Happy กว่าเงินเดือนขึ้น ก็คือคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำนี่แหละ

 
ได้ยินกันอยู่ตลอดว่าการออกกำลังกายเนี่ยมีประโยนช์ต่อร่างกาย และจิตใจ แต่ถ้าเราจะบอกว่ามีผลการวิจัยออกมายืนยัน นั่งยันเพิ่มเติมว่าจริงๆ แล้วการออกกำลังกายนั้นมีความสำคัญ และมีค่าต่อจิตใจของเรามากกว่าตัวเงินซะอีก เตรียมตัวลุกขึ้นมาออกกำลังกายรัวๆ กันได้เลย 



 
คอนเฟิร์ม!! คนที่ขยันออกกำลังกายเต็มไปด้วยความสุข 
มีผลการศึกษาล่าสุดของนักวิชาการมหาวิทยาลัยเยล และออกซ์ฟอร์ด ออกมาคอนเฟิร์มว่าใน 365 วันหรือ 1 ปีนั้น คนที่ออกแรง หรือชอบออกกำลังกายมีแนวโน้มว่าจะรู้สึกหดหู่ หรือเครียดจากปัญหาในชีวิตประจำวันราวๆ 35 วัน  ในขณะที่คนที่ไม่ชอบขยับตัว แล้วไม่ค่อยได้ออกกำลังกายกลับรู้สึกแย่บ่อย และกินเวลายาวนานกว่ากลุ่มคนแอ็กทีฟราวๆ18 - 53 วัน หรือมากกว่านั้น 
 
ยิ่ง Happy ... ยิ่งดีกับชีวิต
ยิ่งกว่านั้นแล้วนักวิจัยยังพบอีกว่า คนที่แอคทีฟ ไม่ชอบอยู่นิ่งนั้นอาจจะรู้สึกพอใจกับชีวิตพอๆ กันกับคนที่ไม่ออกกำลังกายจริง แต่สิ่งที่ต่างคือคนที่แอคทีฟมีแนวโน้มมีรายได้สูงถึงประมาณ 25,000 เหรียญต่อปีเลยทีเดียว  ซึ่งแปลว่าถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบขยับตัวอาจจะต้องหาเงินเพิ่มขึ้นกว่าปกติเพื่อที่จะให้ได้มีความสุขระดับเดียวกับคนที่เล่นกีฬา ที่เขาอาจจะมีรายได้น้อยกว่าด้วยซ้ำ และนอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตว่า กีฬาบางประเภทที่ต้องมีการพูดคุย หรือต้องเล่นร่วมกับผู้อื่นเป็นทีม ยิ่งส่งผลดีต่อสุขภาพจิตมากกว่ากีฬาที่เล่นคนเดียว 
 
แต่ทุกอย่าง...ต้องอยู่บนความพอดี
ไม่ใช่พอเราบอกว่าการออกกำลังกายแล้วทำให้มีความสุขก็เลยบ้าพลังออกแบบหักโหมทุกวัน วันละหลายชั่วโมงไปอีก  เพราะจากการศึกษา ระบุว่าการออกกำลังกาย 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละราวๆ 30-60 นาทีนั้นดีที่สุดต่อร่างกาย และยังพบอีกว่า สภาพจิตของกลุ่มคนที่ออกกำลังเกิน 3 ชั่วโมงต่อวันกลับไม่มีความสุขยิ่งกว่ากลุ่มคนที่ไม่ชอบออกกำลังกายเสียอีก 
 
เอาเป็นว่าครั้งหน้าถ้าจะต้องเสียเงินจ่ายค่าฟิตเนส หรือลงทุนซื้ออุปกรณ์การออกกำลังกายใหม่ๆ แล้วล่ะก็ให้คิดล่ะกันว่าเรากำลังลงทุนกับความสุขแบบระยะยาว แถมยังได้หุ่นสุดเฟิร์มให้คนอิจฉาเล่นมาเป็นของแถมไปอีก คิดแล้วยังไงๆ ก็คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มเนอะ 
 
 
-->