'Swan Nail' เริ่มจากความชอบ...จนกลายมาเป็นอาชีพ
หลายๆ คนใช้วิธีบำบัดความเครียดของตัวเองด้วยการเดินเข้าร้านอาหารบ้าง ร้านนวดบ้าง ร้านทำเล็บบ้างซึ่งเราก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เลือกใช้เวลาอยู่กับตัวเองซัก 1-2 ชั่วโมงกับการทำเล็บ คือนอกจากจะผ่อนคลายแล้ว ยังถือโอกาสมาทำสวยไปด้วยเลยทีเดียว ซึ่งวันนี้เรามีโอกาสได้รู้จักกับเจ้าของร้านทำเล็ย Swan Nail คุณอาย-พัชราภรณ์ นาคน้อย สาววัยทเวนตี้ซัมติงที่กล้าลุกขึ้นมาทำตามความฝันของตัวเองอย่างจริงจัง
ย้อนกลับไป...ก่อนจะกลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจ
เธอเล่าว่าเธอไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้โดยตรง “เราเรียนจบบัญชีมา พอเรียนจบก็ตัดสินใจไป Work and Travel ที่อเมริกา 4 เดือน หลังจากกลับมาก็ไปทำงานเป็นพนักงานบัญชีอยู่ที่กรุงเทพฯ พอลองทำได้สักพักเรารู้สึกไม่ชอบ มันไม่ใช่ตัวเอง ต้องนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศทั้งวัน เราชอบเจอคนเยอะๆ ชอบเข้าสังคม” เมื่อเธอพบว่ามันไม่ใช่…ก็ตัดสินใจเปลี่ยนทางเดิน “เราตัดสินใจลาออกจากงานที่ทำอยู่ พอดีกับมีเพื่อนสมัยเรียนชวนไปลองสมัครเป็นแอร์กราวน์ของสายการบินแห่งนึง ซึ่งหลังจากที่ผ่านการคัดเลือกต่างๆ ก็ทำอยู่ประมาณ 1 ปี จนพอเราเริ่มโตขึ้น เริ่มรู้สึกว่าถ้าเราจะสร้างครอบครัว เราต้องมีรายได้ที่มากกว่านี้”
ค้นหาตัวเองให้เจอ...ว่าสุดท้ายแล้วชอบอะไรกันแน่
หลังจากที่ลาออกมาเธอก็ได้ไปลองเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องความสวยความงามซึ่งเป็นด้านที่เธอมีแพชชั่น “ปกติเราเป็นคนชอบทำเล็บมาตั้งแต่เรียนแล้ว ก็คิดว่าเราน่าจะทำได้ก็เลยลองไปเรียน ใช้เวลาเรียน 6 เดือน ออกมาฝึกฝนเองอีก 6 เดือน พอได้ลองทำแล้วรู้สึกว่า เราแฮปปี้เราชอบมัน ไม่มีความทุกข์เลย”
จากความชอบสู่...บวกกับความมุ่งมั่นตั้งใจ
หลังจากที่เธอรู้ตัวแล้วว่าชอบการทำเล็บเธอก็ตัดสินใจทุ่มเทกับมันอย่างเต็มที่ “ตอนเราทำเล็บเราไม่เคยเบื่อเลย คือกี่ชั่วโมงเราก็ทำได้สบายมาก ถ้าคนที่ไม่ชอบก็จะเบื่อไปเลยนะ บางทีลูกค้าเข้าร้านทั้งวันเราก็ต้องนั่งอยู่แบบนั้นทั้งวันตั้งแต่ 10 โมง – 5 ทุ่ม ตอนแรกเราทำคนเดียวเคยรับมากสุด 20-30 คิว เรารักงานนี้เราต้องทุ่มเท มีความรับผิดชอบ เรามีค่าใช้จ่ายทุกเดือนจะมาไม่ทำงานไม่ได้"
ลูกค้าคือพระเจ้า! คำนี้คือเรื่องจริง
เห็นลูกค้าจองคิวกันแน่นทุกวันขนาดนี้เราเลยแอบถามเคล็ดลับว่าทำยังไงถึงมัดใจลูกค้าได้อยู่หมัด “จุดเด่นของร้านเราคือการบริการ แต่ละร้านจะมีช่างที่เก่งและไม่เก่งเหมือนกันหมด แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันคือการบริการ ความสบายใจ ความซื่อสัตย์ที่เรามอบให้ลูกค้า คำว่า “ลูกค้าคือพระเจ้า” มันจริงนะ เราอย่าคิดว่ามันแค่เงินร้อยสองร้อย ถ้าลูกค้ายังไม่รู้สึกว่าเป็นพระเจ้าแสดงว่าเรายังบริการได้ไม่ดี”
