Gen Y น้ำดี...ปราบผีการเงิน



เมื่อไม่นานมานี้ มีบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือ เครดิตบูโร พบว่า คน Gen Y (เกิดในปี 2523-2538 ซึ่งตอนนี้จะมีอายุในช่วง 23-38 ปี) 5.24 ล้านคน มีหนี้รวมกันสูงถึง 2.13 ล้านล้านบาท  และในจำนวนนี้ยังมีคนที่ไม่สามารถชำระหนี้ถึง 1.1 ล้านคน ถ้าคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์นี้ เรามี "ทางออก" มาบอกให้คุณรู้จัก "เงินของคุณ"
 
1.จับผีแยกร่าง
ผีที่มาหลอกให้คุณจ่าย จัดการได้ด้วยการทำบัญชี คุณต้องลงมือลิสต์คาถา เขียนสิ่งที่คุณต้องจ่ายทั้งเรื่องที่จำเป็นและเรื่องที่ผีกิเลสบอกให้จ่าย โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน
  • รายจ่ายประจำเดือน สารพัดเงินไหลออก ไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนหรือค่าเช่าห้อง ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่ากาแฟ (บางคนอาจมีค่าเหล้าค่าบุหรี่) ค่าตัดผม ค่าซักรีด ค่าของใช้ภายในบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าสังสรรค์ ค่ากตัญญู (ให้พ่อแม่และครอบครัว) ค่าทำบุญ-ภาษีสังคม และอื่นๆ ที่มีเพิ่มเติมเข้ามาเรื่อยๆ ให้บันทึกไว้ว่าน่าจะต้องมีรายจ่ายส่วนนี้ด้วย
  • รายจ่ายประจำปี เช่น ค่าท่องเที่ยว ค่าล้างแอร์ ค่าปรับปรุงบ้าน ค่าซื้อรถใหม่ ค่าประกันรถ ประกันภัย ประกันชีวิต ค่าโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ ค่าเสื้อผ้า รองเท้า ค่าใช้จ่ายในวันสำคัญต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยของชิ้นไหนที่มีอายุการใช้งานเกินปีก็ให้เฉลี่ยเป็นราคาต่อปีหรือต่อเดือนที่ต้องจ่าย อย่างโทรศัพท์มือถือราคา 18,000 บาท คาดว่าจะใช้ 3 ปีแล้วต้องเปลี่ยน ก็เฉลี่ยเป็นรายจ่ายปีละ 6,000 บาทหรือเดือนละ 500 บาทก็ได้
ถ้าคุณทำได้อย่างที่บอก...ค่าใช้จ่ายที่คุณไม่เคยเคยคิดว่ามีอยู่จริงจะปรากฏให้เห็น ผีที่เคยบังตาจะไปผุดไปเกิด คำที่ว่า “ไม่รู้เงินหายไปไหนหมด” จะไม่ใช่เรื่องลึกลับอีกต่อไป คุณจะรู้ว่าแต่ละเดือนมีรายจ่ายฟิกซ์เท่าไหร่ คราวนี้ก็มาทำแผนการเงินให้เห็นเป็นภาพชัดๆ ล่วงหน้า 5-10 ปีเป็นอย่างน้อย พึงตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น วางแผนอนาคตทางการเงินของคุณซะ
 
OMG! : คุณจะได้เห็นตัวเลข 6 หลักในรายจ่ายผีหลอกในแต่ละปี หากลดส่วนนี้ได้ นั่นคือเงินสะสมของคุณ
 
2.ตัดกรรมกับเจ้ากรรมนายเวร
หากยังเป็นหนี้มีกรรมอยู่ล่ะ ทำไงดี...ก่อนอื่นให้มองว่า หนี้คือค่าใช้จ่ายที่คุณต้องจ่าย ซึ่งแบ่งได้เป็นค่าใช้จ่ายที่ค้างมาแต่อดีต (หนี้) ค่าใช้จ่ายในปัจจุบันที่ต้องเกิดแน่ๆ ทุกวัน และค่าใช้จ่ายสำหรับอนาคต (การลงทุน การออม และการสร้างความมั่นคง)

เอาหนี้ทั้ง 3 ส่วนออกมากาง แล้วหันไปดูรายรับ โดยทำการแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกให้ใช้สำหรับรายจ่ายจำเป็นในชีวิตประจำวัน จำกัดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าจะให้ดีไม่ควรเกิน 40% ของรายรับ เก็บ 10-20% ไว้ออมและเผื่อเหตุฉุกเฉิน ที่เหลือราว 40-50% ให้เลือกโปะหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงสุดให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ หนี้ส่วนที่ดอกน้อยกว่าก็ชำระตามยอดจริงไม่ต้องโปะ พยายามอย่าให้ดอกเบี้ยงอกงามในกระถางของเจ้ากรรมนายเวร รีบตัดกรรมแล้วหาทางลงทุนให้ดอกเบี้ยงอกงามในกระถางของคุณบ้าง
 
OMG! : หนี้คอนโดราคา 2 ล้าน คิดดอกเบี้ยเฉลี่ยในปัจจุบัน (6%) ถ้าคุณผ่อนเดือนละ 13,000 บาท จะต้องใช้เวลาผ่อนประมาณ 20 ปี และเสียดอกเบี้ยราว 1.2 ล้าน หรือเฉลี่ย 5,000 บาท/เดือน และราคาที่คุณต้องจ่ายสำหรับเงินกู้ก้อนนี้มากถึง 3.2 ล้าน
 
3.พึ่งใบบุญของคุณเอง
คุณอาจจะคุมรายจ่ายประจำได้แล้ว แต่รายจ่ายจรแบบเงินก้อนใหญ่จากการเจ็บป่วย อุบัติเหตุ อาจทำให้คุณสูญเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต การทำประกันสุขภาพและอุบัติเหตุจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม พิจารณาจำนวนเงินที่คุณพร้อมจ่าย คุณอาจมองว่ามันทำให้แผนการออมของคุณสำเร็จช้าลง แต่จริงๆ แล้วมันคือการสร้างใบบุญให้ความมั่นคงในการออมของคุณต่างหาก การซื้อประกันนั้นมีให้เลือกหลายรูปแบบ ศึกษาให้ดี เลือกให้ตรงกับเป้าหมายและแผนการเงินของคุณ จะได้ไม่เสียใจภายหลังที่ต้องซื้อประกันแบบที่คุณไม่ต้องการ อย่าลืมเจียดเงินบางส่วนไปซื้อกองทุนที่ใช้ลดหย่อนภาษีบุคคลด้วยนะ
 
OMG! : เงินซื้อประกันสุขภาพหรือประกันชีวิต เป็นเงินที่จ่ายไปเพื่อป้องกันความเสี่ยงให้กับเงินเก็บ และความมั่นคงของคุณกับครอบครัว มันไม่ใช่การออมเงินหรือทางสร้างกำไรจากดอกเบี้ย
 
การบริหารเงินมีตำราอยู่มากมาย แต่ลองเริ่มต้นง่ายๆ ตาม 3 ข้อนี้ดูก่อนว่าทำได้ไหม และเมื่อคุณเป็นหนุ่มสาว Gen Y น้ำดี ที่ไม่ต้องแบกหนี้แบบซ้ำซ้อนได้แล้ว คุณสามารถศึกษาการลงทุนเพิ่มเติม และเลือกรูปแบบที่ใช่ที่ชอบ เพื่อตอบโจทย์อิสระทางการเงินเมื่อวัยเกษียณมาถึง
 
-->