7 เทรนด์สุขภาพ... ที่ควรทิ้งไว้ในปี 2018

เทรนด์รักสุขภาพทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ช่วง 2-3 ปีที่แล้ว และไม่มีทีท่าจะหายไป 

มีตั้งแต่เทรนด์ที่ทุกคนทำง่ายและได้ผล เช่น การกินคีโตที่หลายคนยืนยันว่าช่วยลดน้ำหนักได้จริง ไปจนถึงเทรนด์ที่เข้าใจยาก อย่างการบำบัดด้วยความเย็น

แต่การที่คนหนึ่งทำแล้วเกิดผลดี ก็ใช่ว่าอีกคนทำแล้วจะเกิดผลน่าพอใจเหมือนกัน... และนี่คือ 7 เทรนด์ที่ควรทิ้งไว้ในอดีต


• อะไรๆ ก็ชาร์โคล
ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีทองของ “ผงถ่านแอคทิเวทชาร์โคล” จริงๆ เพราะมองไปทางไหนก็เห็นแบรนด์ต่างๆ ขนสินค้าสีดำออกมาเอาใจสายเฮลธ์ตี้ ซึ่งก็ทราบดีว่าถ่านมีคุณสมบัติเด่นคือการ “ดูดซับ” ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจึงมีทั้งการช่วยให้ฟันขาว ระงับกลิ่นกาย และมากส์หน้า โดยหารู้ไม่ว่าไม่ควรเอามากิน!!! 

แม้ตามโฆษณาจะพูดถึงสรรพคุณของผงถ่าน ว่าช่วยให้สุขภาพผิวดีขึ้น ช่วยลดน้ำหนัก ชะลอความแก่ รวมถึงล้างพิษแถมมีแคปซูลผงถ่านที่ช่วยบรรเทาอาการลำไส้แปรปรวนได้ แม้จะเกิดผลดีกับหลายคน แต่ผลข้างเคียงกลับไม่มีใครพูดถึงนัก โดย Kim Melton นักโภชนาการบอกว่า ยังไม่มีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือยืนยันผลเหล่านี้

“เราไม่จำเป็นต้องใช้ผงถ่านช่วยล้างพิษ เพราะเรามี “ตับ” ทำหน้าที่นั้นอยู่แล้ว และผงถ่านก็อาจเป็นต้นเหตุของการท้องผูกหรือท้องเสียได้เหมือนกัน มันจะดูดซับทั้งของดีและของเสียในลำไส้ รวมถึงดูดซึมตัวยาที่คุณกินเข้าไปด้วย”

• น้ำมันกัญชา รักษามะเร็ง ?
Snehal Smart แพทย์จากศูนย์ Mesothelioma Center บอกว่า แม้งานวิจัยบางชิ้นบ่งชี้ว่าน้ำมันกัญชาช่วยลดความทรมานจากโรคไขข้ออักเสบและอาการนอนไม่หลับได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าจัดการกับมะเร็งได้

“ปีที่ผ่านมา น้ำมันกัญชาเป็นที่พูดถึงในวงการการรักษามะเร็งอย่างมาก ซึ่งช่วยให้ผู้ที่กำลังเข้ารับการรักษาสามารถกินและนอนได้ ทว่ามันไม่ได้ช่วยชะลอหรือจัดการมะเร็ง” เธอยืนยันว่าน้ำมันกัญชาไม่สามารถมาแทนที่การรักษามะเร็ง

ทั้งนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ก็เคยออกมาตักเตือนบรรดาบริษัทที่ออกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา โดยอ้างว่ารักษาผู้ป่วยมะเร็ง ทั้งที่ผลลัพท์ไม่ได้เป็นเช่นนั้น



 
• ไม่กินอาหารหลัง 6 โมงเย็น
Parinaz Samimi ครูสอนโยคะและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ บอกว่า การกำหนดเวลาการกินตายตัวดูเหมือนเป็นกลยุทธ์ที่ดีในการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นพวกที่หิวกลางดึกหรือชอบลุกขึ้นมาเปิดตู้เย็นกลางดึก 
 
“การกินของว่างตอนดึกอาจเป็นการทำร้ายสุขภาพโดยเฉพาะถ้าเป็นอาหารขยะ แต่ความจริงแล้วเราสามารถได้ประโยชน์จากการกินมื้อดึกได้... คุณจะหลับได้ดีกว่าหากเข้านอนแบบอิ่มท้อง สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และมีการวิจัยพบว่า ดีต่อการสังเคราะห์โปรตีนสำหรับกล้ามเนื้ออีกด้วย” Samimi  อธิบาย
 
• นอนเยอะๆ ดีต่อสุขภาพ
การนอนหลับเป็นองค์ประกอบสำคัญของการมีสุขภาพร่างกายละจิตใจที่ดี แต่ต้องนอนในปริมาณที่เหมาะสมด้วย เพราะการนอนนานเกินไปก็ไม่ดีเหมือนกัน... คุณคงรู้จักกวินเน็ธ พัลโทรว์ ดาราฮอลลีวูดสายเฮลธ์ตี้ชื่อดัง ที่พูดถึง clean sleeping หรือการนอนให้ได้อย่างน้อย 9 ชั่วโมงต่อคืน ดาราดังบอกว่าถ้ามากกว่านั้นได้จะยิ่งดี ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เราควรนอนหลับคืนละ 7-9 ชั่วโมง!!!