บางทีก็ต้องยอมเสียเงินแพงๆ...เพื่อแลกกับสุขภาพ
เมื่อต้องคลุกอยู่กับยาทาเล็บทุกวันๆ เราเลยสงสัยว่าเธอมีวิธีป้องกันเรื่องของการสูดดมสารเคมียังไงบ้างมั้ย “เราต้องดูแลสุขภาพตัวเองก่อน เริ่มจากการเลือกของที่มีคุณภาพอย่างน้ำยาทาเล็บเราจะเลือกเฉพาะที่มีใบรับรองว่าไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเท่านั้น มันเป็นผลดีกับทั้งตัวเราร้านและลูกค้า ร้านเราจะไม่มีกลิ่นน้ำยาทาเล็บเลย ยิ่งกลิ่นแรงยิ่งอันตราย ซึ่งถึงมันจะดูใช้ต้นทุนสูงแต่เรื่องของร่างกายเราก็ต้องรัก” เมื่อเลือกของดีเล็บลูกค้าก็จะดีด้วย “สุขภาพเล็บของลูกค้าถือเป็นเรื่องสำคัญ เราป้องกันโดยใช้น้ำยาเคลือบเล็บเพื่อไม่ให้เล็บเป็นอันตราย ไม่หัก ไม่เสีย และอยู่ได้นาน”
"กำลังใจ" คือยาชั้นดีที่ทำให้เธอหายเครียด
เห็นเธอเป็นคนมีความสุขสนุกสนานแบบนี้ลึกๆ แล้วเธอก็มีความเครียดเหมือนกัน “ความเครียดมันมีอยู่ทุกอาชีพแหละ ลูกค้าเราไม่เครียด แต่สิ่งที่ทำให้เราเครียดคือลูกน้อง เพราะบางทีลูกน้องทำไม่ดีกับลูกค้า ลูกค้าไม่ประทับใจ เราต้องแก้ไข ถ้าเราอยู่ที่ร้านเราก็จะเข้าไปดูแลด้วยตัวเอง แต่ถ้าวันไหนเราไม่อยู่ที่ร้านแล้วเกิดปัญหากลับมาเราก็เตือนลูกน้อง ทำผิดครั้งแรกเราให้อภัย แต่ถ้าทำผิดซ้ำหลายๆ ครั้ง เราก็ต้องหาคนใหม่” ส่วนวิธีรับมือกับความเครียดเธอเล่าว่า “ถ้าเครียดส่วนใหญ่จะโทรหาแม่, แฟนหรือไม่ก็แม่แฟน บางครั้งก็โทรไปร้องไห้บ้าง แต่ทุกครั้งเราก็จะได้คำพูดที่ให้กำลังใจกลับมาเสมอ มันก็คือหายเครียดเลย”
1-2 ชั่วโมงก็ถือว่าเป็นเวลาพักผ่อน
พูดคุยมาถึงตรงนี้ก็เริ่มสงสัยว่าทำงานหนักขนาดนี้เธอมีเวลาพักผ่อนหรือได้ไปกินในสิ่งที่ชอบบ้างรึป่าว เธอเล่าว่า “หลังเลิกงานเราชอบดูซีรีส์ ดูไปเรื่อยเลย ถ้ามีเวลาว่างก็จะไปออกกำลังกายนะเป็นพวกคาร์ดิโอ ไปอาทิตย์ละครั้งเพราะไม่ค่อยมีเวลา ”ส่วนเรื่องการกินบอกเลยว่าเธอก็ไม่แพ้ใคร “เราเป็นคนชอบกินมาก ถ้าช่วงไหนติดอะไรมากๆ ก็จะกินซ้ำๆ ตลอด เช่น มีช่วงนึงชอบกินชานมไข่มุก ก็กินทุกวันเป็นเดือนเลย แต่เราก็คุมนะ เพราะเราเป็นคนชอบถ่ายรูปเวลาไปเที่ยว พอเริ่มรู้สึกอึดอัดก็จะเริ่มคุมน้ำหนักแล้ว”
จากการพูดคุยทำให้ได้เห็นหลายๆ มุมมองของอาชีพนี้ รายได้ที่มาพร้อมกับความพยายาม ความอดทน การฝึกฝน รักในการบริการ กว่าเธอจะมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นเพราะความใส่ใจและการคิดบวกของเธอจึงทำให้ผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้