Be True To Yourself... รู้จักตัวตนแบบเรียลๆ ของ คิทตี้ ชิชา อมาตยกุล
สารภาพเลยว่าครั้งแรกก็มีแอบคิดว่าผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นคนแรงๆ แต่พอได้เจอตัวจริง ได้ทำงานด้วยกันในวันที่เธอมาให้สัมภาษณ์และถ่ายปกกับเรา ทั้งรอยยิ้มที่สดใส แววตาที่มุ่งมั่น คำพูดที่ตรงไปตรงมา และการทำงานแบบมืออาชีพ มันทำให้เรารับรู้ได้เลยว่าคิทตี้-ชิชา คือผู้หญิงเจนใหม่ที่มีความคิดและซื่อสัตย์กับความเป็นตัวตนมากที่สุดคนหนึ่งตั้งแต่ที่เราเคยเจอมา
การ “ยอมรับ” ยังไม่ใช่ที่สุดของ “ความสำเร็จ”
ถึงแม้ว่าเธอจะตีบทแตกกระจุยกระจายกับบทบาทของ “แนนโน๊ะ” ลูกสาวซาตานที่พูดถึงกันทั่วบ้านทั่งเมืองในซีรีย์เรื่องเด็กใหม่ แต่เชื่อมั๊ยว่านี่ยังไม่ใช่ความสำเร็จที่เธอมองหา “คิทมองว่าถ้าเรายังไม่ตายก็ต้องเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ เพราะถ้าเรามองว่าสำเร็จ แล้วไม่ทำอะไรที่ดีขึ้น มันก็จะเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” เธอจึงอยากมีโอกาสได้ลองบทบาทที่หลากหลายและตื่นเต้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันที่ตัดสินใจรีไทร์จากการเป็นนักแสดง “อยากลองบทคนพิการหรือคนที่มีตัวตนอยู่จริงๆ ที่มีหลากหลายแง่มุม ทั้งมุมมองต่อสิ่งที่ต้องรับมือ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต”
งานแสดง...คือสิ่งเติมพลังให้กับชีวิต
“ทุกคนก็อยากจะพักร้อนจากการเป็นตัวเอง บางทีก็เหนื่อยกับชีวิตประจำวัน อยากหนีไปเที่ยว ซึ่งคิทมองว่าการเป็นนักแสดงคือการได้หนีเที่ยว ได้เป็นคนอื่นโดยที่ในชีวิตจริงเราไม่มีทางเป็นได้” และการเป็นนักแสดงยังทำให้เธอได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ได้สวมบทบาท “เราได้เรียนรู้ เราปลงมากขึ้น ในขั้นตอนของการเป็นตัวละคร มีการปรับความเข้าใจโลก ว่าทุกสิ่งมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป คิทไม่ตื่นเต้นกับสิ่งต่างๆ เหมือนที่คิดว่าตัวเองเคยเป็น” นี่คือสิ่งที่เธอเรียนรู้จากซีรีย์เรื่องล่าสุด
นำเสนอปัญหาสังคม...ผ่านตัวละครที่ได้รับ
เธอเล่าให้เราฟังว่า “ซีรีย์เรื่องเด็กใหม่เป็นการตีแผ่ปัญหาสังคมที่ไม่ค่อยมีใครหยิบมาพูดถึง หลังจากที่ได้ศึกษาบทและแบคกราวด์ของแต่ละเหตุการณ์ เรามองว่าปัญหาต่างๆ มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า เพียงแต่ยังไม่เคยได้ถูกแก้ไขอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นครูที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม การล่วงละเมิดทางเพศ การเห็นแก่ประโยชน์ตัวเองมากกว่าเด็ก” ซึ่งการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนเธอเชื่อว่าอยู่ที่กระบวนการคัดกรอง “อาจจะปรับให้เข้มข้นมากขึ้น ถ้าเราอยากให้ครูเป็นแม่แบบให้อนาคตของชาติ เขาก็ต้องมีมุมมองหรือวิธีคิดที่ดี เพราะถ้าตัวเองยังเป็นครูที่ดีไม่ได้ แล้วจะเป็นแม่พิมพ์ให้เด็กได้อย่างไร”
