ซึ่งอาจเป็นเพราะนักวิจัยยังอยู่ในช่วงพัฒนาสายพันธุ์ของกัญชง จนกว่าจะได้ปริมาณของสารเสพติดไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด เพื่อป้องกันการนำกัญชงไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งไม่แน่ว่า...อนาคต “กัญชง” อาจถูกพัฒนาจนกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของไทยเราก็ได้ และด้วยคุณค่าทางโภชนาการ “น้ำนมกัญชง” ก็น่าจะกลายเป็นอีกทางเลือกให้กับคนที่รักการดื่มนม แต่อยากเลี่ยงนมถั่วเหลือง แลคโตส หรือกลูเตน ได้


อ่ะ! สำหรับใครที่เห็นสารอาหารชั้นเยี่ยมของน้ำนมกัญชงแล้วอยากลิ้มลองซักครั้ง ถ้าช่วงนี้มีแพลนจะบินข้ามทวีปไปเที่ยวต่างประเทศ อย่างเช่น อังกฤษ “น้ำนมกัญชง” ก็นับเป็นอีกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ได้รับความนิยมไม่น้อย ซึ่งไม่ใช่แค่ดื่มเป็นเครื่องดื่มน้ำนมธรรมดานะ แต่ยังถูกนำมาใช้แทนนมวัวในการทำเมนูสมูทตี้หรือกาแฟอีกด้วย

 
-->