5 Celebrities กับปัญหาทาง(จิต)ใจ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้
ประโยคเด็ดอย่าง “they not only survived but thrived” คงเป็นอะไรที่อธิบายบรรดาเซเลบที่เรากำลังจะพูดถึงได้ดีที่สุด เพราะพวกเขาไม่ใช่แค่ผู้ที่เอาตัวรอดเก่ง แต่คือผู้ฟันฝ่าอุปสรรคไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “ความสำเร็จ” ได้ต่างหาก
และหนึ่งในอุปสรรคที่ว่าก็คือปัญหาทางจิตใจที่โลกอาจมองข้าม มูลนิธิ HOPE FOR DEPRESSION ให้ความเห็นว่าโรคซึมเศร้านั้น ส่วนใหญ่คนที่ประกอบอาชีพนักแสดง/ศิลปินจะเป็นกันเยอะ ซึ่งพวกเขานี่จัดเป็นพลังบริสุทธิ์ที่ประกาศก้องว่า “โรคทางจิตเวช” ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป
...และด้วยเหตุนี้ เลยอยากให้คุณได้ลองเรียนรู้เรื่องราวหลังฉากของ 5 เซเลบริตี้เหล่านี้ เพื่อจะได้เตรียมพร้อมป้องกันและรับมือกับความรู้สึกดาวน์ได้ง่ายขึ้น
1. DWAYNE, THE ROCK JOHNSON
Photo credit: Looper
ดเวย์น จอห์นสัน หรือ เดอะร็อคที่เรารู้จักเคยประสบอุบัติเหตุตอนช่วงที่กำลังศึกษาในระดับวิทยาลัย เป็นสาเหตุให้รู้สึกเครียดและซึมเศร้าสะสมเรื่อยมา ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าช่วงเวลานั้นมันคือความทรมานขั้นสุด โดยหวังว่าจะมีสักคนเดินเข้ามาปลอบใจให้ผ่านความรู้สึกแย่นี้ไปได้ สิ่งที่วนอยุ่ในหัวของเขานั้นเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไร และไม่รู้ว่าอาการแบบนี้มันคืออะไร แต่โชคดีที่ดเวย์นดึงสติตัวเองกลับได้ทันเวลา เขาเล่าว่าตัวช่วยให้เยียวยาตัวเองก็คือการรับรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลก รอบตัวเขาเองก็มีคนอีกมากมายที่กำลังเผชิญกับภาวนะนี้เช่นกัน ซึ่งมันทำให้เขาปรับจูนตัวเองจนก้าวผ่านมันไปได้
ดเวย์น จอห์นสัน หรือ เดอะร็อคที่เรารู้จักเคยประสบอุบัติเหตุตอนช่วงที่กำลังศึกษาในระดับวิทยาลัย เป็นสาเหตุให้รู้สึกเครียดและซึมเศร้าสะสมเรื่อยมา ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าช่วงเวลานั้นมันคือความทรมานขั้นสุด โดยหวังว่าจะมีสักคนเดินเข้ามาปลอบใจให้ผ่านความรู้สึกแย่นี้ไปได้ สิ่งที่วนอยุ่ในหัวของเขานั้นเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไร และไม่รู้ว่าอาการแบบนี้มันคืออะไร แต่โชคดีที่ดเวย์นดึงสติตัวเองกลับได้ทันเวลา เขาเล่าว่าตัวช่วยให้เยียวยาตัวเองก็คือการรับรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลก รอบตัวเขาเองก็มีคนอีกมากมายที่กำลังเผชิญกับภาวนะนี้เช่นกัน ซึ่งมันทำให้เขาปรับจูนตัวเองจนก้าวผ่านมันไปได้
2. JIM CARREY
Photo Credit: Google Image
ถ้าเคยดูภาพยนต์เรื่อง “The Mask หน้ากากเทวดา” จิมคือคนที่ถูกมองว่าตลกและเป็นผู้ประสบความสำเร็จร่ำรวยจากการกวาดรายได้หลายล้านดอลลาห์ แต่ความจริงเขาคือมนุษย์ที่เก็บความรู้สึกผ่านแรงกดดันต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามาไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งพอต้องรับแรงกดดันและความเครียดอยู่บ่อยๆ มันก็พาเขาเข้าไปสู่โรคซึมเศร้าในที่สุด โดยจิมเผยกับสื่อว่า ช่วงนั้นเขาไม่รู้ว่าจะพาตัวเองออกมาจากภาวะนี้ได้ยังไง เพราะมันมืดแปดด้านไปหมด
และแม้ว่าเขาจะพบแพทย์เพื่อทำการรักษา แต่ลึกๆ ก็ทำใจแล้วว่าอาจต้องอยู่กับภาวะซึมเศร้านี้ตลอดไป เพราะจิมเชื่อว่ามันคือโรคเรื้อรังและรักษาไม่หาย แต่ท้ายที่สุดเขาก็สามารถเอาชนะมันได้ด้วยศิลปะบำบัด รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเอง เช่น หลีกเลี่ยงการดื่ม หรือการใช้สารเสพติด ซึ่งตอนนี้เขาพร้อมเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วยโรคนี้ด้วยการแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับการก้าวผ่านภาวะซึมเศร้าในรูปแบบของเขานั่นเอง!