ส่วนอีกเรื่องที่เธอมองว่าสำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องของการแสดงออกทางความคิดเห็น “ความจริงไม่ว่าทั้งผู้หญิงหรือผู้ชาย บางครั้งพิมพ์อะไรไปโดยไม่ทันได้คิดไตร่ตรองว่าจะมีใครเข้ามาเห็นบ้าง หรือมันจะอยู่ตรงนั้นตลอดไปหรือเปล่า หลายครั้งที่เราเห็นการใช้คำพูดล่วงละเมิดนักแสดงหรือคนหน้าตาดี เช่น อยากเอามาทำผัว เห็นแล้วอยากข่มขืน ซึ่งแน่นอนแหละว่าเป็นใครได้ยินก็คงไม่ชอบ แล้วมันยังสะท้อนถึงตัวคนพูดเองด้วย”
เป็นตัวของตัวเอง...ก็มีสิทธิ์ที่จะโดนมองว่า “แรง” ได้
คำตอบนี้ทำให้เราได้เห็นถึงแอดติจูดแบบเรียลๆ ในสไตล์ของคิทตี้ ชิชา “บางครั้งมันอาจจะตรงกินไป อาจไม่ได้ถนอมน้ำใจคนอื่น ซึ่งการเป็นตัวเองมากเกินไป บางครั้งมันก็อาจทำให้คนอื่นไม่สบายใจที่จะทำความเข้าใจ และถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ปัญหาของเรา แต่ถ้าเราเลือกแล้วว่าจะอยู่ในสังคมนี้ ยอมเอนอ่อนในบางเรื่องบ้าง มันก็จะทำให้เราสามารถอยู่ในสังคมร่วมกับคนอื่นได้”
เมื่อเจอจุดดาร์ก...ต้องรู้จัก “ดึงสติ”
และเมื่อเราถามว่าในเมื่อทุกคนมีมุมดาร์กในตัวเอง จะมีวิธีดึงตัวเองไม่ให้เข้าไปอยู่ในจุดนั้นได้ยังไง เราเชื่อว่าคำตอบของเธอจะต้องไปสะกิดโดนใจใครหลายคนเลยล่ะ “มนุษย์เราประเสริฐกว่าสัตว์อื่นๆ เพราะเราสามารถยับยั้งชั่งใจได้ เราสามารถปฏิเสธได้ เลือกที่จะไม่ทำไม่ว่ามันจะยั่วยุหรือหอมหวนแค่ไหนก็ตาม เราไม่ใช่สัตว์โลกที่เป็นไปตามกรรม จึงสามารถหยุดหลายๆ การกระทำของตัวเองได้ แต่ถ้าเราเลือกที่จะไม่หยุด คิทมองว่าอาจจะบาปกว่าคนที่เลือกไม่ได้ด้วยซ้ำ”
สุดท้ายเมื่อเราให้คิทตี้นิยามความเป็นตัวตน “ก็เป็นคิทตี้ค่ะ เป็นคิทตี้ที่ไม่ได้ติดโบว์สีแดง ไม่ได้มีปาก ต่างกับตัวนั้นเยอะเลย หรือถ้าเปรียบเทียบกับอาหาร คิทคงเป็นอาหารที่ไม่ได้ใส่ผงชูรส เพราะนี่คือสิ่งที่เราเป็นจริงๆ เราไม่รู้หรอกว่าคนที่ทานเข้าไปจะรับรสอะไรได้ บางคนอาจจะรู้สึกเค็ม เปรี้ยว หวาน หรือจืด แต่ที่แน่ๆ คือเราไม่ได้ใส่ผงชูรสล่ะกัน”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
She is addicted to…
• หนังสือ : Dance Dance Dance ของ Haruki Murakami “หนังสือที่แฟนตาซีประมาณหนึ่ง สอนว่าชีวิตเหมือนการเต้นไปตามจังหวะดนตรี คร่อมจังหวะบ้าง พลาดบ้าง แต่สุดท้ายเราก็ต้องปรับเข้ากับจังหวะให้ได้”
• เวลา : สิ่งที่ทุกคนมีเท่ากันไม่ว่ารวยหรือจน เราต้องจัดการมันให้คุ้มค่าที่สุด
• การนอน : “สิ่งสำคัญมากที่ในหนึ่งอาทิตย์ที่ทำงาน เธออยากมีวันนึงที่ไม่ต้องลุกออกจากเตียง อยู่ในห้อง บนเตียง กินข้าว ดูซีรีย์”
• ไอศกรีม : สิ่งที่เธอมองหาเวลาทำงานมาเหนื่อยๆ
• ข้าวไข่ดาว : เมนูที่เธอสามารถทานได้ทุกวัน