Samimi  อธิบายว่า “การนอนเยอะเกินไปก็ไม่ต่างจากการอดนอน มีงานวิจัยพบว่าอาจทำให้เกิดโรคอ้วน โรคเบาหวานและโรคหัวใจได้”



• อโวคาโดโทสต์
เมนูนี้มีสารอาหารมากมาย ทั้งไขมันดี วิตามิน โปรตีน กากใย แต่ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อมีคนบ้าเทรนด์นี้แบบสุดโต่ง
David Prologo แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักอธิบายว่า “ฉันรักอโวคาโดโดทสต์นะ มันเป็นมื้อเช้าที่ทำได้ง่ายและให้พลังงานได้ดี อโวคาโดเป็นแหล่งไขมันชั้นดีแต่เมื่อคุณทำเมนูนี้คุณต้องกินอโวคาโดทั้งลูกซึ่งให้พลังงานประมาณ 225 kcal และหากคุณเติมไข่ดาวรวมถึงท้อปปิ้งอื่นๆ เข้าไป อาหารเช้าที่คุณมองว่า “เฮลธ์ตี้” มื้อนี้ก็อาจให้พลังงานมากถึง 500 kcal เลยล่ะ

• กินคีโต
Rebecca Lewis นักโภชนาการ บอกว่า เทรนด์นี้มีชื่อเต็มๆ ว่าคีโตเจนิค เป็นวิธีการกินที่ช่วยให้น้ำหนักลดลงโดยไม่ต้องอดอาหาร โดยการเน้นกินอาหารไขมันสูงและจำกัดคาร์โบไฮเดรต ที่วันละ 40 กรัม สูตรเดียวกับที่ผู้ป่วยโรคลมชักกินเพื่อควบคุมอาการของโรค... แต่เราไม่ควรกินแบบนี้ไปตลอด 

เพราะการจำกัดคาร์โบไฮเดรตและห้ามกินผักและผลไม้ นั้นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพมองว่า อาจทำให้ขาดสารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อได้
 
• โยคะร้อน
โยคะได้รับการยอมรับว่าเป็นศาสตร์ที่ดีต่อทั้งร่างกายและจิตใจมาหลายร้อยปี ยิ่งปัจจุบันมีการนำศาสตร์นี้มาประยุกต์เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายสูงที่สุด รวมถึง “โยคะร้อน” ด้วย แต่ Elizabeth Trattner แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนตะวันออก บอกว่า คุณต้องคิดให้ถี่ถ้วนอีกครั้งหากจะลองโยคะร้อนโดยเฉพาะถ้าคุณมีอายุมากกว่า 50 ปี 
 
“ฉันรักโยคะมากโดยเฉพาะในช่วงวัยหมดประจำเดือน แต่โยคะร้อนสำหรับสาววัยนี้อาจทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาดและบาดเจ็บได้ เพราะฉันได้เห็นหญิงวัยเดียวกันหลายคนบาดเจ็บจากคลาสโยคะร้อนมาแล้ว”

แต่เราไม่ได้ให้คุณเลิกโยคะ เพราะมันยังเป็นกิจกรรมที่ดีสำหรับทุกเพศทุกวัย ทางที่ดีถ้าคุณอยู่ในช่วงวัยนี้ อาจลองหยินโยคะ เรสโตเรทีฟ โยคะ หรือเจนเทิล โฟลว์ โยคะ จะดีกว่า นอกจากนี้ยังมีการวิจัยพบว่าเจนเทิล โฟลว์ โยคะช่วยลดอาการที่มักเกิดในช่วงวัยทอง สามารถช่วยให้ผ่านพ้นช่วเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงไปได้

ทางที่ดีก็อย่าวิ่งตามเทรนด์จนไม่ลืมหูลืมตา ควรศึกษาให้ดีก่อนว่าเทรนด์นั้นๆ มีผลดี ผลเสีย หรือผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า เพราะสุดท้ายอาจเป็นการทำร้ายสุขภาพตัวเองโดยไม่รู้ตัว



 
-->