3. PRINCE HARRY
Photo Credit: Fox News
เจ้าชายแฮรี่คือบุคคลที่เปิดใจยอมรับและไม่ปล่อยให้ปัญหาด้านจิตใจของตัวเองผ่านไปง่ายๆ ในช่วงสองปีแห่งความโกลาหลในหัว เขาได้ตัดสินใจเข้าพบจิตแพทย์ สิ่งที่กระตุกปมความเศร้าและวิตกกังวลนั้นมาจากการเสียชีวิตของเจ้าหญิงไดอาน่าผู้เป็นแม่ ซึ่งเจ้าตัวเผยกับสื่อว่า เป็นระยะเวลากว่ายี่สิบปีที่ความรู้สึกมันไม่เคยหายไปไหน และที่แย่สุดคือช่วงที่เขาอายุได้ 28 ที่เขารู้สึกเหมือนทุกอย่างมันประทุในหัวและพร้อมที่จะเสียสติได้ตลอดเวลา ซึ่งการเข้ารับการรักษาและปรับตัว ไม่ละเลยต่อจิตตัวเองทำให้เขาก้าวผ่านมันมาได้ ปัจจุบันเจ้าชายแฮรี่กับพี่ชายได้ร่วมกันรณรงค์โดยมุ่งหวังที่จะเปิดใจให้ผู้ประสบภาวะนี้ออกมายอมรับและพร้อมที่จะก้าวผ่านไปอย่างไม่ต้องรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่น่าอับอาย
4. J.K. Rowling.
4. J.K. Rowling.
Photo Credit: J.K.
ชื่อเสียงที่โด่งดังจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Harry Potter ไม่ได้ทำให้เธอคนนี้นอนหลับตาได้สนิท ด้วยชีวิตที่เรียกว่าเป็นการผ่านสมรภูมิรบ การสุญเสียคุณแม่สุดที่รัก ความวิตกกังวลกับการให้กำเนิดลูกคนแรก การหย่าร้างกับสามี และปัญหาครอบครัวต่างๆ ทุกอย่างถาโถมก่อตัวเป็นภาวะซึมเศร้า ซึ่งเมื่อเธอได้สัมผัสกับช่วงเวลาที่แย่ที่สุดมากมายจนป่วยเป็นซึมเศร้า สุดท้ายจึงตัดสินใจปรับความคิดและหยุดให้โรคนี้ทำลายชีวิตของเธอทันที เจ.เค. ได้ตัดสินใจเข้าพบจิตแพทย์เพื่อเยียวยาความทรมานนี้อย่างเปิดใจ เพื่อให้จิตตัวเองกลับมามีความสุขได้อีกครั้ง
5. Ted Turner
5. Ted Turner
Photo credit: ibpf
เจ้าของสำนักข่าวชื่อดัง CNN ท่านนี้ คือผู้ประกอบการที่จัดว่าความร่ำรวยอยู่ในระดับท๊อป จะมีกี่คนที่รู้ว่าเขาป่วยเป็นโรคไบโพลาร์จนเกือบตัดสินใจปลิดชีพตัวเองมาแล้ว โดยสุดท้ายเจ้าตัวก็หยุดความคิดอันเลวร้ายนี้ไปได้ด้วยการพลิกอารมณ์สองขั้วของตัวเองให้เป็นประโยชน์ โดยเทดใช้ความบ้าพลัง ความไม่รู้สึกเหนื่อยมาประยุกต์ใช้กับการทำงานจนประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกันก็เข้ารับการรักษาทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องจนอาการค่อยๆ ดีขึ้น
และนี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของตัวอย่างเหล่าเซเลบริตี้ที่สามารถก้าวผ่านโรคทางใจไปได้ด้วยดี ถ้าหากคุณกำลังเผชิญหน้ากับมันอยู่ เราขอให้เปิดใจยอมรับเพื่อพร้อมที่จะเข้ารับการเยียวยาอย่างถูกต้องด้วยการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และอย่าลืมว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ เราขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทุกคนก้าวข้ามผ่านภาวะนี้ไปได้อย่างแข็งแรง