Great Transform!! ‘ดีเจภูมิ’ ผู้ชายที่ทำให้เราเชื่อ...เรื่องการเปลี่ยนแปลง

“หนุ่มปาร์ตี้” น่าจะเป็นคำที่ใครๆ นึกถึงเป็นคำแรก หากเอ่ยชื่อ ‘ดีเจภูมิ-ภูมิใจ ตั้งสง่า’ แต่ใครจะคิดล่ะ? ว่าในวันนี้เขากลายเป็นผู้ชายคนนึงที่ถูกมองว่าประสบความสำเร็จ และหลังจากที่เราได้พูดคุยกับเขาแล้ว ก็ยิ่งไม่น่าแปลกใจเลย...ที่ใครหลายๆ คนจะยกให้เขาคืออินสไปร์ในดวงใจ เพราะ Attitude ของเขาคนนี้ เรียกได้ว่าเจ๋งสุดๆ จนเราเองยังรู้สึกเหมือนได้เติมไฟให้กลับมามีพลังต่อสู้กับชีวิตอีกครั้งเลยล่ะ

จุดเริ่มต้นของ...การเปลี่ยน(รูปร่าง)ตัวเอง!
เราต้องยอมรับเลยว่า...น้อยคนนักที่จะรู้ว่าจริงๆ แล้ว ผู้ชายคนนี้ชื่นชอบการยกเวทและเป็นนักกีฬารักบี้มาตั้งแต่อายุ 14-15 ปี แต่จุดที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบจริงจัง เขาเล่าให้เราฟังว่าเป็นเพราะน้ำหนักที่ลดลงจากการอกหัก เลยคำถามขึ้นในใจว่าตัวเองจะ body transform ได้พีคขนาดไหน? และการตัดสินใจซื้อคอร์สออนไลน์กับโค้ชของอเมริกาของเขาในวันนั้นเอง “โปรแกรมการกิน” ที่เขาได้มาพร้อมกับโปรแกรมการออกกำลังกาย ทำให้เขามองเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเองทุกวัน จนเปลี่ยนความเชื่อเกี่ยวกับการดูแลตัวเองใหม่ว่า... “you can't out train a bad diet คุณไม่สามารถที่จะออกกำลังกายเพื่อทดแทนการกินไม่ดีได้” ก่อนที่ความเชื่อนั้นจะนำเขาไปสู่เส้นทางธุรกิจที่ใช่ อย่าง djpoommenu อาหารคลีน...ที่ผู้ชายคนนี้เชื่ออย่างหมดใจว่าจะช่วยให้คนอื่นเปลี่ยนรูปร่างได้ เหมือนอย่างที่เขา(เคย)เปลี่ยนมาแล้ว   
 
เพราะเชื่อในคำว่า “เปลี่ยน” ทำให้เขากลายเป็น...เขาในวันนี้
เรามักจะเคยได้ยินบ่อยๆ ว่าเวลาเปลี่ยน อะไรๆ ก็เปลี่ยน คุณล่ะ? เชื่อว่าคำๆ นี้มันจริงแค่ไหนกัน แต่สำหรับผู้ชายคนนี้แล้ว เขาเชื่อว่า “change คือสิ่งที่ดี” ไม่ว่าคุณจะอยากมีฐานะดีกว่านี้ หรือมีหน้าที่การงานที่ดีกว่านี้ คุณก็ต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิต เพราะ “สิ่งที่บ้าที่สุด ก็คือ การต้องการการเปลี่ยนแปลงแต่คุณยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม! เพราะฉะนั้น ถ้าคุณต้องการอะไรที่ไม่เคยได้มาก่อน คุณก็ต้องลองทำอะไรที่คุณไม่เคยทำมาก่อน” และแน่นอนว่าการเชื่อมั่นในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของเขาคนนี้ ทำให้เขาในวันนี้...เปลี่ยนไปจากเมื่อหลายปีก่อนมากจริงๆ

แต่...ยังมีอีกหลายๆ คนไม่กล้าเปลี่ยน เพราะกลัว “ความลำบาก”
เชื่อเถอะ! โลกนี้ใครจะอยากเผชิญกับชีวิตที่เต็มไปด้วยความยากลำบากกันล่ะ ในขณะที่ใครต่างพากันกลัวความลำบาก...แต่เขากลับทำให้เรามองเห็นอีกแง่มุมหนึ่ง แง่มุมของความลำบาก...ที่จะเป็นสะพานไปสู่ความสำเร็จ เพราะเขาบอกกับเราว่า “คนที่นั่งปั่นงานอยู่ที่บ้านขณะที่เพื่อนไปกินเหล้า เตรียม presentation สำหรับวันพรุ่งนี้ในขณะที่เพื่อนกำลังเที่ยวอยู่ คนพวกนี้คือคนที่ on the path to success คืออยู่บนเส้นทางของความสำเร็จ” นั่นทำให้เราได้รู้ว่า...คนที่เราบอกว่าน่าอิจฉาเพราะประสบความสำเร็จ จริงๆ แล้ว พวกเขาต่างก็เคยผ่านจุดของความลำบากกันมาก่อนทั้งนั้น
 
“รักในสิ่งที่ทำ” คุณจะได้พบกับความสำเร็จ
ทำในสิ่งที่รัก...ใครๆ ก็อยากเป็นแบบนั้น จริงมั้ย? แต่หากสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ ไม่ใช่สิ่งที่คุณรักจริงๆ ล่ะ ผู้ชายคนนี้ได้บอกกับเรามาว่า option ที่คุณจะทำได้ก็มีเพียงแค่ “เปลี่ยนงานที่ทำ...หรือไม่ก็เปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่องาน” แต่ถ้าคุณไม่เปลี่ยนงานและก็ไม่รู้สึกรักในงาน แน่นอนว่า “ความสำเร็จ” คงเกิดขึ้นได้ยาก เพราะการได้ทำในสิ่งที่รัก คุณจะทำมันได้เรื่อยๆ ซ้ำๆ ทำจนวันนึงคุณเก่ง คุณจะเป็น expert โดยที่ตลอดเส้นทางนั้น...ไม่ได้รู้สึกเลยว่าต้องฝืนใจ และเมื่อคุณเป็น Expert แล้ว ทั้งเงินทั้งโอกาสจะวิ่งเข้ามาหาคุณเอง


แต่หากวันนี้...คุณเริ่มรู้สึกท้อกับการก้าวเดินเพื่อไปสู่ความสำเร็จ ผู้ชายคนนี้ได้ฝากกำลังใจมาถึงทุกคนว่า “ขอแค่คุณเข้าใจในความลำบาก...ว่ามันกำลังจะส่งผลดีต่อตัวคุณ คุณก็จะมีกำลังใจในการสู้กับมันต่อไป และการเดินทางที่ลำบาก คนที่เข้มแข็งเท่านั้นที่จะไปต่อได้” ไม่ว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร เราอยากให้คุณนึกถึงคำพูดของเขาคนนี้ไว้เสมอว่า “Trust in your struggles จงเชื่อในความลำบาก”