Drinker Tips: ดูแลตัวยังไง ให้ปลอดภัยจากโรคตับ
การดื่ม ‘แอลกอฮอล์’ ในปริมาณมากๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ถือเป็นสาเหตุสำคัญของโรคตับ ไม่ว่าจะเป็นไขมันพอกตับ ตับอักเสบ ตับแข็ง หรือแม้แต่โรคร้ายแรงอย่างมะเร็งตับ ซึ่งเกิดจากการที่ตับได้รับความเสียหาย เกิดเป็นแผลถาวรจนไม่สามารถฟื้นฟูซ่อมแซมตัวเองได้ วันนี้เราเลยเอา Tips ดีๆ มาให้สายดื่มสายปาร์ตี้ ที่แม้จะยังรักที่จะอยู่ในวงการนี้ แต่ก็สามารถมีสุขภาพตับที่ดีได้เหมือนกัน!
Tip 1: ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเป็นประจำนั้น จะช่วยเผาผลาญไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) และไขมันที่สะสมอยู่บริเวณตับ ช่วยลดโอกาสเกิดไขมันพอกตับ และตับอักเสบ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาโรคตับ โดยเฉพาะนักดื่มคนไหนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกินเกณฑ์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยลดโอกาสเกิดตับอักเสบ และไขมันพอกตับได้ โดยควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที ให้ได้ 3 - 5 วันต่อสัปดาห์
Tip 2: เลือกกินอาหารที่ดีต่อ ‘ตับ’
ไม่ใช่แค่แอลกอฮอล์ที่ส่งผลเสียต่อตับ อาหารบางประเภทก็สามารถส่งผลเสียต่อตับได้เหมือนกัน โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat) ที่มักจะอยู่ในของทอด เนื้อสัตว์ติดมัน เนย หรือผลิตภัณฑ์จากนมที่มีไขมันสูง ซึ่งควรบริโภคให้น้อยลง และหันมากินอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงและฟื้นฟูตับ อย่างผักตระกูลกะหล่ำ ก็จะช่วยเพิ่มระดับเอนไซม์ล้างพิษในตับ, โอเมก้า 3 ซึ่งเป็นไขมันดีที่จะช่วยลดการอักเสบของตับ หรือแม้แต่ชาเขียว ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระคาเทชิน (Catechins) ช่วยยับยั้งการดูดซึมไขมัน และลดการสะสมของไขมันที่ตับได้
Tip 3: เลิกนิสัยกินยาพร่ำเพรื่อ
การกินยาโดยไม่จำเป็นนั้น อาจทำให้ตับที่มีหน้าที่กำจัดของเสียออกจากร่างกาย ทำงานหนักจนมีปัญหาได้ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ยาหาซื้อได้ค่อนข้างง่าย ยาหลายชนิดไม่ต้องใช้ใบสั่งจากแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นยาปฏิชีวนะต่างๆ หรือแม้แต่ยาแก้ปวดลดไข้อย่างพาราเซตามอล ที่หากกินมากเกินไป ก็ส่งผลเสียต่อตับได้เหมือนกัน นอกจากนี้ การกินสมุนไพร หรืออาหารเสริมบางชนิดก็ต้องระวัง เพราะอาจมีโทษมากกว่าประโยชน์ ถ้ากินติดต่อกันเป็นเวลานาน แม้แต่การกินวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินที่ทำละลายในไขมันอย่าง A, D, E, K ซึ่งตับไม่สามารถขับออกทางปัสสาวะได้ ทำให้อาจเกิดการสะสมอยู่ในร่างกายจนเกิดผลเสียได้
Tip 4: อย่าลืมตรวจสุขภาพประจำปี
โรคตับเป็นโรคที่ไม่ค่อยแสดงอาการในระยะแรกๆ ถ้าปล่อยจนเริ่มมีอาการ ก็อาจจะทำให้แพทย์รักษาได้ยากขึ้น การตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้การรักษาทำได้ง่าย และมีโอกาสหายขาดสูง โรคตับสามารถตรวจพบได้จากการตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรตรวจเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะคนที่มีไลฟ์สไตล์ชอบดื่มชอบสังสรรค์ ควรจะเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคตับด้วยการทำอัลตราซาวน์ช่องท้องส่วนบน พร้อมกับตรวจเลือดดูการทำงานของตับ และดูค่ามะเร็งตับ (AFP) ควบคู่ไปด้วย ซึ่งถ้าพบความผิดปกติ ก็จะสามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที
ตับถือเป็นอวัยวะที่สำคัญ การดูแลตับให้ Healthy และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอเป็นสิ่งจำเป็น รู้แบบนี้แล้ว สายปาร์ตี้ก็อย่าหักโหม Hangout หนักจนเกินไป พักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำให้ได้วันละ 1.5 - 2 ลิตร ที่สำคัญอย่าดื่มหนักจนเกินไป เว้นระยะให้ตับได้พักฟื้นตัวเองบ้าง ก็จะช่วยให้ตับมีสุขภาพดี และลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคตับลงได้